63 replies to this topic

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

Advertisements

บินกันหลายๆ ตุ๊บสนุกสนาน กับทริปสู่เกาะเจจู (บินผ่านปูซาน by AirAsia X)

สนับสนุนโดย สายการบินแอร์เอเชียเอ๊กซ์ ประเทศมาเลเซีย และ การท่องเที่ยวเกาะเจจู ประเทศเกาหลีใต้ครับ

 

เนื่องด้วย ผู้สนับสนุนหลัก ก็คือสายการบินแอร์เอเชีย และ แอร์เอเชียเอ๊กซ์ ดังนั้นในกระทู้นี้ผมจะไม่ขอกล่าวถึงสายการบินอื่น

ซึ่งในการเดินทางช่วง ปูซาน-เจจู จะใช้สายการบินภายในประเทศอื่นเดินทาง ซึ่งจะทำกระทู้แยกออกไป ดังนั้นกระทู้นี้จะสิ้นสุดแค่ ปูซานเท่านั้นครับ

 

เราเดินทางด้วยเที่ยวบินรอบกลางวัน กัวลาลัมเปอร์-ปูซาน ซึ่งแอร์เอเชียเอ๊กซ์ทำการบินสัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน

สลับกัน รอบกลางคืน และ รอบกลางวัน อันที่จริง รอบกลางคืนบินตอนดึกจากกัวลาลัมเปอร์ น่าจะเหมาะสมกับคนไทยมากกว่า

แต่ก็อย่างว่าครับทริปนี้มาเลย์เป็นใหญ่ ดังนั้น เค้าก็เลยจัดเที่ยวบินรอบเช้าให้ แล้วกลับรอบเย็นถึงมาเลย์ตอนดึก

ให้เราได้ไปพักค้างอ้างแรมที่โรงแรม Tune Hotel LCCT-KLIA ถึงสองคืน ทั้งคืนขาไปและคืนขากลับ ก่อนบินกลับไทยเลยทีเดียวครับ

 

ทริปนี้ ผมขอกล่าวตั้งแต่ออกจากเชียงใหม่นะครับ

โดยผมบินทั้งหมด 5 ตุ๊บ กับแอร์เอเชีย และ แอร์เอเชียเอ๊กซ์ ดังนี้ครับ

FD3440 CNX-DMK 16.25 - 17.40 น. A320-200 HS-ABM

AK1949 DMK-KUL 20.20 - 23.25 น. A320-200 9M-AHZ

D7 512 KUL-PUS 8.30 - 15.45 น. A330-300 9M-XXC

D7 513 PUS-KUL 17.25 - 22.30 น. A330-300 9M-XXH

AK1914 KUL-CNX 6.55 - 8.40 น. A320-200 9M-AFA (A320 ตัวแรกสุด !!)

 

เริ่มต้นที่เชียงใหม่ครับ ... ผู้โดยสารแน่นเอี๊ยด และหวยออกที่นั่ง 14D ได้นั่งตรง Emergency Exit แบบสบายๆ

บินสู่ดอนเมือง แบบไม่มีภาพประกอบ และเป็นครั้งแรกที่ผมเจอ Bus Gate ที่ดอนเมือง ซึ่งอยากจะบอกว่า ชอบมากกกกกกกกก

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

พอรับกระเป๋าเรียบร้อย ก็ตรงดิ่งขึ้นไปขาออกชั้น 3 ช่วงหัวค่ำคนไม่ค่อยเท่าไหร่แล้วครับ หนักๆ ก็จะตอนเช้าคนเยอะหน่อย

 

จะเห็นว่าข้างบนน้องนกก็คอยจะจิกกัดอยู่เรื่อยเลย 555+

 

โหลดกระเป๋าใหม่เรียบร้อย ได้บอร์ดดิ้งพาสมาแล้ว

 

ได้ใบ ตม. เรียบร้อยก็กรอก แล้วก็เตรียมตัวผ่าน ตม. ครับ พอดีเดินผ่านหน้าเคาน์เตอร์ขายตั๋ว

