22 replies to this topic

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

Advertisements

หยุดวันแม่พาไปเที่ยวเกาะเสม็ดกันครับ

โดยผมเดินทางจากเชียงใหม่ ด้วย นครชัยแอร์ สาย เชียงใหม่-ระยอง และกลับด้วย บางกอกแอร์เวย์ส สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่

เป็นทริป 2 วัน 2 คืนเต็มที่ไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าไหร่ เหมือนไปเปลี่ยนบรรยากาศ เพราะผมเองก็ไม่เคยไปเกาะเสม็ดเลยซักครั้ง

ถ้าได้ไปอะไรที่ไม่เคยไป จะตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษครับ ....

 

สำหรับการเดินทาง เชียงใหม่-ระยอง กับนครชัยแอร์ อ่านได้จากกระทู้นี้โลดครับ

http://www.hflight.n...s/topic/13525-/

 

ผมขอเริ่มต้นที่บ้านเพแล้วกันนะครับ เหตุผลที่เริ่มที่บ้านเพ เพราะถือว่าเป็นประตูสู่เกาะเสม็ดครับ

การเดินทางสู่บ้านเพ ไม่ยากเลย ยิ่งจากกรุงเทพยิ่งง่าย

 

สำหรับการเดินทาง กรุงเทพ-บ้านเพ เข้าใจว่ามีรถตู้ให้บริการอยู่ 2 เจ้าครับ คือเจ้า PP หน้าเซเว่นฯ และเจ้าครัวคุณป้า เป็นคู่แข่งกัน

ต้นทางออกจาก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทั้งคู่ (เจ้า PP หน้าเซเว่น จะจอดซอยราชวิถี ส่วน ครัวคุณป้า จอดที่เซนจูรี่)

ใช้เวลาเดินทาง กรุงเทพ-บ้านเพ หรือ บ้านเพ-กรุงเทพ ประมาณ 3.30 ชั่วโมง ราคาคนละ 200 บาท

สำหรับเที่ยวขากลับ บ้านเพ-กรุงเทพ สามารถเลือกลงได้ที่สถานี Airport Link ลาดกระบัง เสียเงินอีก 15 บาทนั่งแอร์พอร์ตลิ๊งค์เข้าสุวรรณภูมิได้เลย

สำหรับใครที่ต้องการเข้าสนามบินสุวรรณภูมิครับ (ใช้เวลาเดินทาง บ้านเพ-แอร์พอร์ตลิ๊งค์ลาดกระบัง ประมาณ 3 ชั่วโมงพอดีๆ)

 

 

แล้วเราก็ขึ้นเรือกัน มีให้เลือกหลายเจ้า ตามความพอใจ ของผมเลือก นวลทิพย์ ครับ

 

การเดินทางจากบ้านเพ สู่ เกาะเสม็ด มีเรือข้ามฟากให้บริการอย่างน้อย 3-4 เจ้าครับ ใช้เวลาประมาณ 35-40 นาที กับระยะทางแค่ 6.5 กิโลเมตรจากท่าเรือฝั่งบ้านเพ ไปถึงท่าเรือหน้าบ้าน เกาะเสม็ด เรือออกตลอดเมื่อมีคนมากกว่า 20 คนขึ้นไป ตั้งแต่ 8.00-18.00 น. ครับ

ค่าเรือ ไป-กลับ 100 บาท (และต้องเสียค่าท่าเรือเกาะเสม็ดอีกคนละ 10 บาท) กรณีจองรีสอร์ทแถวอ่าววงเดือน จะนั่งเรือตรงไปหาดวงเดือนเลยก็ได้

ราคาไป-กลับ 140 บาท ซึ่งผมก็ว่าสะดวกดี ไม่ต้องเสียเวลาลุยทางสมบุกสมบันบนเกาะครับ

 

ไปเสม็ดกันดีกว่า .... ของผมไปถึงเวลา 8.00 น. รอซักพัก โดยเจ้าหน้าที่ขายตั๋วบอกว่า รอให้ครบ 20 คนก่อนแล้วเรือจะออกนะครับ

เรือออกเวลา 8.20 น. ถึงเกาะเสม็ด 9.00 น. พอดี

 

บรรยากาศที่นั่งพัก ไม้ๆ สบายๆ แต่พื้นไม้แบบนี้ ระวังของร่วงด้วยนะครับ .....

 

ได้เวลา Boarding ขึ้นเรือกันแล้วจ้า ... ส่วนตัวผมถ้าเลือกได้ ขอนั่งบริเวณช่วงกลางเรือ จะดีครับ ถ้าเป็นเรือแบบ 2 ชั้น จะอยู่ชั้นบนก็ได้ โปร่งโล่งสบายกว่า (ชั้นล่างมักจะติดกับห้องเครื่อง) แต่ถ้ารับได้ก็โอเคครับ

 

ตอนขึ้นเรือ อย่าลืมเก็บตั๋วขากลับไว้ดีๆ นะครับ ถ้าหายก็ต้องซื้อใหม่ โดยเจ้าหน้าที่จะฉีกตั๋วเที่ยวขาไปออกไปครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

บริเวณบ้านเพ จะมีสันเขื่อนกั้นคลื่นขนาดใหญ่เป็นแนวยาวอยู่กลางทะเล

เรือก็จะต้องแล่นอ้อมสันเขือน แล้วก็ตรงดิ่งสู่เกาะเสม็ดครับ

 

 

สำหรับคลื่นลมก็ต้อง ลุ้นกันหน่อยนะครับ แต่โชคดีวันที่ผมไป แค่เบาๆ ชิลล์ๆ ถ้านั่งหน้าเรืออาจมีน้ำกระเซ็นนิดหน่อย

 

แค่ไม่เกิน 40 นาทีถ็ถึงแล้วครับ ท่าเรืออุโมงค์ทะลุมิติ !!

 

 

ลงจากเรือกันจ้า มีนางยักษ์มาต้อนรับอยู่ !!

