199 replies to this topic

[SPSG84]

Advertisements

 

มหาวิหารประจำราชสำนักครับ อยู่ข้างๆพระราชวังเลย

เคยเป็นที่จัดพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายเฟลิปเป มกุฎราชกุมารแห่งสเปน

 

ประตูทางเข้า Almudena Catedral

 

บริจาค 1 ยูโร สําหรับการเข้าชมครับ

 

 

 

บรรยากาศภายในตกแต่งแบบ Gothic

ส่วนภายนอกจะเป็นแบบ Neo- Classical เพื่อให้เข้ากับ Palacio Real ครับ

 

 

 

 

 

[SPSG84]

 

 

 

 

[SPSG84]

หน้า Cathedral จะมีต้นนี้อยู่ครับ

ต้นมะกอก

 

 

เดินเรียบถนนไปเรื่อยๆ ครับ

 

 

 

 

อาหารเที่ยงมาฝากท้องไว้ที่ร้านนี้ครับ อาหารรสชาติโอเค 

เมนูเด็ด คือ Melon Jamon เนื้อกระต่ายทอด และก็ปลาหมึกทอดครับ

แปลกอย่างคือเมลอนจะสีซีดมาก แต่รสชาติกลับตรงกันข้าม ออกหวานสุดๆเลย

 

ที่เห็นในรูปเป็นสลัดผักใส่ หน่อไม้(ก้อนกลม เหมือนเต้าหู้) กับทูน่า ไม่ค่อยถูกปากเท่าไร

 

 

 

ร้านอยู่กลางแจ้งอากาศก็กําลังดี ส่วนวิวด้านนอกก็เป็น Cathedral 

มีร่มเงาของต้นไม้มาบัง กินกันเพลินจนไม่ได้ถ่ายรูปเลยครับ

 

 

 

ค่าเสียหายมื้อนี้ครับ แปดคนครับ

 

[SPSG84]

หลังจากทานเสร็จก็เตรียมไปพิพิธภัณฑ์์ต่อที่ Prado museum

 

ศิลปินที่ชาวสเปนยกย่องจนมีรูปปั้นอยู่หน้าทางเข้าก็คือคนนี้ครับ

"Goya"

ภาพของ Goya ก็จะออกแนว โหดๆหน่อยเข้าใจว่าตอนที่วาดรูป ก็ป่วยด้วยนะครับ

ที่ดังๆก็ เช่น Saturn devouring his Son, The Shootings on Príncipe Pio Hill

 

 

 

ด้านหน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์์จะเห็นว่ามีสองชั้น ซื้อบัตรชั้นล่างแล้วเดินเข้าด้านบนครับ

 

 

บัตรราคา 14 € ครับ ห้ามถ่ายภาพ พอเข้าไปก็จะมีบริการฝากของใน locker 

เสียไม่กี่ € ครับ เดินชมตัวลอยเลย ไม่มีของพลุงพลังอีกต่อไป

 

 

 

ก่อนเข้าไปก็จะเจอกับรูปปั้นนี้ครับ  Carlos V and the fury (คศ 15)

กษัตริย์ Carlos V แต่งชุดโรมันยืนบนร่างเปลือย

จักรพรรดิสมัยนั้นคงโหดน่าดูเลยนะครับ

 

(credit ในรูปเลยครับ)

 

 

 

[SPSG84]

พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของสเปน ที่รวบรวมผลงานของจิตรกรชื่อดังของโลก

ถ้าคุณเป็นคนชอบศิลปะห้ามพลาดครับ ขนาดตัวผมเองที่ไม่เคยมีความรู้ด้านศิลปะอะไรเท่าไรยังรู้สึกชอบที่นี่เป็นพิเศษเลยจริงๆนะ

 

 

ถ้าใครมีโอกาสผมแนะนําให้ศึกษา floor plan ของที่นี่ก่อนเข้านะครับ

จะได้วางแผนถูกว่าต้องเดินไปที่ไหนยังไงบ้างเนื่องจากเวลาการชมของเรามีจํากัด ไม่เหมือนชาวสเปนอยากแวะมาเมื่อไรก็ได้

 

ตอนที่ไปเองก็ไม่รู้จะดูอะไรก็เลือกดูแต่ Masterpiecesที่มากับ Plan เนี่ยแหละ

 

 

 

load ได้ที่ http://www.museodelp...planoIngles.pdf

 

 

 