เห็นว่ากำลังถ่ายโฆษณาเรื่องบริการเสริม พวกโหลดกระเป๋าของแอร์เอเชียอยู่ ก็เลยไม่ค่อยแน่ใจว่าเกี่ยวกับมวยตรงไหนยังไงครับ

 

ไหนๆ ก็มาดอนเมืองแล้ว แอบไปดู สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ ของ บริษัทไทยแอร์เอเชียจำกัด ซะหน่อย

อยู่ทางเดินไป Magic Food Point อาคารสำนักงานท่าอากาศยานครับ เดินไปไม่ใช่ไกลเลย แดงเด่นมาแต่ไกลจริงๆ

 

แวะแลกเงินที่เคาน์เตอร์ไทยพาณิชย์ซะหน่อย สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ สามารถนำบัตรเครดิตมารูดแลกเงินได้ที่นี่

เหมือนรูดซื้อสินค้า ชำระเงินตามรอบบิลปกติ ถ้าจ่ายเต็มก็ไม่มีดอกเบี้ย

หรือจะโทรไป Call Center แบ่งจ่ายเป็นงวดๆ (ดอก 0.89% ต่อเดือน) ก็ได้เช่นกันครับ รับเงินต่างประเทศแบบสดๆ ไปเที่ยวได้เลย

 

เสร็จแล้วก็ผ่าน ตม. ไฟล์ท AK เทียบ Gate 22 เดินใกล้ๆ สบายๆ วันนี้เจอกับเครื่อง 9M-AHZ ผู้โดยสารแน่นจริงอะไรจริงครับ !!

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ขึ้นมาบนเครื่องแล้วครับ มีสติ๊กเกอร์ติดไว้ชัดเจนว่า ห้ามนำเสื้อชูชีพลงจากเครื่องบิน แปลว่า พี่แขกมาเลย์ก็ชอบขโมยเสื้อชูชีพเหมือนกันนะนี่

 

ได้เวลาหาอะไรกินแล้วครับ พอดีสั่ง pre-book Meal มาเป็นสปาเก๊ตตี้ แต่อยากกินอาหารพิเศษของเดือนด้วย ก็เลยจัดไปครับ

 

ซึ่งเจ้าสปาเก๊ตตี้ เวอร์ชั่นมาเลย์ เครื่อง AK ผมก็คิดว่าค่อนข้างทำได้โอเคอยู่ แฮปปี้กว่าภัตตาคารมีสีบนเครื่อง FD ครับ

 

ส่วนอาหารพิเศษ ผมจำชื่อไม่ได้แฮะ แต่เป็นเนื้อ ข้าวสีสวยดีก็เลยสั่งมา เซ็ทนี้ 18 ริงกิต มาพร้อมกับน้ำส้มครับ

 

รสชาติผมว่าก็โอเคอยู่นะ สไตล์มาเล๊ย์ มาเลย์

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ถึงแดนดินถิ่นมาเลย์แล้ว 

สนามบิน LCCT ที่หลายๆ ท่านคุ้นเคยกันดี ปีหน้าจะย้ายไป KLIA2 แล้วนะครับ

ทุกสิ่งทุกอย่างทีเห็นก็จะกลายเป็นอดีตไปแล้ว ต่อไปเครื่องก็จะจอดเทียบงวง รวมถึงโรงแรม Tune ก็จะย้ายไปเปิดใหม่ ใหญ่กว่าเดิมที่ KLIA2 ด้วยครับ

 

มองออกไปก็จะเห็นเครื่องแอร์เอเชียเอ๊กซ์ แอร์บัส A330-300 จอดอยู่ ปีหน้าคงจะได้เห็นที่ดอนเมือง ธงชาติไทยเด่นตรงหัวเครื่องกับ TAAX บ้างนะครับ

 