 

ก่อนออกจากท่าเรือ เสียค่าธรรมเนียมใช้ท่าเรือ 10 บาทด้วยนะครับ (สำหรับขาออกจากเกาะไม่ต้องเสีย เสียเฉพาะขาเข้าเกาะ)

 

ออกมาข้างนอก ก็ต้องอึ้ง เมื่อเจอเซเว่นสองสาขาตั้งอยู่ติดๆ กัน !!

ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมเสม็ดจะต้องมีเซเว่น วางเป็นคู่ๆ คู่หน้าเกาะ กับคู่ทางไปหาดทรายขาว ซะงั้นนน

 

สำหรับการคมนาคมขนส่งบนเกาะนั้น ....

พี่เขียว รถสองแถวสีเขียวแมลงทับแบบเปิดประทุน !! จะเป็นการขนส่งสาธารณะหลัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นให้บริการแบบเหมา มากกว่ารายหัว

 

ซึ่งส่วนตัวผม บอกได้เลยว่า ถ้าคุณมาเทียวแบบคนเดียว หรือมากับแฟน หรือมากันเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่ไม่คุ้มต่อการเหมา

เช่ารถมอเตอร์ไซด์ขี่เองจะดีกว่าครับ .... แต่ ..... ขอบอกก่อนว่า ถนนหนทางบนเกาะเสม็ด ตั้งแต่ช่วงออกจากกลางเกาะไปทางอ่าวไผ่ และส่วนอื่นๆ ของเกาะ สภาพดูไม่ได้เลย มีแต่โคลน หรือหิน สภาพแฉะๆ ถ้าขี่มอเตอร์ไซด์ไม่แข็งก็ไม่ควรครับ อันตรายมากๆๆ 

ดังนั้น ถ้าจะเช่ามอเตอร์ไซด์ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เรื่องยางครับ รถมอเตอร์ไซด์บนเกาะเสม็ด ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนเป็นยางวิบากทั้งนั้น

เพื่อช่วยให้เกาะถนนดีขึ้น ของผมเลือกเช่ารถของที่พักครับ เป็น Click-i เครื่อง 125 ซีซี เกียร์ออโต้ ยางวิบาก เครื่องแรงใช้ได้ มั่นใจได้อยู่ครับ

ค่าใช้จ่าย 300 บาท/วัน รวมน้ำมัน ไม่เต็มถัง แต่ก็ไม่ต้องเติมคืนให้ครับ ส่วนใหญ่น้ำมันที่ให้มาประมาณ 75% ก็ไปได้รอบเกาะแบบเหลือเฟือครับ

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

สำหรับเรื่องร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ จริงๆ มีเยอะครับ

เลือกเช่าได้ตามอัธยาศัยเลย ไม่จำเป็นต้องเช่ากับที่พักก็ได้ แต่ข้อดีของการเช่ากับที่พักก็คือ เค้าดูจะไว้วางใจเรา ไม่เข้มมวดเท่าไหร่

เหมือนยืมรถเขามาขี่ (แต่จ่ายตังค์ค่าเช่าให้เขา) เท่านั้นเองครับ ค่าใช้จ่ายก็อยู่ในช่วง 300-400 บาท บางเจ้าเกียร์ออโต้อาจคิด 400 บาท

แต่ส่วนใหญ่ก็ 300 บาทครับ บริเวณปากทางใกล้กับท่าเรือก็มีหลายเจ้าอยู่ เช่าหน้าท่าเรือก็สะดวกดีเหมือนกันนะครั่บ

 

 

อีกอันหนึ่งที่น่าสนใจคือการเช่ารถ ATV ขี่รอบเกาะครับ แต่เหมือนจะได้ยินว่าค่าเช่าจะอยู่ในหลักพันบาทขึ้นไป

ซึ่งถ้ามากันสองคน เป็นคู่แฟน ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจดีครับ แต่ทางบนเกาะช่วงทีชันมากๆ (เช่นก่อนถึง ปารดีรีสอร์ท) เอทีวีก็ไม่น่าจะไปรอดเช่นกัน

 

ของผมตัดสินใจไปเช่ากับที่พัก ก็เลยเดินไปที่พักก่อน

ซึ่งที่พักที่ผมจอง ผมเลือกค้นๆ เอาจาก Booking.com เพื่อความสบายใจ

จริงๆ ที่พักบนเกาะเสม็ดเยอะมากครับ พอเจอมรสุมน้ำมันทีเดียว ที่พักว่างๆ เยอะมาก ถ้าเดินทางมาช่วงกลางสัปดาห์ จะมา walk-in

มาดูสภาพหน้าตาห้อง แล้วต่อรองราคาก็ได้ ที่พักห้องพักลมก็เฉลี่ย 500 บาทขึ้นไป ห้องแอร์ก็ประมาณ 700-800 บาทขึ้นไป สำหรับที่พักแบบเกสต์เฮาส์ ที่อยู่บริเวณกลางเกาะ (ระหว่างท่าเรือหน้าบ้าน กับ หาดทรายขาว) นะครับ

 

 

ผมเลือกที่นี่ครับ Smile Samed House เจ้าของอัธยาศัยดีมาก เรตติ้งใน Booking.com ก็ดูดีทีเดียว

พอดีเห็นห้องพัดลมคิดแค่ 600 บาท มานอนคนเดียวอยู่แล้ว ก็เลยไม่คิดอะไรมากครับ ซอยทางเข้าค่อนข้างทุลักทุเลพอสมควรทีเดียว

 

 

สภาพห้องพักก็ .... ประมาณนี้นะครับ ห้องแอร์ กับห้องพัดลม เหมือนกัน ต่างกันแค่มีหรือไม่มีแอร์ เท่านั้น

(เข้าห้องได้ตั้งแต่หลังเที่ยงเป็นต้นไปนะครับ มาก่อนก็เข้าก่อนเวลาไม่ได้)

ห้องพัดลมอยู่บนชั้น 3 อากาศกลางวันก็ร้อนหน่อย แต่ก็น่าจะพออยู่ได้

 

พอดีเจ้าของเค้าบอกว่า มีห้องแอร์ ชั้นล่างว่างห้องนึง เสียค่าอัพเกรดเพิ่ม 200 บาท ก็เลยได้เสียเพิ่มเลยครับ อยู่ห้องแอร์ดีกว่า 555+

ปล. สังเกตว่า ... ไม่มีผ้าห่มให้นะครับ !! ผมก็งงตัวเองเหมือนกันว่า นอนไปได้ยังไง หลับไปเฉยเลย ตื่นมาตอนเช้าโดยไม่มีผ้าห่มอยู่ !!

