91 replies to this topic

[ohmclub]

Advertisements

สวัสดีเพื่อนๆชาว Hflight ทุกๆท่านครับ

 

ผมกลับมาอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งได้ ลงรีวิว Singapore Airline ; SQ11 - SQ12 NRT-SIN route on A380

ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาคอมเม้น ติชม และแสดงความคิดเห็นทุกท่านครับ จะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขครับผม

 

พอมาถึงรีวิวนี้ ผมขอนำเสนอ เมือง เซนได ในภูมิภาคโทโฮคุ ครับผม เมืองเซนไดนี้เป็นเมืองทางชายฝั่งตะวันออกที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากซึนามิ ในปี 2011 หลังจากเหตุการณ์เสียหายครั้งนั้น เมืองเซนไดก็ได้ฟื้นฟูและกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผมอยากไปเมืองนี้ตั้งหลายครั้งแล้วตั้งแต่ก็ยังหาโอกาสไม่ได้ซักที แต่คราวนี้เลือกที่จะมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เพราะอยากตามหาดูใบไม้แดงครับ

 

ช่วงเวลาท่องเที่ยว วันเสาร์ที่2 - วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกา 2556 ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะเที่ยว แค่ Sendai, Yamadera, และ Matsushima เท่านั้น จะได้เที่ยวแบบ ชิวๆ สาบยๆ ไม่รีบ (ทุกครั้งที่เที่ยวจะรีบตลอด เหมือนทัวร์ชะโงก เลยครับ) แต่สุดท้ายก่อนเดินทาง 2 วันก็ได้เพิ่มมาอีกที่คือ Naruko-onsen ครับ ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวกลับกลายมาเป็นแบบเร่งรีบอีกครั้ง ฮ่าๆๆ (นิสัยเดิมทิ้งไม่ได้เลย)

 

ขาไปผมเลือกเดินทางโดย รถไฟชินคันเซนครับ ส่วนขากลับเลือก บินกลับครับ สาเหตุเพราะอะไรถึงบินกลับต้องติดตามชมครับผม

 

ไปชมกันเลยดีกว่า

 

ปล. คอมเม้น แนะนำ ได้นะครับ

 

Attached Thumbnails

• 
• 

[ohmclub]

มาเริ่มต้นที่สถานีโคเกียว ครับ กับชินคันเซน กับสาย Yamabiko ครับ จะสุดสายที่ Morioka และแวะส่งผมที่ sendai

 

ภายในกว้างขวางนั่งสบาย ผมเริ่มชอบชินคันเซน ขึ้นมาละทีนี้

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ohmclub]

ออกตรงเวลาเปะ นิ่งและเงียบมาก

 

การเดินทางครั้งนี้ใช้หนังสือ Japan 2 ญี่ปุ่นคนเดียวก็เที่ยวได้ (อีก) by Bas ครับ ส่วนชานมของ Kirin ผมชอบดื่มทุกวันเลย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ohmclub]

ซัก 1 ชั่วโมงกว่า ก็มาถึง เมือง Fukushima แล้ว เมืองนี้เป็นเมืองชนบนเงียบๆไม่ค่อยมีสถานที่ท่องเที่ยงมากมายเท่า sendai นัก แต่เมืองนี้ดังมากครับ เรื่อง โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเครีย ออกข่าวทุกวันเลย ตั้งแต่หลังซึนามิ ซัดกระหน่ำ ข่ายจะรายงานว่าวันนี้มีระบบการจัดการทำอะไรบ้างแล้ว แหมะคนที่นี่ลืมยากจัง ถ้าเป็นบ้านเรา เดือนนึงก็เงียบไปละ

 

ที่สถานี้มีผู้โดยสารลงค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะเหล่าผู้สูงอายุทางด้านหน้าๆ ตลอดทางจากโตเกียวเสียงค่อนข้างดังนิดหน่อยครับ น่าจะมาท่องเที่ยวด้วยกันเป็นหมู่คณะ เกือบ 20 คนได้ พอถึงสถานีนี้ พวกลุงๆก็ลุกขึ้นมาแล้วหันมาทางโซนด้านหลัง แล้วก้มหัวลง พร้อมพูดประมาณว่า ขอบโทษที่เสียงดังรบกวนครับ ขอบโทษจริงๆครับ คนในโบกี้หัวเราะกันใหญ่เลย แหมะมารยาทดีกันจริงๆ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ohmclub]

ไม่นานก็มาถึงสถานี Sendai ครับ เวลาประมาณเกือบเที่ยง ผมแพลนไว้ว่าเอากระเป๋าไปฝากที่ รร ก่อน เพราะมีเวลาอีก 40 นาทีก่อนที่รถไฟไป Yamadara จะออก

 

ตามรูปครับ รถไฟ JR ไป Yamadera ครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[ohmclub]

รถไฟ ออกประมาณ 12.45 น. ครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบ 60 นาที เส้นทางจะเข้าป่า เข้าไปในเขาครับ เวลานี้ไม่หิวข้าว แต่ตื่นเต้นจะได้ดูใบไม้แดงแล้ว