เมื่อเข้าสู่อาคาร ผู้โดยสารที่จองตั๋วมาแบบ Fly-Thru (จองรวดเดียว เช่น กรุงเทพ-ฮาเนดะ กระเป๋าจะโอนย้ายโดยอัตโนมัติ ไปรับที่ปลายทางได้เลย)

หรือทำเว็บเช็คอินแล้วและไม่มีสัมภาระ ก็ตรงดิ่งเข้าประตูซ้ายไปได้เลยครับ

ส่วนผู้โดยสารต่อเครื่องที่ จองตั๋วแยกมา ก็ต้องขึ้นบันไดเลื่อนไปผ่าน ตม. ด้านบนก่อนครับ ซึ่ง ตม. คิวยาววววว ใช้ได้ทีเดียว

 

เราใช้เวลาเดินแบบชิลล์ๆ ประมาณไม่เกิน 10 นาทีจากอาคารผู้โดยสาร LCCT ก็ถึงโรงแรม Tune Hotel LCCT-KLIA

อันเป็นที่พักค้างอ้างแรมไม่กี่ชั่วโมง ก่อนเที่ยวบินถัดไปตอนเช้า ที่นี่จะบอกว่า เต็มทุกคืน และไม่เคยมีโปรโมชั่นครับ

คนก็เยอะมากกกกกก ก็ต้องเข้าคิวรอเช็คอินอย่างที่เห็นครับ

 

เรื่องของเรื่องคือ ทางเจ้าหน้าที่มาเลย์ เค้าจองห้องเปล่าๆ ไว้เฉยๆ ซึ่งห้องเปล่าๆ เค้าจะไม่มีแอร์ให้ มีแต่พัดลมเพดาน ไม่มีอุปกรณ์ผ้าเช็ดตัว สบู่อะไรซักอย่าง ดังนั้นถ้าเราอยากได้เราต้องซื้อบริการเสริมเพิ่ม (เหมือนแอร์เอเชียหน่ะครับ)

 

ดังนั้น สิ่งที่เราจ่ายเพิ่มก็คือ แอร์ 12 ชั่วโมง และ เซ็ทผ้าเช็ดตัวกับสบู่ แยกต่างหาก

ซึ่งเวลาเราเสียบคีย์การ์ดปุ๊บ ระบบไฟในห้องก็จะเริ่มเคาน์ดาวน์ว่า มีเวลาใช้แอร์เหลือนานเท่าไหร่ หุ หุ หุ เขี้ยวเค็มสไตล์แอร์เอเชียเค้าหล่ะครับ

 

แต่จะว่าไป จุดเด่นที่ผมชอบมากก็คือ เตียงนอนที่หนานุ่ม นอนสบายจริงๆ ครับ แม้ห้องจะเล็กจิ๋วมาก ถึงมากที่สุดก็ตาม ก็พอรับได้

เพราะนอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงจริงๆ อาบน้ำแล้วก็นอน ตื่นมาอาบน้ำจัดของแล้วก็ไป แค่นั้นจบครับ

 

สภาพบรรยากาศภายนอก มองออกไปเห็นอาคารผู้โดยสารอยู่ทางนู้นนน เดินไปประมาณไม่เกิน 10 นาทีแบบสบายๆ ไม่ต้องรีบ

แต่ถ้ารีบร้อนก้มีรถ shuttle bus ให้บริการเที่ยวละ 2 ริงกิตครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เช้าวันใหม่ บินตรง กัวลาลัมเปอร์ - ปูซาน กับ แอร์เอเชียเอ๊กซ์

D7 512 Kuala Lumpur - Busan 8.30 - 15.45 น. A330-300 9M-XXC

 

ตั้งเวลาปลุกไว้ 6.30 น. มาเลย์หรือ 5.30 น. เวลาไทย เรียกได้ว่านอนไปได้ไม่ถึง 5 ชั่วโมงดีครับ

 

บรรยากาศ LCCT ตอนเช้าตรู่นี่คึกคักสุดๆ ผู้คนมากมายมหาศาล จนล้นจริงๆ ครับ

 