 

พอได้ที่พักเรียบร้อย เราไปสำรวจโดยบิดมอเตอร์ไซด์เที่ยวกันครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เข้ามาปาด

อนุญาตให้ปาดได้ แต่จะลบ คห. ปาดทิ้งนะครับ 555+

 

ดูแผนที่เกาะเสม็ดกันก่อนนะครับ

 

จะเห็นว่าจุดที่มีปัญหา คืออ่าวพร้าว จะอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ ซึ่งค่อนข้างห่างไกลจากหาดอื่นๆ พอสมควร

ในขณะที่ฝั่งตะวันออก คือบริเวณท่าเรือทางด้านทิศเหนือ และ หาดทรายแก้ว ที่อยู่ทางทิศใต้ เป็นย่านที่ผู้คนคึกคักสุดๆ 

และเมื่อลงไปทางใต้อย่าง อ่าวพร้าว อ่าววงเดือน ก็มีรีสอร์ทอยู่กระจัดกระจายครับ ผมก็จะพาไปดูในอันดับต่อๆ ไป

 

ที่พักราคาหลักร้อย ....

พูดถึงที่พักกลุ่มหลักร้อยก่อน ส่วนใหญ่ จะกระจุกตัวอยู่บริเวณกลางเกาะเสม็ด (หมายถึงช่วงทีอยู่ระหว่างท่าเรือหน้าบ้าน กับ หาดทรายแก้ว)

มีเยอะมากๆ ครับ แต่สภาพก็ตามราคาอาจจะต้องทำใจหน่อย (ถ้าเป็นห้องแอร์ก็ราคาอาจจะขึ้นหลักพัน จนถึงพันกลางๆ ได้ ขึ้นอยู่กับเป็นช่วงสุดสัปดาห์ด้วยหรือเปล่านะครับ)

 

สำหรับที่พักติดหาด ก็มีให้เลือกเพียบบบ ครับ แต่ก็ต้องทำใจกับราคากันนิดนึง !!

ถ้าเอาประเภทที่ มองเห็นทะเลเต็มๆ ตาจากระเบียงห้องพัก หรือเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงหาดทรายขาว เตรียมเงินไว้ในกระเป๋า ไม่ต่ำกว่า 3 พันปลายๆ ต่อคืนไว้ได้เลยครับ ทั้งนี้ ห้องพักที่ติดหาดส่วนใหญ่ มักเป็นห้องพักแบบนอนได้ 4 คน แล้วเหมาจ่ายทั้งหลัง ไม่รวมอาหารเช้า ซึ่งถ้าเอาเดินทางสะดวก หาอะไรกินง่าย ขอแนะนำ หาดทรายแก้ว ทำเลสะดวก คึกคักที่สุดบนเกาะเสม็ดแล้ว มีรีสอร์ทมานำเสนออยู่ 3 แห่งครับ

 

 

1. Samed Sand Sea Resort ติดต่อคุณธร ผู้จัดการ โทร 086-3097447 / 087-5837788 สำนักงาน 038-651126

เว็บไซต์ http://www.samedbeachhotels.com อีเมล์ samedsandsea2009@hotmail.com 

ที่นี่ อยู่ปากทางเข้าหาดทรายแก้วพอดิบพอดีครับ เรียกได้ว่า ห้องพักติดหาด และส่วน Front Office จุดเช็คอินก็อยู่ทางเข้าออกหาด ไม่ต้องลากกระเป๋าไปไกล ถ้าจะเดินจากท่าเรือมาก็ประมาณไม่เกิน 10 นาที ไม่ต้องลากกระเป๋าบนพื้นทรายด้วยครับ

 

สำหรับห้องติดหาด A1 และ B1 มีหน้าตาอย่างในภาพ นอนได้ 4 คน ราคาอยู่ที่ 4,800-5,500 บาท/คืน แต่ติดหาดเลย นั่งเล่นชมทะเลได้

 

พี่ผู้จัดการน่ารักมากๆ ผมมาสอบถามเรื่องห้องพัก แล้วก็รวดถามว่า จากเหตุการณ์เรื่องน้ำมัน กระทบกับรีสอร์ทพี่มากไหมครับ??

พี่เค้าตอบแบบน่ารักๆ ว่า น้องๆ ดูปากพี่นะ กระทบ "ม๊ากซ์" !!!!!

 

2. ต้นสักรีสอร์ท อยู่ติดๆ กันครับ http://www.tonsak.com โทร 038-644314 

ห้องที่อยู่ติดทะเลอย่างที่เห็นในภาพ ก็ราคาประมาณ 4,800-5,200 บาท ไม่รวมอาหารเช้า ถ้าช่่วงคืนวันเสาร์ก็แพงหน่อยเป็นเรื่องปกติ

 

3. Summer Day Beach Resort http://www.facebook.com/everydaysummer หรือโทร 038-644435

ผมเห็นครั้งแรกแล้วผมชอบที่นี่มากๆ เลย ดูเป็นที่พักชิลล์ๆ เหมาะสำหรับคู่รักวัยทำงาน ราคาห้องพักรวมอาหารเช้าสำหรับ 2 คน เริ่มที่ 3,300 บาท แต่ห้องพักแต่งสไตล์ดูโมเดิร์นพอสมควร เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงหาด แต่ความเป็นส่วนตัวอาจจะมีไม่มากเท่าไหร่

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

พูดถึงอาหารการกิน ....

