51 replies to this topic

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

Advertisements

ภายในครัวลูกเรือก็กำลังง่วนกับการนำอาหารร้อนเข้าเตา และเตรียมเครื่องดื่มและถั่วให้บริการไปก่อน

 

หลังจากนั้นไม่นาน (ก็เกือบๆ ชั่วโมงหลังทะยานจากนาริตะ) ลูกเรือก็เริ่มให้บริการถั่วและเครื่องดื่ม

(เห็นชัดว่า มีผู้โดยสารหลายคนเริ่มถามหาอาหารแล้ว เพราะทุกคนหิว ผมเองก็หิว)

 

สรุปก็คือ ขอซัดถั่วแบบไม่ยั้งเลย หิวมากกกกก

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ไปสำรวจห้องน้ำท้ายเครื่อง แถว 36 รับไปเต็มๆ

เริ่มหมดแรงครับ ขอนอนก่อนดีกว่า หมดพลังแล้ว .... นอนยาว 3 ที่นั่ง

 

สรุปอาหารมา เกือบๆ 2 ชั่วโมงหลังจากทะยานออกจากนาริตะ พูดง่ายๆ ก็คือ .... 

เครื่องออกจากนาริตะตอน 14.00 น. ได้ทานอาหารร้อนเกือบๆ จะ 16.00 น. (หรือบ่าย 2 โมงไทย)

 

ผมคิดว่า จริงๆ เรื่องอาหารน่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้นะ เพราะแต่ละคนสภาพหิวโซจริงๆ (บอกไว้ก่อนเลยว่า ควรหาอะไรทานที่นาริตะรองท้องไว้ก่อน !!)

สำหรับเมนูเที่ยวขากลับ นาริตะ-สุวรรณภูมิ มี 2 อย่างคือ พาสต้า กับ บะหมี่ไก่เทริยากิ (อาหารเป็นตระกูลเส้นด้วย ไม่ได้คณาท้องผมเลย 555+) 

 

แต่อยากจะบอกว่า สลัด+น้ำสลัด French Dressing และ เค้กทิรามิสุ อร่อยมากกกกกกกก

 

มาพร้อมขนมปัง เนย เช่นเคย .... พูดถึงขนมปังเนี่ยะ ผมรัก TG ที่สุดเลยยยยย จริงๆ นะ (ขนมปังอุ่นๆ เติมได้ตลอด ได้กินแล้วมีความสุขอย่างน้อยก็อิ่มขนมปังครับ)

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เนื่องจาก อาหารร้อน 1 ถาดไม่ได้คณาท้องผมเลย ...

 

ส่วนตัวผม ยึดถือคติ ด้านได้อายอด กับสายการบิน Full Service เสมอ

(แม้ตอนนี้จะอายุขึ้นเลข 3 แล้วก็ตาม แต่ก็คิดว่าตัวเองยังเป็นเด็ก เหมือน 10 ปีก่อน ตอนสมัยทำรีวิวสายการบินใหม่ๆ)

(ปล. อย่าไปใช้กับโลว์คอสต์นะครับ ไม่งั้นอาจโดนแอร์ตบได้ !! ของมีไว้ขายไม่ใช่แจกฟรี !!)

 

นั่นก็คือ ถ้าคุณต้องการอะไร คุณบอกลูกเรือเค้าไปเลยครับ ผมเชื่อว่า ว่าถ้าเขาจัดให้ได้ เขาก็จะจัดให้ !!