เราก็ไม่อยากไปช้า กลัวเค้าจะว่าเอาว่า คนไทยมาช้า แต่ที่ไหนได้ พี่มาเลย์เป็นฝ่ายดีเลย์ซะเอง นัดเจอกันหน้าร้าน Marrybrown

 

ทริปนี้ ประกอบไปด้วย แก๊งค์มาเลย์ 12 คนประกอบไปด้วย ทีมงานแอร์เอเชียเอ๊กซ์ 2 คน

สื่อ Media มาเลย์ 10 คน มีทั้งสื่อทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และ Blogger ส่วนพี่ไทยเราไปกัน 2 คนเป็น Blogger ตัวเล็กๆ 

ก็คือผม และคุณ Paksabuy ครับ ผมก็เลยโชคดี ที่ได้ร่วมทริปกับช่างภาพระดับพระกาฬ เลยได้รูปสวยมากเป็นพิเศษ

 

พอดีมีการย้ายแถวมานิดหน่อย ได้สิทธิพิเศษ เป็นดินแดนของเค้า เค้าก็เลยอำนวยความสะดวกให้พอสมควร

เช็คอินเสร็จแล้วก็ผ่าน ตม. เตรียมไปรอขึ้นเครื่องกันนะครับ (ดูเค้าชิลล์กันมากกกกกกกก ไม่รีบอะไรเลย)

 

สำหรับผู้โดยสารที่ไม่มีสัมภาระโหลด แวะ Verify เอกสารได้ที่นี่ครับ

 

 

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ผ่าน ตม. ไปเรียบร้อยแล้ว

 

สิ่งที่ทำก็คือ ซื้อน้ำตุนไว้ครับ ขวดละ 1.5 ริงกิตที่ร้านนี้เลยครับ (ร้านอยู่ฝั่งตรงข้าม Gate T14-18 พอดี)

 

ตรงปากทางเข้า ก็จะมีการตรวจเอกสาร และมีการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นด้วย เช่นว่าไปกี่วันอะไรยังไง

พอเค้าเจอคนไทย ก็เลยมีงงๆ เล็กน้อย แต่ก็ยืนยันว่า คนไทยไม่ต้องใช้วีซ่าเข้าเกาหลีใต้ ก็ผ่านไป ไม่มีอะไรครับ

 

เข้าไปนั่งรอแป๊บเดียวก็ได้เวลาขึ้้นเครื่องแล้ว

 

เดินสวนสนามตรงลานจอด ตรงไปขึ้นเครื่องได้เลย วันนี้หวยออกที่ 9M-XXC ครับ

 

ตรงต้นบันไดจะมีเจ้าหน้าที่ภาคพื้นตรวจบอร์ดดิ้งพาส ก่อนขึ้นบันไดไปนะครับ เพื่อความถูกต้อง ไม่ผิดลำ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ขึ้นไปบนเครื่องแล้ว เดินผ่าน Premium Seat ไม่มีโอกาสได้นั่งซะที

 

วันนี้ผมเจอที่นั่งแซนวิช 10B ในส่วน Quiet Zone ซึ่งเพดานจะใส่ไฟสีฟ้าให้หลับสบาย ไม่อนุญาตให้เด็กเล็กนั่งโซนนี้ครับ

 

จะว่าไปแล้ว ถึงแม้ที่นั่งแอร์เอเชียเอ๊กซ์ จะแคบกว่าแอร์เอเชียปกติประมาณครึ่งนิ้ว

แต่ Seat Pitch ก็ห่างพอสมควรนะครับ นั่งแล้วเข่าไม่ติด แต่ถ้าคนที่อ้วนๆ หรือเจ้าเนี้อหน่อย อาจจะรู้สึกว่ามันอึดอัดมากจริงๆ

 

Taxi ออกมาแล้วจ้า เจอน้อง Sharklet มาเลย์ก็เลยซักหน่อยแล้วกัน

 