 

แบบประหยัด สำหรับคนงบน้อย 555+

 

บนเกาะมีเซเว่นอยู่ทั้งหมด 4 ร้าน แบ่งเป็น 2 แห่งคือ บริเวณท่าเรือหน้าบ้าน

กับบริเวณกลางชุมชนใกล้หาดทรายแก้ว .... โดยทั้ง 2 แห่ง ตั้งอยู่ติดกันเป็นคู่ (ก็ไม่เข้าใจเค้าเหมือนกัน ??)

ทั้ง 4 เซเว่น มีอาหารการกินครบทุกอย่างเหมือนบนฝั่ง แต่ราคาจะบวกเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย เป็นค่าขนส่งครับ

 

รวมถึง อาหารสำเร็จรูปแช่เย็น 7-Fresh อุ่นทานได้ 24 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้นที่ 36 บาท จะแพงกว่าบนฝั่งเล็กน้อยครับ

ทั้งนี้ เซเว่นบนเกาะ ไม่เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายพิเศษ เช่นแพคคอมโบเซ็ทชุด 15 25 35 บาทนะครับ

 

ร้านอาหารตามสั่ง มีอยู่ทั่วไปครับ ราคาเริ่มต้นที่ 50-80 บาทขึ้นไป ค่าครองชีพบนเกาะไม่ได้ถูกนัก ก็จะทานตามร้านก็ได้

ขึ้นอยู่กับเมนูที่นั่ง ถ้าตระกูลทะเลก็แพงหน่อย ต้องทำใจครับ

 

เท่าที่ผมเห็นมี ร้านที่เค้ารับทำอาหารทะเลปิ้งย่างด้วยนะครับ คือ สามารถสั่งให้เค้าทำอาหารทะเลปิ้งย่าง แล้วก็หิ้วกลับไปกินที่ที่พักได้

อยู่ริมถนนช่วงจากท่าเรือ ไปชุมชนกลางเกาะ ถ้าที่พักมีพื้นที่ นั่งกินได้ก็น่าสนใจอยู่ครับ สำหรับอาหารทะเลสดๆ บริเวณอ่าวน้อยหน่า (ถ้าออกจากท่าเรือเลี้ยวขวา ไปทางทิศเหนือของเกาะ ฝั่งที่ชนกับชายฝั่ง ก็มีหลายร้านที่ขายอาหารทะเลสดๆ และก็มีร้านอาหารตามสั่ง ที่น่าจะพร้อมให้บริการรับทำอาหารเช่นกัน

 

แบบชิลล์ริมหาด สำหรับคนมีงบ

จริงๆ ถ้ามีตังค์ และเลือกได้ ก็อยากนั่งทานอะไรชิลล์ๆ ริมหาด ทานได้ทั้งช่วงกลางวัน และช่วงกลางคืน ได้ยินเสียงคลื่นซ่าๆๆ และเท้าได้สัมผัสทราย

สำหรับหาดทรายแก้ว มีร้านทีแนะนำก็ประมาณนี้ครับ

 

 

ร้านปลายทะเล พอดีเจ้เจ้าของที่พักเค้าแนะนำมาครับ

 

ก็เลยมาลองดู ราคาก็มาตรฐานอาหารทะเลริมหาด ซึ่งไม่ได้ถูกนัก แต่ก็อยากกิน 555+

อาหารจานเดียว อย่างกระเพราปลาหมึกทีเห็นในภาพ อยู่ที่ 80 บาท ถือว่ามาชิลล์ ริมทะเลแล้วกันนะไม่คิดอะไรมาก (ซื้อกินบนเครื่องแพงกว่า)

 

ด้วยความที่ติดใจอยากกินปลาหมึก ก็เลยโดนจัดไปอีกดอกหนึ่ง ปลาหมึกย่าง .... จานนี้ 150 บาท (ราคาคิดเป็นขีด ขีดละ 50 บาทครับ)

 

สำหรับเครื่องดื่มเบาๆ ไฮเนเก้นขวดเล็ก 60 บาท ผมว่าถูกกว่าสมุยครับ อันนั้นแพงกว่าจริง

 

บรรยากาศสบายๆ ริมทะเล ใต้แสงเทียน แต่ทริปนี้ผมมาคนเดียวแฮะ !!

 

ร้านพลอยทะเล ติดๆ กัน อันนี้เหมาะสำหรับแนวนั่งดื่ม นั่งคุย นั่งยาวๆ คนเยอะมากกกกกก

เหมือนจะมีซุ้มบาร์บีคิวปิ้งย่างให้สั่งทำได้ด้วยครับ

 

ร้านเจี๊ยบ (เจี๊ยบรีสอร์ท) อยู่อ่าวไผ่ครับ เป็นร้านที่ผมว่าจัดได้น่านั่งมาก หาดเงียบสงบ เปิดแต่เช้าเลย น่าจะให้บริการทั้งอาหารเช้า-กลางว้น-เย็น ฝรั่งนั่งกันเพียบ เห็นแล้วก็อยากไปนั่งบ้าง (แต่งบหมดครับ ต้องกินเซเว่นแทน 555+)

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

พูดถึงเรื่องทีพักและที่กินไปแล้ว จะพาเที่ยวรอบเกาะแล้วนะครับ ....

