27 replies to this topic

[theSixthFloor89]

Advertisements

สวัสดีครับ ... สมาชิกใหม่ครับ พึ่งสมัครล็อคอินเมื่อกี้นี้ ....
เลยขอหยิบเอารูปและบทบรรยายมาฝากอีกครั้ง

เป็นทริปที่ผมไปเที่ยวจีนมาเมื่อปลายปีที่แล้วครับ จุดหมายสำคัญคือการมาตามล่าใบไม้เปลี่ยนสีที่จิ่วจ้ายโกวนี่แหละครับ
ก็ได้เห็นภาพผ่านหน้าจอคอมมานานแสนนาน ... ชั่งใจว่าจะไปล่าใบไม้แดงที่ญี่ปุ่นหรือจีนดี ครั้นจะเอาทั้งสองทริปติดกันเลย
ก็เกรงจะบาดเจ็บจากโรคทรัพย์จาง

สุดท้ายเลยมายืนงงๆ อยู่หน้าปากทางเข้าอุทยานจิ่วจ้ายโกว พร้อม โลนลี่แพลเน็ตหนึ่งเล่ม
กล้องสองตัวเลนส์เต็มประเป๋า และเงินหยวนอีกฟ่อนนึง ...   


นี่แหละครับ ที่มาของทริปนี้ ... จริงๆแล้วรูปและเรื่องที่อยากเล่ามีเยอะมากๆ 

วันนี้ขอหยิบมาเบาๆ เป็นกระทู้ออเดิร์ฟ หลายคนที่ตามงานผมบ่อยๆ ในเว็บอื่นหรือในเฟซ คงจะชินกับกระทู้ออเดิร์ฟ ซึ่งแท้้ที่จริง ขี้เกียจ 555+

ก็ร่ายสด เช่นเคย มีรูปทั้งหมด 20 ใบ คัดสรรดีมากตามเวลาจะเอื้ออำนวยครับ ... รูปมันเยอะจนตาลาย
ทริปนี้ได้ลองเลนส์ลองกล้องใหม่อย่างเต็มๆ ด้วย ก็รับชมกันไปเรื่อยๆนะครับ จะค่อยๆสอดแทรกเนื้อหาเท่าที่จำได้  

เอ้า ออกเดินทาง ....

*************************

ติดตามงานภาพและบทความผมได้ตามช่องทางที่คุณถนัดเลยครับ

http://www.facebook.com/thesixthfloorstudio
http://www.facebook.com/thesixthfloorgallery
http://instagram.com/thesixthfloor

[theSixthFloor89]

ผมไปจีนมาล่าสุดก็เมื่อสี่ปีก่อนครับ ตอนนั้นไปเที่ยวที่กุ้ยหลินมา ประทับใจกับธรรมชาติแบบอลังการมาครั้งนึงแล้วครับ


รอบนี้ก็เลยได้เห็นอะไรในจีนเปลี่ยนไปเยอะพอสมควร อยากแรกเลยคือ การทำวีซ่าจีน ตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนเท่าไหร่นักครับ
เริ่มเข้มงวดขึ้นมากว่าเมื่อก่อน ต้องมีหลักฐานการเดินทางครบจริงๆ ทั้งไฟล์ทเดินทางทั้งที่พัก หลักฐานการเงินที่ชัดเจนมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราไม่มีหนังสือรับรองการทำงานเป็นทางการเห็นว่าต้องมีเงินในแบ็งอย่างน้อยห้าหมื่น อะไรแบบนั้น ...  

แต่ถ้าเทียบกับประเทศอื่น ก็ยังไม่ถือว่าโหดอะไรมากครับ ... ผ่านจากวีซ่า  ก็จะถึงเรื่องวุ่นวายสำหรับการไปเองแบบไม่ง้อทัวร์
นั่นคือการจองที่พักและไฟล์ทบินในประเทศ ซึ่งเดี่ยวผมจะมาแนะนำต่อในรีวิวฉบับเต็มละกันครับ มีรายละเอียดเยอะพอควร

วันนี้เอาแบบยั่วน้ำลายด้วยรูป จะได้วางแผนกันเตรียมไปปลายปีนี้ครับ


สำหรับการเดินทางในครั้งนี้นอกเหนือจากเสื้อผ้าที่ต้องจัดเตรียมให้เหมาะสมกับสภาพอากาศแล้ว
(เดือน พ.ย.- ธ.ค. นี้จีนตอนบนอากาศหนาวครับ) 
การเอาตัวรอดในต่างแดนสำหรับแบกเป้เที่ยวเองก็จำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวในด้านอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน 