เดินงงๆ ไปเรื่อยๆ ที่สังเกตให้เห็นระหว่างการเดินชมก็คือ

จะมีจิตรกรอิสระมาวาดภาพเลียนแบบภาพจริงข้างๆรูปภาพด้วย

 

 

จิตรกรชื่อดังของโลกที่พอจะจําได้ เช่น

Titian ก็จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้สีสัน ลวดลายต่างๆ

Goyaก็จะโหดเหี้ยมหน่อย แต่ละรูปดูดุและรุนแรง

ส่วน El Greco รูปก็จะขาวจัดดําจัด ยาวๆ สั้นๆ กว่าความเป็นจริง

 

ใช้เวลาได้ทั้งวันเลยครับ สําหรับที่นี่ มากกว่าสองชั่วโมง สบายๆ

เสียดายมากๆ ที่ไม่ให้ถ่ายรูป ต้องมาดูด้วยตาตัวเองแล้วจะเข้าใจครับ

 

 

 

ตํานานการเกิด milk way

 

เทพเจ้า Jupiter(หรือ Zeus) แอบไปมีบุตรกับสตรีชาวมนุษย์

ทําให้กําเนิด Hercules ด้วยความเป็นห่วงของพ่อ เลยต้องการให้ลูกเป็นอมตะ

จึงเอาลูกของตนไปดูดนมของเทพี Juno (หรือ Hera) ขณะนางหลับ

พอโดนกัดก็สะดุ้งตื่นขึ้น ผลัก Hercules กระเด็นออกมาพร้อมกับนํ้านมบนฟากฟ้า

ทําให้เกิดเป็น Milky way หรือทางช้างเผือกนั้นเองครับ

 

 

(PS รูปภาพผู้หญิงสมัยนั้นจะเน้นมีพุงและก็อ้วนๆหน่อยครับ) (รูปจาก http://www.museodelprado.es/en/)

 

 

 

 

 

 

[SPSG84]

อย่าลืมไปดูห้องนี้นะครับ ชื่อ “Teasure of the dauphin” อยู่ชั้นใต้ดินห้อง 100-102

สําคัญมากแค่ไหนให้ดูประตูทางเข้าแล้วจะรู้ ประตูเป็นเหมือนประตูเซฟในแบงค์เลย

 

เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องเก็บสมบ้ติต่างๆ ถ้วยชามเครื่องประดับต่างๆ พอเดินเข้าไปก็จะมีเจ้าหน้าที่เค้าเดินประกบแบบไม่ต้องกลัวผีเลยครับ

 

สมบัติที่ใช้ชมจะเป็นของDauphin (ลูกของ พระเจ้าหลุยที่ 14 แห่งฝรั่งเศส, ผู้เป็นพ่อของ Felipe ที่ 5 อีกที)

พอพ่อสวรรคตสมบัติก็ตกมาเป็นของลูก ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่สเปนสมัยนั้น

เก่าแก่แค่ไหนก็ประมาณ 300 - 400 ปีครับ

[SPSG84]

หลังจากออกมาก็เดินขึ้นมาด้านหลัง

 

มุ่งหน้าไปยังสวนสาธารณะใกล้ๆ นี่เองครับ

 

"Parque del Retiro"

 

เครื่องดนตรีที่เห็นก็คือ hang drum ครับ

 

 

บรรยากาศรอบๆ

 

[SPSG84]

นํ้าพุ Artichoke 

ทําจากหินแกรนิต ประดับบนยอดด้วยเทวดา 4 องค์

 

 

Estanque

ทะเลสาบเล็กๆในสวน มีที่ให้เช่าเรือถีบด้วยนะ ถ้าไม่ติดเรื่องต้องใช้พลังขาอีกหลายวันจะลงไปปั่นซะหน่อย

สถานที่นี้เคยเป็นที่ต่อเรือสมัยก่อนด้วยครับ

 

 

 

Mallard duck คอเขียวๆ ว่ายนํ้าเล่นในทะเลสาบ

 

 

Palacio de Cristal หรือ Crystal palace

สร้างเป็นเรือนกระจก มีต้นไม้ใหญ่รายรอบ

มีความจําเป็นสําหรับประเทศนี้ก็พื่อควบคุมให้สภาพในโรงเรือนให้มีความอบอุ่น 

แสงแดดที่พอเหมาะแก่การปลุกพืชนั้นๆ

 

แต่ทว่าเรามาไม่ทัน ก็ดูแต่ข้างนอกนะครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

[SPSG84]

 

ก่อนเดินออกจากที่นี่ก็มีห้องสมุดสาธารณะด้วยครับ 

 