 

เริ่มต้นจาก หาดทรายแก้ว ซึ่งเป็นหาดที่พลุกพล่านที่สุด กิจกรรมเพียบเลยครับ เลือกได้ตามกำลังทรัพย์

ไม่ว่าจะเป็นเจ๊ทสกี หรือ ขึ้นบนร่มลอยละล่องชมหาด หรือแค่เช่าที่นั่ง เช่าอุปกรณ์ก็ตามแต่โลดครับ

 

จุดเด่นของหาดทรายแก้วนี้ ผมว่า หาดทรายขาวละเอียด (แต่ไม่เทพเท่าหลีเป๊ะ) น้ำใสมากๆ และร้านอาหารเยอะ เดินทางสะดวกครับ

 

แต่ถนนหนทางบนเกาะ ยังคงต้องทำใจนะครับ !! ถ้าขี่มอเตอร์ไซด์ไม่แข็งนี่ ไม่ควรเช่ามอไซด์ขี่เลย เพราะจะอันตรายมากๆ

 

บริเวณพระอภัยมณีเป่าปี (ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะครับ สามารถเดินทะลุไปอ่าวไผ่ได้ครับ ค่อยๆ เดินไป) จอดรถบริเวณนี้แล้วลงเดินเลี้ยวซ้ายไปหาดทรายแก้ว เลี้ยวขวาก็จะเป็นอ่าวไผ่ได้เลย

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

จากอ่าวไผ่ ก็จะลงใต้ไปเรื่อยๆ ตามแผนที่นะครับ ค่อยไปปิดท้ายที่อ่าวพร้าว หาดเดียวที่มีปัญหาแต่กระทบไปทั้งเกาะ แล้วกัน

ถนนหนทางตั้งแต่ออกจาก อ่าวไผ่ ไปจะค่อนข้างเละเทะพอสมควร ถ้าฝนตกไม่ต้องพูดถึง แฮะมาก มีแต่โคลน 

และทางหลายๆ ช่วงกำลังทำต้องระมัดระวังมากๆ ครับ และยิ่งลงใต้ไปเรื่อยๆ ทางก็จะยิ่งโหด ชัน และมีหินด้วย

เรียกได้ว่าถ้าไปถึงอ่าวปะการังใต้สุดแล้วกลับมาได้ ถือว่าสอบผ่านหลักสูตรมอเตอร์ไซด์วิบากเกาะเสม็ดเรียบร้อยครับ

อันนี้แค่เพิ่งจะออกจากอ่าวไผ่นะครับ เละเทะมาก ต้องค่อยๆ หลบรถด้วย ระวังลื่น่ เรียกได้ว่า ถ้าเป็นมอเตอร์ไซด์ยางปกติไม่รอดแน่ๆ

 

ขี่มาแป๊บนึงก็จะถึงทางแยก เลี้ยวซ้ายลงใต้ ถ้าตรงไปจะผ่านอ่างเก็บน้ำกลางเกาะ แล้วไปสุดทางที่อ่าวพร้าวที่มีปัญหาครับ

จึงจะเห็นได้ว่า จริงๆ อ่าวพร้าวค่อนข้างแยกออกไปจากหาดอื่นๆ พอสมควรทีเดียว พื้นที่ถือว่าอยู่คนละฟากเกาะ ดังนั้นถึงแม้ว่า

อ่าวพร้าวจะได้รับผลกระทบมาก (ซึ่ง PTTGC กำลังเร่งฟื้นฟูอยู่) แต่หาดอื่นก็แทบไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยครับ เที่ยวได้ตามปกติ

 

เมื่อเลี้ยวซ้าย ลงใต้แล้ว แวะอ่าวเล็กๆ ชื่อว่า อ่าวทับทิม เงียบสงบมากๆๆ ครับ

ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะชื่อว่า ทับทิมรีสอร์ท เงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปลีกวิเวก กลางคืนคงจะเงียบมากๆ ทีเดียวครับ

 

เราก็จะไปต่อที่อ่าวใหญ่ทางตอนใต้ ก็คือ อ่าววงเดือน ครับ เป็นอ่าวที่เฮียสรยุทธ์ รายงานข่าวตอนที่เกิดเหตุใหม่ๆ

จนเป็นประเด็นอย่างนั้นอย่างนู้นอย่างนี้ ซึ่ง หาดทางฝั่งตะวันออกก็ไม่ได้รับผลกระทบ เที่ยวได้ตามปกติ อย่างที่แกรายงานนั่นหล่ะครับ

ซึ่งระหว่างทางไป ก็กำลังทำพอดีๆ ขี่มอไซด์ตามพี่รถสองแถวเขียวแมลงทับเปิดประทุนไปเลย !!!

 

ถึงจุดจอดรถอ่าววงเดือนแล้ว ทางเข้าค่อนข้างลึกลับนิดนึงนะครับ แต่จะไปโผล่ออกหน้า 108Shop พอดี กลางคืนไม่รู้จะมืดขนาดไหน

แต่หาดนี้มีสภาพเป็นชุมชนใหญ่ครับ เรียกได้ว่า มีร้านอาหาร รีสอร์ทครบ ถ้าเลือกพักหาดนี้ จะไม่ออกไปไหนเลยก็ได้

และมีเรือออกจากทางบ้านเพ มาส่งถึงอ่าววงเดือน ในราคาไป-กลับ 140 บาทด้วยครับ

 

โดยคนที่นั่งเรือจากฝั่งบ้านเพ มาลงที่อ่าววงเดือน จะต้องต่อเรือกันกลางทะเลถ่ายมาลงเรือท้องแบนเข้าชายฝั่งครับ

 

เท่าที่ดูๆ ก็เป็นอีกหาดหนึ่งที่น่าสนใจ ความพลุกพล่านไม่เท่ากับหาดทรายแก้ว เหมาะสำหรับคนที่ ชอบแสงสีในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องการความเป็นส่วนตัวด้วย กำลังลงตัวครับ มีรีสอร์ทที่พักให้เลือกมากมายทีเดียว

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ออกจากอ่าววงเดือน ทางก็จะเริ่มวิบากและฮาร์ดคอร์ขึ้นเรื่อยๆ ครับ .....