และแน่นอน สิ่งที่ผมต้องการก็คือ มีอะไรให้ผมกินได้อีกไหมครับ หิวววววววว

 

คุณลูกเรือบอกว่า อาหารร้อนหมดเกลี้ยงเลยค่ะ งั้นเดี๋ยวจัดให้ค่ะ เธอเดินมาเสิร์ฟให้ผมแบบนี้

จัดถั่วโกแก่มาเต็มพิกัดเลย น่ารักมากกกกกกกกก (ผมชอบสลัดผัก+French Dressing และเค้กทีรามิสุมากกก)

 

หลังจากที่ได้กินจนอิ่มหนำแล้ว ก็ได้เวลานอนครับ .... ฟ้าข้างนอกก็มืดลงๆ เรื่อยๆ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

หลังจากที่ได้พักผ่อนไปประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง .... ก็ได้เวลาทานของว่าง ก่อนเครื่องร่อนลงจอดที่สุวรรณภุมิราว 1 ชั่วโมงครึ่ง

 

เวลาขณะนี้ 17.30 น. ตามเวลาไทย (หรือ 1 ทุ่มครึ่งเวลาญี่ปุ่น) มีขนมปังให้เลือก 2 แบบคือ แฮมชีส หรือทูน่า

คุณลูกเรือ แอบกระซิบบอกว่า อันแฮมชีสอร่อยกว่า พร้อมอาสารับไปอุ่นให้ ก็จัดไปครับ !!

 

แต่อยากจะบอกว่า ผมเริ่มหิวอีกแล้ว 555+ แต่ก็แอบเกรงใจคุณแอร์

ก็เลยเลียบๆ เคียงๆ ไปบอกว่า น้ำสลัดอร่อยดีนะครับ (ความจริงคือ ชำเลืองเห็นสลัดกองอยู่ในครัวเป็นตั้งเลย)

 

คุณแอร์ก็เลยหันมาบอกว่า ถ้าชอบ งั้นเดี๋ยวจัดให้ค่ะ มาแล้ว ลาภปากผม ตามนี้เลยครับ !!

 

ผมเชื่อเสมอครับว่า สายการบินไหน ถ้าเจอลูกเรือคนไทย ย่อมไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ

มีอะไรขอให้ก็ขอครับ (แต่ต้องไม่ใช่อะไรที่เหนือบ่ากว่าแรง หรือน่าเกลียดจนเกินไปนะครับ ผมคิดว่าการขออาหารไม่ใช่เรื่องน่าเกลียด เพราะ อาหารที่เหลือทั้งหมด เมื่อถึงปลายทางจะต้อง "ถูกทิ้ง" ทั้งหมดครับ)

 

ขอบคุณสำหรับการบริการที่ดี ตลอดเที่ยวบินด้วยนะครับ

 

------------------------------------------------------------------------------

เครื่องใกล้ถึงสุวรรณภูมิแล้ว จริงๆ กำหนดเวลาที่ต้องลงคือ 18.00 น. แต่จริงๆ ลง 19.00 น. เข้าใจว่าน่าจะบินทวนกระแสลม

เลยใช้เวลาในเที่ยวขากลับร่วม 7 ชั่วโมงจากนาริตะ ก็มีการตรวจเช็คเคบินเรียบร้อยตามปกติ แล้วก็หรี่ไฟในห้องโดยสารระหว่างการนำเครื่องขึ้นและลง

 

และแล้วเครื่องก็ร่อนลงจอด และจอดสนิทที่ Bay หน้า Cargo สุวรรณภูมิ (จอดคู่กับ LOT B787 ด้วย !! แต่ถ่ายไม่ทัน)

 

ไปผ่าน ตม. ช่อง Auto-Gate ผ่านฉลุยสะดวกโยธินมากมายใช้เวลาไม่นาน

 

แต่ที่นานคือสายพานรับกระเป๋า เห็นทาง จนท.แจ้งว่า รถขนกระเป๋าของ BFS มีปัญหา เรียกได้ว่ารอกระเป๋าค่อนชั่วโมง

กว่าจะได้ออกมาก็เกือบ 2 ทุ่มครับ เรียกได้ว่า .... ถ้าบอกให้ใครมารับ มารับตอนสองทุ่มได้เลย ถ้ามาแต่ 6 โมงเย็นมีหงิกแน่นอน

 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สุดท้าย ฝากไว้กับรถ Shuttle Bus สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง ซึ่งปัจจุบันตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2556 ได้มีการปรับรูปแบบใหม่ โดย AOT ให้บริการเอง