จบการเดินทางของวันนี้เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้ก็จะไปต่อที่ Toledo เมืองแห่งหลายวัฒนธรรมครับ

[SPSG84]

ในส่วนของ madrid ถ้ามีโอกาสอย่าลืมไปแวะ Thyssen-Bornemisza Museum ด้วยนะครับ

วันนี้ก็จะไปที่ Toledo เป็นเมืองหลวงเก่าของสเปนครับ อยู่ทางใต้ของ madrid ไม่ไกลมากนัก

 

 

เดินทางโดรถไฟครับ RENFE ไปซื้อตั๋วที่ counter ต้องรับบัตรคิวด้วยเห็นมีสองช่องแปลไม่ออกเลยกดมาสองใบเลยครับ

เนื่องจากวันที่ไปเป็นวังอังคารจึงไปรอบนี้ครับ (วันจันทร์บางที่ปิด ไม่สามารถเข้าชมได้ครับ)

รอบที่ไปก็ 7.50 ไปถึงสถานี 7.20 ไม่อยากพลาดรอบนี้ก็เลยต้องวิ่งครับ พนักงานก็แนะนําอย่างนั้น

โชคดีที่ไปถึงแล้วก็เข้าทันพอดี เกือบตกรถแล้ว

 

 

ได้ทั้งขาไป ขากลับมาเรียบร้อย ราคารู้สึกจะประมาณ 10€/เที่ยว

[SPSG84]

ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง กําลังเคลิ้มๆ จะหลับก็ถึงพอดี

 

 

 

ระหว่างทางก็เป็นทุ่งกว้างๆได้บรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นพอดี ต้องดูเองกับตาครับสวยๆ

 

 

 

ที่โดยสารภายใน ก็คล้ายๆ รถไฟบ้านเราเหมือนกันนะ

 

[SPSG84]

ไปถึงแปดโมงนิดๆ ครับ 

 

 

 

 

ที่ชานชาลาไม่ค่อยมีคนเท่าไร รถไฟที่มาด้วยกันก็โล่งๆ

 

เนื่องจากเมืองเค้าจะถูกล้อมไปด้วยแม่นํ้า ตัวเมืองเองก็อยู่กันแน่นๆ

สถานนีรถไฟก็เลยมาอยู่นอกเมืองอีกทีครับ จะเรียกว่าอยู่กลางทุ่งก็ได้นะครับ ไกลพอสมควรเลย

 

 

สถานีก็สถาปัตยกรรมสไตล์แขกเนี่ยแหละครับ

 

 

[SPSG84]

ช่วงเช้าอากาศไม่ร้อนมาก หน้าชานชาลามีแต่ taxi กลัวจะถึงเร็วเกินไปเลยเข้าเมืองโดยการเดินครับ

อุณหภูมิก็ประมาณสิบองศาลมมาก็สั่นๆ เหมือนกัน ดูคุณยายข้างหน้ายังเดินไหว ก็ไม่หวั่นแล้วหละครับ

 

 

 

เมืองนี้จะมีความหลากหลายของวัฒนธรรมเยอะพอสมควรครับ

สภาพเมืองก็จะเป็นที่ราบสูง ล้อมไปด้วยแม่นํ้า มีป้อมปราการอยู่รอบๆเมือง

กลางเมืองเป็นปราสาทที่เห็น โดดออกมานั่นแหละครับ

บ้านเรือน ถนน ก็เป็นหิน ดินทราย เมืองเลยจะออกสีเหลืองๆ ฝุ่นเยอะหน่อยครับ

 

 

บรรยากาศยามเช้าครับ ต้องข้ามแม่นํ้ามาจึงเข้ามาในตัวเมืองนี้ได้

 

 

แม่น้ำ Tagus อยู่รอบๆเมืองครับ

UNESCO ประกาศให้เมือง Toledo เป็นมรดกโลกในปี 1986

 

 

 

 

 

 

 

 

[SPSG84]

หลังจากข้ามแม่นํ้ามาก็จะเห็นวงเวียนครับ อันนี้เป็นประตูเมือง

Puerta de Bisagra

 

 

ถ้ามองไปฝั่งตรงข้ามก็จะเห็นผู้คนมากมายในร้านนี้

 

 

 

 

ก็เลยไม่รอช้าครับต่อแถวซื้อบ้าง ได้churros กับ hot chocolate  มา

ที่นี่ churros อันใหญ่มาก จะว่าไปแล้ว ผมว่าอร่อยกว่าปกติอีกนะ

 

 