พอเครื่องไต่ระดับได้ก็ออกสำรวจเครื่องบินครับ ผู้โดยสารค่อนข้างแน่นมาก ส่วนใหญ่ก็ชาวมาเลย์ และชาวเกาหลีครับ

 

สำหรับการบริการบนเครื่องบิน หลังจากที่สัญญาณเตือนรัดเข็มขัดดับลง

ลูกเรือก็จะเดินแจก ผ้าห่ม/หมอน/เครื่องเล่น ePlayer (Samsung Galaxy Tab 10.1) และแจกใบ ตม. ให้กับผู้โดยสารครับ

ส่วนอาหาร จะประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากที่เครื่องขึ้น ถึงจะให้บริการมื้อแรก

เมื่อขายอาหารเสร็จ ก็จะมีขายดิวตี้ฟรีต่อ

และก่อนเครื่องลงประมาณ 1.40 ชั่วโมง ก็จะเข็นรถเข็นให้บริการมื้อที่สองครับ

(สามารถเลือกเคลมมื้อไหนก็ได้ หรือเคลมระหว่างบินก็ได้ครับ)

 

สำหรับอาหารที่สั่งวันนี้เป็น Nasi Lemak ครับ บนเครื่องแอร์เอเชียเอ๊กซ์ ก็จะมีปูกระดาษให้ แล้วก็เสิร์ฟอาหาร

 

โดยมีน้ำดิ่มขนาด 350 ซีซี ให้สำหรับเมนู pre-book ครับ ถ้าซื้อเองบนเครื่อง ต้องซื้อน้ำแยกต่างหาก

แต่อาหารร้อนเค้าโหลดมาเฉพาะ pre-book จริงๆ ถ้าเกิดหิว แต่ไม่ได้สั่งอาหารร้อนไว้ อาจต้องกินพวกมาม่าแทนครับ !!

สำหรับ นาสิเลอมัก บนเครื่อง แอร์เอเชีย และ แอร์เอเชียเอ๊กซ์ ของมาเลย์ สูตรต้นตำหรับ Pak' Nasser ของแท้ อร่อยจริงไรจริงครับ

 

หลังกินเสร็จก็ไปเดินเล่น ถ่ายรูปตรงที่นั่ง Hot Seat 15 HJK มาครับ และบริเวณ Quiet Zone แถว 7-14

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

หลับๆ ตื่นๆ แป๊บเดียว จริงๆ ก็ไม่แป๊บนะครับ พอมือที่ 2 ก็หิวเหมือนกัน เลยได้ฤกษ์ซัดมาม่าเกาหลีไป (จ่ายไป 6 ริงกิต)

จึงแนะนำว่า ถ้าบินระดับ 6 ชั่วโมงขึ้น สั่งอาหาร 2 รอบไว้เถอะครับ อย่างน้อยก็ได้กิน ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ นะครับ

 

บินประมาณ 6.20 ชั่วโมงจากกัวลาลัมเปอร์ บินนานเพราะบินอ้อมจากมาเลย์มาด้วย

ก็ถึงปูซานแล้ว วันนี้เครื่องจอด Bus Gate ครับ (จริงๆ จอดเทียบงวง) 

เพิ่งรู้ว่าที่ปูซาน แอร์เอเชียเอ๊กซ์ จ้าง Korean Air ทำ Ground handling ให้ (ในขณะที่ อินชอน แอร์เอเชียเอ๊กซ์จ้าง Asiana ทำให้)

 

รถก็พาเวียนสนามบิน ส่วนอาคารระหว่างประเทศ ก็ค่อนข้างอลังการอยู่ครับ แม้ไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ 

(ส่วนอาคารภายในประเทศ จะเป็นอาคารหลังเก่าอยู่ถัดออกไปหน่อยนึงครับ)

 

ผ่าน ตม. แบบฉลุย ช่อง Foreigner คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ครับ ส่วนใหญ่เป็นช่องเกาหลีคนจะเยอะมากๆ

ตม. ไม่ถามอะไรซักอย่างครับ สแกนนิ้วอย่างเดียวเลย ออกมารอรับกระเป๋าได้เลยครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

รับกระเป๋าเรียบร้อย มาเร็ว เพราะติด tag พรีเมียมนั่นเอง !!

