"เศรษฐกิจโลกชะลอตัว-การแข่งขันรุนแรงของธุรกิจ-บาทแข็งค่า" 3 ปัจจัยหลักฉุดผลประกอบการ 9 เดือนบินไทย ขาดทุนกว่า 6 พันล้านบาท
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการการบินไทยวานนี้( 13 พ.ย.) ที่ประชุมได้รับทราบผลประกอบการช่วงไตรมาส 3 โดยฝ่ายบริหารรายงานว่าการบินไทยขาดทุนสุทธิ 6.1 พันล้านบาท ส่งผลให้การดำเนินงานในช่วง 9 เดือน จากเดือนม.ค.-ก.ย.2556 ขาดทุนสุทธิ 6.3 พันล้านบาท ขณะที่ช่วง 9 เดือนของปี 2555 มีกำไร 5.6 พันล้านบาท โดยการขาดทุนดังกล่าวเป็นผลจากการแข่งขันสูงในธุรกิจการบิน ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและเงินบาทแข็งค่า
นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย กล่าวว่า ที่ประชุมได้ปรับลดประมาณการผลกำไรสุทธิปี 2556 เหลือประมาณ 2 พันล้านบาท จากที่ตั้งไว้ 6 พันล้านบาทในช่วงต้นปี ถือเป็นการปรับลดครั้งที่ 2 จากก่อนหน้านี้ที่ปรับลดประมาณการผลกำไรเหลือ 4 พันล้านบาท ขณะที่ปี 2555 มีกำไร 6.2 พันล้านบาท สาเหตุที่ต้องปรับลดประมาณการผลกำไร เนื่องจากการหารายได้และปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นไม่สอดคล้องกับจำนวนที่นั่งผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจากการรับมอบเครื่องบินใหม่ถึง 17 ลำในปีนี้ ประกอบกับปีนี้การบินไทยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูงขึ้น รวมถึงผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าผลการดำเนินงานในปี 2556 จะมีกำไรหรือขาดทุน แต่ยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมาการบินไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงที่อยู่นอกเหนือการควบคุมหลายด้าน ทั้งการให้บริการเส้นทางบินในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง ส่งผลให้ยอดการเดินทางในประเทศช่วงเดือนพ.ย.ลดลง 2-3% ขณะที่เส้นทางบินระหว่างประเทศ พบว่าตลาดนักท่องเที่ยวจีนได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการควบคุมทัวร์ศูนย์เหรียญ ขณะที่ตลาดอินเดียประสบปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ จึงส่งผลให้ยอดการเดินทางออกนอกประเทศลดลง ส่วนตลาดยุโรปมียอดจองตั๋วโดยสารในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย คงมีตลาดญี่ปุ่นที่ยังขยายตัวได้ดี
"การบินไทยได้จัดโปรโมชันส่งเสริมการขายในช่วงไตรมาส 4 อย่างเต็มที่ เพื่อกระตุ้นจำนวนผู้โดยสาร โดยจัดแคมเปญลดราคาตั๋วโดยสาร รวมทั้งมอบหมายให้ตัวแทนจำหน่ายของการบินไทยใน 16 ประเทศที่มีการออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาไทย ให้ติดตามสถานการณ์การเดินทางและยอดการจองตั๋วอย่างใกล้ชิด และให้ข่าวสารที่ชัดเจนแก่นักท่องเที่ยวในแต่ละประเทศ"
ส่วนในปี 2557 การบินไทยมีแนวทางแก้ไขปัญหาโดยจะจัดทำแผนฟื้นฟูธุรกิจ โดยจะเสนอให้คณะกรรมการการบินไทยพิจารณาในเดือนธ.ค.นี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรการบินไทยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และลดรายจ่ายที่ไม่มีผลกระทบต่อด้านความปลอดภัยและด้านบริการ เพื่อทำกำไรให้สูงขึ้นและยั่งยืน พร้อมกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจระยะ 2 ปี ตั้งแต่ปี 2557-2558 รวมทั้งจะปรับกลยุทธ์การขายตั๋วโดยสารในเชิงรุก และการให้บริการแก่ลูกค้าเพื่อรองรับการแข่งขันธุรกิจการบินซึ่งจะทวีความรุนแรงมากขึ้นในปีหน้า
ส่วนผลการดำเนินงานด้านการขนส่งในเดือนต.ค.2556 พบว่าปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (Available Seat - Kilometer : ASK) เพิ่มขึ้น 10.2% จากการรับมอบเครื่องบินใหม่และปรับเส้นทางบินให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสาร และมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย (Cabin Factor) 71.6% ลดลงจาก 73.5% ในเดือนต.ค.2555 แต่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 1.77 ล้านคน จาก 1.71 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 3.5%
สำหรับการดำเนินงานด้านการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและการแข่งขันที่รุนแรง ส่งผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ (Revenue Freight Ton-Kilometers : RFTK) ลดลงจากเดือนเดียวกันของปี 0.9% แต่ปริมาณการผลิต (Available Dead Load Ton-Kilometers : ADTK) สูงกว่าปีก่อน 5.8% จากการรับมอบเครื่องบินใหม่ และมีอัตราส่วนการบรรทุกสินค้าเฉลี่ย (Freight Load Factor) 53.2% ลดลงจาก 56.6% ในเดือนต.ค.2555
นายสรจักร ยังกล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้การบินไทยช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยการสนับสนุนการขนส่งสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภควันละ 4,000-6,000 กิโลกรัม พร้อมทั้งการสนับสนุนการเดินทางของเจ้าหน้าที่จากไทย ทั้งในส่วนราชการและองค์กรต่างๆ เช่น แพทย์ พยาบาล รวมถึงสมาคมชาวฟิลิปปินส์ในไทย ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยฟรี
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ http://goo.gl/0ZfIlG