ต้องอาศัยทักษะการขี่มอเตอร์ไซด์ที่ค่อนข้างแข็งพอสมควรทีเดียว และที่สำคัญถ้าไม่ใช่ยางวิบากไม่รอดแน่ๆ ครับ

 

 

ผมว่าที่หนักสุดน่าจะเนินนี้หล่ะ เรียกว่า เนินปารดี เพราะจะอยู่ก่อนถึงปารดีรีสอร์ท รีสอร์ทที่น่าจะหรูที่สุดบนเกาะเสม็ดนั่นเองครับ !!

เพราะรถยนต์หลายคันก็ไม่กล้าลงไปเพราะกลัวขึ้นไม่ได้ ระดับความชันไม่ใช่ธรรมดาๆ ครับ และทางมีหินปนด้วย ถึงแม้จะเป็นยางวิบากก็ต้องระวังมากๆ เพราะอาจไถลได้เช่นกัน .... ถ้ามีใครซ้อน ก็ให้ลงจากรถเดินขึ้นมาได้เลยครับ เพราะยังไงก็ขี่ผ่านไปพร้อมกันทั้ง 2 คนไม่ได้แน่ๆ

ทั้งนี้ เท่าที่ทราบ แขกของ Paradee Resort เค้ามาทางเรือเกือบทั้งหมดครับ ไม่ต้องมาผ่านเนินตรงนี้หรอก 555+

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

พาชมรีสอร์ทหรู ปารดีรีสอร์ท ครับ

พอกำลังจะเข้าไป รปภ. เบรกเอี๊ยดดด บอกให้เอารถจอดข้างหน้า และตอนที่เข้าไปขอ inspection ใช้นามบัตรแลกด้วยนะครับ

จึงคิดว่า ถ้าเป็นตาสีตาสาจะไปขอดูท่าจะยากพอสมควรจริงๆ

 

 

ห้องที่เจ้าหน้าที่กำลังพาไปดู คือห้อง Beach Front Pool Villa ครับ แต่ละห้องก็ลักษณะจะใกล้เคียงกัน ต่างกันแค่ว่ามีสระว่ายน้ำส่วนตัวหรือเปล่า

ทั้งนี้ หาดของรีสอร์ทนี้ถือว่าเป็นหาดส่วนตัว ไม่มีคนอื่นเข้ามารบกวนได้ครับ

 

 

เข้าไปภายในห้องพักบ้างนะครับ ก็จะมีส่วนนั่งเล่นเห็นวิวสระและวิวทะเล กับส่วนที่นอนเตียงหนานุ่มมม จริงๆ ผมว่าเค้าวางทีวีผิดตำแหน่งไปหน่อยนะ

 

บริเวณเตียง และทีวีอยู่ข้างๆ ??

 

ในส่วนของห้องน้ำขนาดใหญ่ มี่มีส่วนอ่างอาบน้ำ ส่วนยืนอาบแบบเรนชาวเวอร์ขนาดใหญ่ มีประตูทะลุออกไปทางสระว่ายน้ำ จะนอนอาบแดดส่วนตัวก็ได้ แบบสบายๆ

 

สำหรับแขกที่พักส่วนใหญ่ เป็นชาวต่างชาติ ทางเอเชีย ยุโรป รัสเซีย เยอะอยู่ ส่วนคนไทยค่อนข้างน้อย (ตามราคานะครับ)

 

ออกมาข้างนอกดีกว่า แต่ละวิลล่าก็จะมีประตูกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว

 

เจ้าหน้าที่พาไปชมส่วน Sunset Terrace บริเวณด้านทิศตะวันตก เพราะรีสอร์ทนี้มีพื้นที่ครอบครุมทั้งฝั่งตะวันตก และตะวันออก

จะมีท่าเทียบเรือของตัวเองทั้ง 2 ด้าน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและคลื่นลมครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

หลังจากออกจากปารดีรีสอร์ท สภาพทางก็จะวิบากเหมือนเดิมจนกระทั่งถึง อ่าวปะการังครับ

 

ก็เลยแวะดู นิมมานนรดี รีสอร์ท ซักหน่อย เป็นรีสอร์ทแห่งเดียวที่อยู่อ่าวปะการัง ใต้สุดของเกาะเสม็ดครับ

ห้องพักสีสันสดใสมากมายจริงๆ แต่เงียบสงบมากกก จนคิดว่า ถ้าพักที่นี่คงไม่ต้องออกไปไหนเพราะอยู่ห่างไกลจากใครอื่นจริงๆ

 

 

ชายหาดเงียบสงบมากๆ 

 

บริเวณส่วนกลางและห้องอาหาร

 

และแล้วเราก็ไป จุดชมวิวอ่าวปะการัง ส่วนใต้สุดของเกาะเสม็ด ซึ่งจะมีสองฝั่งคือ ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก

แต่ด้วยทางเดินไปฝั่งตะวันตกดูค่อนข้างรกมาก เสียวงูเงี้ยวตะเขี้ยวขอ ก็เลยขอไปทางตะวันออก ซึ่งก็จะผ่านบ้านพัก ซึ่งดูเงียบๆ

เดินคนเดียวแล้วขนลุกอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ เพราะเปลี่ยวมากๆๆๆๆๆๆๆ

 

 

ผมว่าได้เวลากลับแล้วเนอะ ... ใกล้จะเย็นแล้ว .... เปลี่ยวเกิ๊นนนนนนน

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ขากลับขึ้นมาแวะตรงจุดชมวิวกลางเกาะ จะเห็นวิวทะเลทางทิศตะวันตก

ก็จะเห็นหลายๆ คู่มานั่งดูพระอาทิตย์ตกดินกัน !!