 

สำหรับใบศุลกากร มีเวอร์ชั่นภาษาไทยด้วยนะครับ ก็กรอกไปตามนั้น แล้วก็ผ่านฉลุยออกไปด้านนอกได้เลย

 

ออกมาด้านนอกแล้วครับ สำหรับรถไฟฟ้า LRT เข้าเมืองให้เดินไปทางขวาได้เลยครับ

 

ด้านนอกก็จะมีป้ายรถเมล์ แต่ต้องออกตัวก่อนว่า ผมก็ไม่ได้รู้อะไรมาก เพราะทริปนี้ไม่ได้เที่ยวปูซานเลยครับ ต่อเครื่องไปเจจูทันที

 

อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ จะอยู่ด้านขวามือครับ ก็เดินตรงไป โดยสถานีรถไฟฟ้า LRT จะอยู่ระหว่าง 2 อาคารนี้พอดี ก็แค่เดินข้ามถนนเท่านั้นครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

สำหรับอาคารภายในประเทศ ก็มีหลายสายการบินครับ

แต่เส้นทางการบินจากปูซาน ก็จะมีไป เกาะเจจู และ บินตรงไปสนามบินกิมโป GMP กรุงโซล เท่านั้นเองครับ

 

พาไปสำรวจสถานีรถไฟฟ้า LRT สถานี Gimhae International Airport ซักหน่อยนึงครับ

สำหรับบัตร T-Money สามารถใช้ที่นี่ได้ครับ แต่ "หาที่เติมเงินยากมากกกกกกก" หายากจริงๆ ครับละแวกสนามบินเหมือนไม่มี

ซึ่งแนะนำว่า ถ้าไม่ชัวร์ ใช้วิธีซื้อเป็นรายครั้งอาจจะชัวร์สุด ราคาเริ่มต้นที่ 1,300 วอน/เที่ยว ครับ

 

สามารถซื้อตั๋วกับตู้อัตโนมัติเป็นรายครั้งได้ครับ

 

ส่วนแผนที่เครือข่ายรถไฟฟ้าปูซาน ผมว่าเที่ยวได้ไม่ยากนะ ขอให้มีเวลาเท่านั้นเองครับ

 

เวลาขบวนรถไฟออกจากสถานีนี้

 

เครื่องเติมเงินบัตรรถไฟฟ้า เข้าใจว่าเติมตัว T-Money ไม่ได้นะครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ตัดมาเป็นขากลับเลยนะครับ

 

ปูซาน-กัวลาลัมเปอร์ กับ แอร์เอเชียเอ๊กซ์ รอบเย็น

D7 513 Busan - Kuala Lumpur 17.25 - 22.30 น. A330-300 9M-XXH

 

 

เรามาถึงอาคารระหว่างประเทศสนามบินกิมเฮ ปูซาน กันล่วงหน้าพอสมควรเลยครับ แต่ก็ไม่สามารถออกไปเที่ยวไหนได้ก็ต้องอยู่ที่นี่นั่นแล

 

ระหว่างรอเช็คอิน ก็ไปนั่งชิลล์ๆ กินสตาร์บัคเวอร์ชั่นเกาหลีซะหน่อย

 

พอใกล้เวลาก็มา stand by ใกล้ๆ เคาน์เตอร์

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เคาน์เตอร์เช็คอินเปิดแล้วจ้า

 

เรื่องน้ำหนัก และขนาดกระเป๋าก็ระวังกันหน่อยนะครับ !!

 

เจ้าหน้าที่เกาหลีจัดให้เข้าช่อง Premium ซะงั้น (เห็นผู้โดยสารพรีเมียมตัวจริงงอนเหมือนกัน ก็ไม่เข้าใจเค้า แยกไปช่องกรุ๊ปก็ได้)

 

ได้บอร์ดดิ้งพาสมาเรียบร้อยครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ได้เวลาผ่าน ตม. เรียบร้อย ....