จอดที่เดิมคือ ประตู 3 ชั้น 2 มีที่วางสัมภาระมากยิ่งขึ้น ขนถ่ายได้สะดวกขึ้น รอบรถช่วงเวลา Rush Hour ถี่ขึ้น ลองดูกันได้ครับ ผู้โดยสารที่มีสิทธิ์คือ ผู้โดยสารที่มีตั๋วเดินทางที่ดอนเมือง หรือ สุวรรณภูมิ และ ผู้โดยสารที่เพิ่งลงจากเครื่องบินมา (มีบอร์ดดิ้งพาสเป็นหลักฐาน)

 

กระทู้นี้ขอขอบพระคุณ สายการบินเจ๊ทเอเชีย ฝ่ายการตลาด / ฝ่ายขาย และ ลูกเรือทุกท่าน

และขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ ยาวมาก โพสต์จนหลับเลย 555+

[Ethanol]

หุหุ ชมเพลิน

หมอยุ่งรีวิวจนสว่างคาตาเลยทีเดียว

[coronaboii]

ขอบคุณครับ รายละเอียดสุดยอดจริงๆ

[sasukeooo]

เข้าสู่อาคารไปเช็คอินกันที่ Row N ได้เลย !!

IMG_8814.JPG

 

 

มีป้ายของสายการบิน Bangkokairways ด้วยอ่ะ

[Jackuce]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ 

[Afterburner]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับคุณหมอ สุดยอดจริงๆ ลูกเรือคนไทยก็เยี่ยม

[GudekCNX]

โอ้โหคุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีกนะครับสำหรับราคาเจ้ดพันเกือบแปดพันบาท ถูกกว่าร้องแอร์เอ็กอีก บินตรงด้วย ฟินเลย

 

เรื่อการขออาหารถ้าสายการบินทางเอเชียนี่เค้าใจดีกันเกือบทุกสายเลยครับ แต่อย่าได้แหยมกับสายการบินทางฝั่งยุโรปกับเมกานะครับ

 

ผมเคยโดนสายการบินสี่ดาวของฝั่งหนึ่งโลก ของอังกฤา  บอกว่า อาหารจัดให้คนละ1เซ็ตต่อมื้อค่ะรอสัก3ชั่วโมงนะคะเดี่ยวของว่างเสริฟ รับน้ำเปล่าไปก่อนนะคะ

 

 

ผมนี่แบบเซงเลย

[GudekCNX]

มีป้ายของสายการบิน Bangkokairways ด้วยอ่ะ

ไม่แปลกครับ Bangkok Air ทำ code share กับหลายๆสายไปญี่ปุ่นอยู่ ไม่ว่าจะ JAL THAI หรืออื่นๆอีก

[bonus99]

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

[kengmdaf33]

ขอบคุณครับ

[sasukeooo]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

[iiKengz]

ขอบคุณนะครับ

[TONY]

ขอบคุณครับ ราคาไม่แพงมีอาหารพร้อมบินตรงอีกต่างหาก น่าใช้บริการมาก
ถ้ามีโอกาสไปญี่ปุ่นน่าลองใช้บริการ
ปล คุณหมอยุ่งกินเก่งมากก

[Uronohan]

น่าใช้บริการจังครับ ขอบคุณครับ

[Jomie]

รีวิวยาวเหยียดละเอียดสุดยอดจริงๆครับคุณหมอ  โดยรวมแล้วถือว่าโอเคเลยนะครับบริการแบบนี้

ในราคาที่ไม่แพงมากนักน่าลองใช้บริการดูสักครั้ง  เห็นด้วยว่าถ้าลองเปลี่ยนถาดอาหารให้เล็กลงกว่านี้อาจจะทำให้ดูแน่นๆ ดูน่าทานมากขึ้น

 

ขอบคุณสำหรับรีวิวคุณภาพครับ   

[captain H]

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ ถ้ามีบินทุกวันคงจะดี

[Shopaholic]

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ เด็ดสุดก็สบู่นกแก้วนี่แหละค่ะ อิอิอิ