เมื่อวานเพิ่งโดนไปค่าตั๋วค่าเลือกที่นั่งไม่เท่าไร
เจ็บใจตรงที่แม่งเอาตาชั่งมาชั่งกันหน้าประตูทางออกขึ้นเครื่องนี่แหละ โดนชั่งกันทุกคน เหมือนรถเมล์เลย ผมซื้อที่นั่ง 1A จ่ายตังค์ผมไม่ซีเรียส
แต่ผมเจ็บใจตรงที่ให้ทุกคนชั่งกระเป๋าแล้วติดสติ๊กเกอรื Cabin BAG หากใครเกิน 7 กิโลให้จ่ายเงิน 900 บาท ทันที แล้วให้คนเอาไปโหลดใต้เครื่องที่ข้างๆเครื่อง
เหอๆผมดูแล้วเหมือนจะหากินทุกทางนะครับ เมื่อวานมีกระเป๋าต้องจ่ายตัง 110 ใบครับ รวมเป็นเงินที่สายการบินจะได้ 90000 บาท นั่นเติมน้ำมันได้ 3 ตันเลยนะครับ พูดง่ายๆคือเก็บค่ากระเป่าเพื่อเติมน้ำมันเครื่องบินๆกลับนั่นเอง
ปล้นกันซึ่งหน้าเลย 555+
ถ้าไม่ติดว่ามันเป้นสายการบินเดียวที่บินเส้นทางนี้แบบผูกขาดไม่มีทางขึ้นหรอกครับ
ผมมีเกณฑ์ในใจอยู่ว่า ถ้าผมจะเลือกนั่งแอร์เอเชียหรือนกแอร์ต่อเมื่อราคานั้นๆต้องถูกว่า บางกอกแอร์ หรือ การบินไทยอย่างน้อย 500 บาท เพราะไม่เช่นนั้นผมนั่งการบินไทยดีกว่าครับผมเข้าเล้าจ์ได้ด้วยเช็คอินก่อน เลือกที่นั่งก่อน ขึ้นเครื่องก่อนไม่ต่างจากซื้อ hot seat
เรื่องน้ำหนัก carry-on ก็เป็นเงื่อนไขอยู่แล้วหนิครับ กฎเป็นกฏ ก็ไม่เห็นว่าเค้าทำเกินไปตรงไหน แล้วไม่เกี่ยวด้วยว่าเงินที่เก็บเพิ่มนั้นจะเติมน้ำมันได้กี่ตัน
เพราะการเลือกใช้บริการก็ย่อมรู้กฎระเบียบอยู่แล้ว การจะบอกว่าสายการบินทำตามกฎเป็นการปล้น ตรรกะแบบนี้คงไม่ถูกมั้งครับ
สายการบินต้นทุนต่ำคือการบริการต้นทุนที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ค่าโดยสารถูกลง การเก็บเพิ่มก็คือการหารายได้มาชดเชยส่วนที่ลดค่าโดยสารลง มันก็แฟร์ๆแล้วนะครับ
แต่คนบางส่วนยังยึดติดว่าถูกแล้วต้องได้ครบตามที่ตัวเองต้องการ เช่น ไม่โหลดหรอก เพราะต้องจ่ายเพิ่ม ทางสายการบินก็ยอมตามมาตรฐานคือให้ carry-on ได้ 7 kg
แล้วทีนี้ 7 kg มันไม่พอ โดย carry-on มากกว่านั้น แล้วสายการบินเข้มงวดขึ้นมาก็มาว่าสายการบินว่าเอาเปรียบ ตรงนี้มองว่าผดส.เอาเปรียบสายการบินก่อนนะครับ
ทุกอย่างมันมีเงื่อนไขของมันอยู่แล้ว อย่าเอาความสะดวกส่วนตัวแหกกฎเลยครับ ความเคยชิน บางครั้งอาจไม่ถูกต้องก็ได้