 

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ที่ Amazing มากคือ บริเวณนี้มี 7-Eleven ด้วยนะครับ (อยู่ฝั่ง Gate 7-8)

สามารถซื้อเครื่องดื่มไปตุนกินบนเครื่องได้ (แต่ต้องแอบๆ หน่อยนะครับ เพราะบนเครื่องมีกฎ No Outside food Policy อยู่)

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เครื่องมาแล้วววว 9M-XXH โดยลูกเรือชุดใหม่ แปะมือกับลูกเรือชุดเดิม ที่นำเครื่องบินมาจากกัวลาลัมเปอร์

ลูกเรือชุดเดิมนี้ก็จะได้นอนปูซาน 1 คืนแล้วบินกลับวันรุ่งขึ้นครับ (ถ้าจำไม่ผิด อาจได้นอน 2 คืนด้วยซ้ำไป เพราะไฟล์ทมีแค่ 4 เที่ยว/สัปดาห์) แจ่มก็ตรงนี้หล่ะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ซึ่ง จริงๆ .... ก็มีเคสสายการบินอื่นๆ ดีเลย์ และความรับผิดชอบที่เค้ามีให้นะครับ

อันแรกก็คือ Korean Air ไฟล์ทไปโอซาก้า ดีเลย์ ก็มีเจ้าหน้าที่มายืนให้บริการเครื่องดื่มกับผู้โดยสารทันที

 

ส่วนของ Jeju Air ไฟล์ท ปูซาน-กรุงเทพ ซึ่งดีเลย์แบบเนืองๆ (เพราะใช้เครื่องหนักมากๆ บางทีหมุนเครื่องไม่ทัน ก็จะมีประกาศแบบนี้

 

ก็อึ้งเหมือนกัน จริงๆ ใช้แค่จอประกาศในสนามบินก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่ต้องเขียนแบบนี้กันก็ได้ครับ

 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

ขึ้นเครื่องกันนะครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เนื่องจากไฟล์ทนี้ไม่เต็ม ก็เลยรีบขยับขยายครับ ไปได้ที่นั่ง 16 HJK ว่างนอนยาว 3 แถวก็สวรรค์ เลย คราวนี้ได้นั่งริมหน้าต่างซักทีครับ

 

 

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ได้เวลาเหินฟ้าแล้ว วิ่งขึ้นด้านที่มีภูเขาด้วย ดังนั้น ตอนที่ลอยขึ้นจะต้องตีโค้งซ้ายหลบภูเขาไปครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ออกจากปูซานไปได้ราวๆ 40 นาทีก็บินผ่านกลางเกาะเจจู ที่เพิ่งจากมาแหม่บๆ เลยครับ บินแบบผ่ากลางเกาะเลย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เมื่อหมอน และผ้าห่มพร้อม เราก็ได้เวลานอนครับ

 

นอนยาว 3 ที่อย่างไร ก็ต้องรัดเข็มขัดนิรภัย (ใช้ของที่นั่งกลาง คลายให้สุด ก็ได้ครับ) รัดเข็มขัดไว้ดีกว่าไม่รัด

กรณีไม่รัด หากเกิดเหตุการณ์ตกหลุมอากาศแรงๆ หนักๆ ร่างของเราอาจจะลอยไปกระแทกเพดานได้เช่นกันครับ

 

สะดุ้งตื่นมาอีกที ฟ้ามืดไปแล้ว 555+ (จริงๆ ถ้าอดทนอีกหน่อย จะเห็นช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่สวยมากๆ เลยครับ แต่ผมไปเข้าเฝ้าพระอินทร์แล้ว)

 

ได้เวลากิน วันนี้เป็นแกงเขียวหวานครับ หลังจากที่ไม่ได้เจออาหารไทยเลย อร่อยน้ำตาไหลครับ !!

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
•