 

 

[SPSG84]

 tourist information ข้่างๆร้าน churros เมื่อกี้

 

 

 

ถ้าจะปิดตลอดเอาป้ายออกเลยดีกว่าไหมครับ แหม่

 

 

 

เดินขึ้นเขาไม่นานก็จะเจอ

 

Mezquita Cristo de la Luz

มัสยิดเก่าที่ถูกดัดแปลงเป็นโบสถ์คริสต์ จุดเด่นของที่นี่คืออายุราวๆ พันปีได้ครับ

ไม่ได้เข้าเนื่องจากมาเช้าไปหน่อย ก็เลยยังไม่เปิดให้เข้า

ขอดูแค่ข้างนอกและกันนะ

 

สถาปัตยกรรมของที่นี่ได้รับอิทธิทั้งจากชาวมุสลิม คริสต์ ยิว  ที่เคยผลัดเปลี่ยนกันเวลาที่เข้ามาครอบครองเมือง 

ก็เลยมีให้เห็นทั้งมัสยิด โบถส์แบบคริสต์และแบบยิวด้วย บางที่ก็เป็นลูกครึ่งผสมกันไปมา

 

 

 

เดินตาม navigator ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ตัวนี้นะครับ

เป็น application ที่ชื่อ Sygic ทางก็จะ เอาสั่้นที่สุดเข้าว่า ไม่ค่อยจะเป็นทางปกติที่คนที่นี่เดินกัน

พอลองใช้จริงแล้วก็งงๆ กับเข็มทิศนิดหน่อย ต้อง manual ช่วยด้วยครับ เชื่อเครื่องอย่างเดียววันนี้อาจจะไม่ถึง

ข้อเสียของ navigator อันนี้ก็คือ เราไม่รู้ความลาดชันของทางเดินครับ ดูในแผนที่เห็นนิดเดียวแต่จริงๆ ต้องขึ้นสูงไปอีกหลายเมตร

บางครั้งเราอดไม่ได้ที่จะเดินไปตามทางเส้นนั้น แม้รู้ว่ามันผิดทางก็ตาม

โชคดีที่ยังพอสื่อสารโดยภาษากายกันได้บ้าง ชี้ไปทางไหนก็เดินไปทางนั้นเลย

 

 

ไม่แปลกเลยนะครับที่จะหลงในดินแดนแห่งนี้ มองไปที่ไหนก็คล้ายๆกันหมด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

[SPSG84]

ทางเดินก็มีทั้งแบบเรียบๆ และก็ลาดชัน

 

 

 

เดินไปเรื่อยๆครับ ชมวิวระหว่างทาง เหมือนกันไปหมดเลยเมืองนี้

 

 

 

[SPSG84]

ของขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ พวกโลหะ เหล็ก ดาบ เกราะโบราณ หุ่นจำลองอัศวิน และที่สําคัญ

ดาบที่เค้าใช้ถ่ายทำในเรื่อง The Lord of The Rings เค้าเอามาจากเมืองนี้นะ

ไม่ต้องบอกก็รู้ถึงคุณภาพของเค้าดีจริงๆ แต่ราคาไม่น่าคบหาเลยครับ

แพงและก็หนักมากครับ

 

 

 

ที่เห็นเงาลางๆ ข้างหลังคือ 

Cathedral

 

 

วันนี้มาเริ่มที่นี่ครับ 

Alcazar คือปราสาทเก่าของโทเลโด

ด้านหน้าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ ด้านการทหารและประวัติศาสตร์ชาติสเปน

Museo Del Ejecito

 

 

 

 

[SPSG84]

ตั๋วอยู่ในมือก็เข้าไปกันเลยครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

[SPSG84]

เด็กเล็กๆ ก็คงมาทัศนศึกษาเหมือนกัน

 

 

 

ราวจับสําหรับผู้พิการนะครับ

 

 

 

ด้านนอกพิพิธภัณฑ์์มีลานกว้างๆ จัดแสดงงานฝีมือด้านนอกครับ

 

 

 

คุ้นๆไหมครับ 

 

แบบเดียวกับที่ Prado museum 

"Carlos V and the fury"

 

 

 

[SPSG84]

บันไดในปราสาท (เข้าไม่ได้ครับ)

 

ภายนอก Alcazar 

 

 

ส่วนตัวผมชอบตู้นี้นะครับ เอามาใช้ในงานกลางแจ้งได้สบายๆ เก็บก็สะดวก

 

 

 

อยากได้มาเป็นจานที่บ้านจัง 555