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ohmclub]

รถไฟจะเป็นแบบรางเดียว ชนบทมากๆ เหมือนบ้านผมเลย ฮ่าๆๆๆ

 

ประตูรถไฟเมื่อถึงที่สถานีจะไม่เปิดเองนะครับ ต้องกดเปิดปิด

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ohmclub]

และแล้วก็มาถึงซักที Yamadera

Attached Thumbnails

• 
• 

[ohmclub]

บริเวณหน้าสถานี Yamadera ครับ ใช้บัตร Suica Pasmo ไม่ได้เซงเลย แต่ถ้าใครถือ JR railpass ใช้ได้ครับ

 

จะบ่ายสองแล้วเริ่มหิว กินดังโงะรองท้องก่อนเลย 1 ไม้ 100 เยน

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ohmclub]

เดินตามหาป้าย เณรน้อย ทางไปวัด

 

ตามรูปยังไม่ถึงตัววัดนะครับผม

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ohmclub]

ทางเข้าครับ ค่าเข้า300 เยนครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ohmclub]

จากจุดประตูทางเข้าวัด ต้องเดินขึ้นไปครับ มีขั้นบันไดประมาณ หนึ่งพันขั้น จนกว่าจะถึงจุดสูงสุดของตัววัดครับผม

 

จากที่อากาศเย็นๆ 12-15 องศา กลายมาเป็นเหงือแตกทันที หรือว่าจะร้อนเพราะเข้าวัด หว่า

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ohmclub]

ประมาณ20 นาทีก็จะมาถึงจุดยอดครับ (สำหรับอายุ 25-35ปี) ถ้าเด็กกว่านี้น่าจะเร็วกว่า แต่ถ้ามากกว่านี้คงจะช้ากว่า (เอาผมเป็นเกณฑ์ ฮ่าๆ)

 

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ohmclub]

นี่คือตัวบริเวณวัดที่พูดถึงครับ

 

Yamadera โดย Yama แปลว่า ภูเขา ; dera แปลว่า วัด ครับ รวมกันแปรว่าวัดภูเขา มีชื่อทางการว่า Risshakuji

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ohmclub]

ผมใช้เวลากับที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมง กว่า ก็ลงมาเพื่อหาข้าวเที่ยงทาน (บ่าย 3 ข้าวเช้าเที่ยงพร้อมกันเลย)

 

กับข้าวเป็นแบบพื้นบ้านสไตน์yamadera ครับ เนื้อหมูไม่ค่อยมี มีแต่ผักเยอะ จำใจต้องกิน (ไม่กินผัก)

 

จากนั้นก็ขึ้นรถไฟกลับไปยัง sendai รอบประมาณบ่ายสี่โมงเยน (ช่วงนี้พระอาทิตย์จะตกดินตอน สี่โมงครึ่งเย็นนะครับ ต้องรีบเที่ยว)

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ohmclub]

มาถึงสถานีเซนได ประมาณห้าโมงเย็น ก็มืดอย่างที่เห็นครับ ออกเดินเที่ยวย่านชอปปิ้ง Chuo-dori ครับ

 

เห็นหนังสือบอกมาว่า ตึก AER สามารถขึ้นไปชมวิวของเมือง sendai ได้ด้วย นะรับฟรี

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ohmclub]

มื้อเย้นนี้เป็นอาหารขึ้นชื่อของที่ คือ กิวตัง (Gyutan) คือลิ้นวัวย่าง นี่เอง หลายๆคนที่ไม่กินเนื้อคงจะ แอวะ แต่ขอบอกว่าอร่อยมาก กินไปนึกถึงน้องวัวไป ฮือๆๆสงสาร

Attached Thumbnails

• 
• 

[ohmclub]

มาดู โรงแรม ครับ คืนนี้พักที่ Toyoko Inn Sendai Chuo Iti-chome Iti-ban

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 

[ohmclub]

เช้าวันอาทิตย์มาต่อกันเลยครับ

วันนี้ต้องตื่นตีห้า อาบน้ำแต่งตัวไปเที่ยวต่อ เพราะที่จะต้องเดินทางไปเที่ยวต่อ โดยใช้ชินคันเซน 6.40 น.

 

สถานที่ผมจะไปก็คือ Naruko-onsen โดยต้องนั่งชินคันเซนไปลง Furukawa ก่อน ใช้เวลา 13 นาที แล้วต่อด้วย JR Rikuu-East line ประมาณ 45 นาที ก็จะถึง Naruko-onsen พอดี ประมาณ 8 โมง (มีการเดินทางหลายแบบ แต่ผมเลือกแบบนี้เพราะเร็วที่สุด ต้องทำเวลาครับ)

 

ชินคันเซนสายที่ใช้ คือ Hayate และ Komachi เป็นการรวมสองขบวนติดกัน เพราะเมื่อไปถึงสถานี Morioka รถไฟก็จะแยกออกจากกัน Komachi สีขาว จะวิ่งไปยัง Akita

 

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ohmclub]

รวดเร็วมากครับ 13 นาที อยากนั่งต่ออีกจัง

Attached Thumbnails

• 
• 
•