 

 

ทีนี้เราจะไปดู อ่าวพร้าว กันบ้างแล้วครับ ....... อ่าวพร้าวประกอบไปด้วยรีสอร์ท 3 แห่งคือ

1. เลอวิมานคอทเทจ 2. ลิม่าโคโค่รีสอร์ท 3. อ่าวพร้าวรีสอร์ท

(เห็นว่า 3 แห่งจริงๆ ก็มีเจ้าของคนเดียวกันนั่นแหล่ะครับ แต่แยกการจัดการออกจากกัน)

เป็นอ่าวเดียวที่ต้องปิด จนกว่าการฟื้นฟูจะเสร็จสิ้น ตอนนี้ก็ยังไม่มีกำหนดเปิดครับ

 

เริ่มต้นที่สามแยกอ่าวพร้าวนะครับ จะเห็นว่าถนนหนทางกำลังทำอยู่ ถ้าฝนตกโคลนจะเยอะมาก ค่อนข้างทุลักทุเลพอสมควรครับ

แต่ถ้าถนนหนทางเสร็จ อะไรๆ น่าจะดีขึ้นครับ

 

ทางก็จะผ่านอ่างเก็บน้ำกลางเกาะเสม็ดด้วย

 

เมื่อเข้าไปก็จะเห็นป้อมยาม ที่มีป้ายเบ่อเริ่มเขียนไว้ชัดเจนว่า ยังไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้า 

(พอดีผมใช้นามบัตรสื่อ Online Media ว่าเป็น Blogger เข้าไปพื้นที่ก็เลยได้อยู่ครับ)

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2556 หรือเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนโพสต์กระทู้นี้

 

ทหาร และจิตอาสา (วันนี้เยอะหน่อย) ก็ทำหน้าที่ช่วยกันเก็บเศษคราบน้ำมันที่ยังอยู่ตามชายหาดครับ

 

บริเวณกองบัญชาการ ซึ่งใช้พื้นที่เลอวิมานรีสอร์ทเป็นฐานบัญชาการ

 

ซึ่งถ้าดูโดยรวมๆ สภาพหาดก็ดูเหมือนจะเรียบร้อยครับ แต่ยังมีหลายๆ อย่างที่ต้องค่อยๆ ทำกันไป

 

งานที่ทาง PTTGC (PTT Global Chemical) ได้ทำไปก็คือจัดการเรื่องชายหาด แล้วใช้ปั๊มน้ำแรงดันสูงชะล้างคราบน้ำมันตามโขดหินออกครับ

 

ซึ่งก็คงใช้เวลาพักหนึ่งหล่ะครับ กว่าจะเปิดหาดนี้ได้ ทั้งนี้คราบน้ำมันบางทีจะแฝงตัวอยู่ใต้พื้นทราย เวลาพอคลื่นซัด ก็จะออกมา ค่อยๆ กำจัดไป

Attached Thumbnails

• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

แอบดูรีสอร์ท 3 แห่งที่ปิดในช่วงนี้ ตอนนี้ถามว่าปิดไหม ก็เหมือนพักงานก็ยังคงปฏิบัติงานอยู่

และห้องพักก็เปิดให้บริการสำหรับ ผู้เกี่ยวข้องมาเข้าพักครับ ยังไม่มีกำหนดเปิดเลย

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

พอดีเห็นเค้าเก็บๆ กันก็เลยไปลุยด้วย อยากรู้ว่าเป็นไง

สำหรับสมาชิกจิตอาสาก็จะได้อุปกรณ์ เป็นถุงมือยาง ถุงพลาสติกใส่เศษคราบ และช้อนกลาง 1 คัน

 

สิ่งที่เค้าเก็บก็คือ เศษคราบน้ำมัน ที่จะลอยขึ้นมาเมื่อมีคลื่นซัดครับ

ก็ต้องค่อยๆ ช้อนขึ้นมา โดยเวลาคลื่นมา จะมาเป็นแพเลยครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ผมเก็บไปได้สองถุง แดดแรง ผู้คนเริ่มแตกฮือ โดยปกติจะเก็บกันได้ก็ต้องเป็นช่วงที่น้ำลดแบบนี้หล่ะครับ

ทาง PTTGC ซึ่งเป็นเจ้าภาพก็จัดอาหารและเครื่องดื่มแบบล้นเหลือไว้พร้อมสำหรับ ทหารและคนที่มาช่วยเหลือ ก็เลยได้มีอะไรกิน แฮ่ๆๆ

ก็เลยขอเอนหลัง นั่งบนพื้นหญ้านุ่มๆ ซักหน่อยนึงนะครับ

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

อ่าวพร้าว ชุดสุดท้ายแล้วครับ ช่วงเย็น ทุกคนเลิกงานกันหมด ผมก็ไปเก็บภาพ

ซึง ทางรปภ. ก็จำหน้าได้ เลยปล่อยให้เข้าไป เก็บภาพยามเย็นของอ่าวพร้าว อันเงียบสงบ

 

 

จะเห็นว่า ช่วงเย็นๆ เมื่อมองพื้นน้ำ จะเห็นมีคราบน้ำมันสีแวววาวอยู่บนผิวน้ำ ตอนนี้น้ำขึ้นพอดี

และบางที น้ำมันที่แทรกอยู่ใต้พื้นทรายก็จะลอยขึ้นมาได้

 

ปรากฎว่า ถ่ายไปได้นิดหน่อย คุณผู้จัดการรีสอร์ท เดินเข้ามาถามตรงๆ ว่า คุณพักที่นี่หรือเปล่า ถ้าไม่ได้พักก็ขอเชิญออกนอกพื้นที่

เพราะพื้นที่นี้ปิด ตอนนี้ผมสั่งห้ามและสั่ง รปภ. ไม่อนุญาตให้เข้ามาแล้ว สรุปก็เลยโดนเชิญออกมาครับ 555+

 

บ้ายบาย อ่าวพร้าว หวังว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ แล้วจะกลับมาใหม่นะ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

คห. สุดท้ายแล้วครับ ยาว ย๊าว ยาว ....

 

เดินทางกลับจากเสม็ด สู่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แล้วบิน บางกอกแอร์เวย์ส กลับเชียงใหม่

จริงๆ มีบริการรถเรือ+รถตู้รับส่ง ถึงอาคารผู้โดยสาร แต่พี่ท่านคิด 500 บาท/คน ครับ

 

ซึ่งถ้าเรานั่งเรือเอง (เกาะเสม็ด-บ้านเพ 50 บาท) แล้วต่อรถตู้ บ้านเพ-กรุงเทพ คนละ 200 บาท ลงที่สถานี Airport Link ลาดกระบัง

แล้วต่อรถไฟฟ้า Airport Link เข้าสนามบินสุวรรณภูมิก็จะประหยัดกว่ามาก

 

 

พอเช็้คเอ้าท์ ผมก็เดินมาท่าเรือครับ ช่วงกลางวันเรือออกทุกชั่วโมง ผมก็เลยรอเรือรอบ 14.00 น.

เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าให้นั่งรอก่อน แล้วพอเรือเทียบ จะมีการประกาศอีกครั้งหนึ่งว่า เรือของเจ้านี้ ให้ขึ้นเรือที่ท่าหมายเลขอะไรครับ

อย่างเรือนวลทิพย์ ลำนี้มาเทียบ แต่ก็ไม่ใช่จะเดินทางด้วยลำนี้นะครับ ต้องรอประกาศก่อนนน 

ที่สำคัญ อย่าทำตั๋วหายนะครับ

 

 

ไปบ้ายบายนางยักษ์ แล้วไปขึ้นเรือกัน เอาตั๋วให้เค้าเก็บไปเลย แล้วก็ขึ้นไปหาที่นั่งตามอัธยาศัย

 

กำลังแซงเรือเล็กท่าศรีบ้านเพ กลางทะเล 

 

ผ่านไปแค่ไม่เกิน 40 นาที เรือก็จอดสนิทที่ท่าเรือนวลทิพย์ ฝั่งบ้านเพครับ

 

แล้วผมก็รีบกระโดดขึ้นรถตู้ โชคดีมากที่พอขึ้นปุ๊บรถออกปั๊บ รอบ 14.50 น. จากคิวหน้าเซเว่นบ้านเพ

พร้อมผู้โดยสาร 7 คน แล้วก็แวะรับผู้โดยสารตามรายทาง ตั้งแต่ระยอง เลียบสาย 36 จอดตลอด จนเต็มคันรถเปรี๊ยะๆ

 

แถมมีช่วงนึง แวะเติมแก๊ส 15 นาทีด้วย รถค่อนข้างเยอะ แต่พี่แกก็เหยียบมิดใช้ได้ครับ

มาถึงสถานี Airport Link ลาดกระบัง เวลา 17.55 น. รวมเวลาเดินทาง 3.05 ชั่วโมงพอดี

ก็ได้เวลาเกาะรถ City Line เข้าสนามบินสุวรรณภูมิ 15 บาท

 

แล้วก็ตรงดิ่งไปเช็คอินเคาน์เตอร์บางกอกแอร์เวย์ส Row F สบายๆ

 

ไม่ค่อยได้มีโอกาสมา 'ลงดอยสุเทพ' เลยหลังจากที่แอร์เอเชียย้ายไปดอนเมือง ฝั่งภายในประเทศสุวรรณภูมิช่างดูเงียบเหงายิ่งนัก

ระวัง สิ้นสุดทางเลื่อน End of the walk wayyyyy

 

เข้าเล้าจน์บางกอก วันนี้เจอกับป้ากุ้ยหลิน HS-PGU แล้วก้ซัดโบ๊บอาหารการกินก่อนขึ้นเครื่อง

 

ขึ้นเครื่องที่ Bus Gate B7 ชอบบบบ ครับ

 

อาหารการกินจัดเต็มเช่นเคย ไม่ผิดหวังกับบางกอกเลยยยยย

 

ถึงนครเชียงใหม่เรียบร้อย โดยสวัสดิภาพ

 

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ

[arq]

เป็น Strategy (กลยุทธ์ หรือกลอะไร?) ที่จะ maximize revenue ของ CP-7-11 เค้าครับ สมมุติว่าตรงนั้นหมอยุ่งไปซื้อ Franchise มาทำก่อน 1 เจ้า แล้วทำเลดี ทำมาค้าขึ้น หรือประสบความสำเร็จทำท่าจะรวย ได้รายได้เกินกี่พันกี่หมื่นบาทต่อวันก็จำไม่ได้ เค้าก็จะบอกว่า ตรงนี้มี potential ที่จะเปิดสาขาที่ 2

 

Franchise ก็จะถูกขายไปให้กับเพื่อนบ้านของหมอยุ่งอีก 1 เจ้า (ซึ่งมักจะอนุมัติให้ Franchiseeเจ้าที่มีพื้นที่ใหญ่กว่า....) ถ้าดีมากๆอาจจะมีเจ้าที่ 3 อยู่ในละแวกเดียวกันก็ได้ครับ

 

เคยคิดจะเปิดเหมือนกันครับ พออ่านข้อกำหนดแล้ว.. สวัสดี ลาก่อน ทำให้ตายก็ไม่รวย เป็นลูกจ้างยังดูมีทางรวยมากกว่า

 

 

ออกมาข้างนอก ก็ต้องอึ้ง เมื่อเจอเซเว่นสองสาขาตั้งอยู่ติดๆ กัน !!

ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมเสม็ดจะต้องมีเซเว่น วางเป็นคู่ๆ คู่หน้าเกาะ กับคู่ทางไปหาดทรายขาว ซะงั้นนน

[arq]

ปล1. เศร้าลึกๆกับสภาพความเสียหายของเกาะครับ

ปล2. ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ป้ากุ้ยหลินเริ่มแอบโทรมนิดๆแล้วนะนี่

[freedomtofly @John]

โอ้ววววววววววว  จัดเต็มทีเดียวสำหรับรีวิวเกาะเสม็ด ชอบมากๆครับ เนื้อหาสาระเพียบ ขอบคุณหมอยุ่งนะครับที่กรุณาบิดมอไซด์เก็บภาพและเรื่องราวมาฝาก ผมอ่านและดูอย่างตั้งใจ ให้ข้อคิดอะไรเยอะทีเดียว