สำหรับผมถ้าเอากระเป๋าสะพายหลังของทริปนี้ออกมาเทก็จะเจอหลักๆ ดังนี้ครับ

ไกด์บุ้ค แม้เดี๋ยวนี้หลายคนจะชอบโหลดฉบับออนไลน์มาอ่านกัน แต่ไม่รู้เป็นไงผมชอบการถือหนังสือ การเปิดอ่านมากกว่าได้ฟิลลิ่งดี 

ส่วนแผนที่การเดินทางและมุมโปสการ์ดสำหรับดูจุดถ่ายภาพสวยๆ นั้นผมจะเซฟไฟล์ยัดลงไอแพดเพื่อสะดวกเปิดดู 
ซึ่งการถ่ายรูปนั้นก็จัดเต็มเมมโมรี่การ์ด เดี๋ยวนี้การ์ดนั้นราคาถูกกว่าเมื่อก่อนมาก ว่างๆ ซื้อตุนไว้เลยครับ 
ตอนนี้ในมือผมมี CF Card อยู่แปดใบรวมกันราวๆ หนึ่งร้อยกิ๊กะไบท์ สบายๆ สำหรับทริปหนึ่งอาทิตย์ จริงๆก็เอาโน้ตบุคไปด้วยน่ะครับเตรียมแบ็คอัพตลอดเวลา


สำหรับการไปจีนนั้นเราอาจจะต้องคำนวนเงินสดหยวนกับดอลล่าห์ที่พกไปให้ดีครับ ส่วนใหญ่ใช้เงินหยวนกันซะมาก
พกเยอะไปก็เสี่ยงหายพกน้อยอาจจะไม่พอ ค่าใช้จ่ายบางส่วนเราวางแผนใช้บัตรเครดิตจ่ายจะเหมาะสมกว่าครับ



ไฟล์ทที่ออกเดินทางไปจิ้วจ่ายโกวของผมเป็นไฟล์ทเช้าสุดครับ
ออกเดินทางกันตั้งแต่ราวๆ 7 โมงเช้า เรียกว่าเดินง่วงไปเช็คอิน ขึ้นเครื่องก็หลับสนิท

แต่วิวมันมาดราม่าเอาตอนใกล้ๆจะถึงนี่แหละครับ เส้นทางที่บินต้องผ่านหุบเขาสวยๆมากมาย
อันนี้ผมนั่งฝั่งซ้ายนะครับ ก็จะได้วิวแบบนี้เป็นฝั่งพระอาทิตย์ขึ้นครับ 

พอไปถงสนามบินก็มีคนมารับครับ ...  ซึ่งได้จองผ่านเอเจนท์มาตั้งแต่ตอนอยู่เมืองไทยแล้ว
เป็นรถเช่าวีออสพร้อมคนขับ ราคาถือว่าสูงน่ะเพราะเป็นช่วงที่คนแห่กันมาจิ้วจ่ายโกวเพราะใบไม้เปลี่ยนสีนี่แหละครับ

โดยโปรแกรมจะมารับเราที่สนามบินและพาไปเที่ยวอุทยานหวงหลงต่อเลย ก่อนจะพาเราไปส่งที่โรงแรมแถวปากทางเข้าอุทยานจิ้วจ่ายโกว
คร่าวๆแล้วก็ถึงที่พักนู้นแหละครับหัวค่ำได้  ....

ตอนแรกนึกว่าใกล้ๆกัน เอาเข้าจริงค่อนข้างไกลพอสมควรครับใช้เวลาจากหวงหลงไปจิ่วราวๆ 2 ชั่วโมงกว่าๆ รวมเวลาหวงหาที่พักไม่เจออีก 555+

[theSixthFloor89]

คนมาเที่ยวจิ้วจ่ายโกวร้อยละเก้าสิบห้า เว้นไว้สักห้าเปอร์เซนต์สำหรับคนที่ร่างกายไม่ไหว 
ก็จะจัดโปแรกรมมาเที่ยวหวงหลงไว้ในทริปด้วยครับ ...

แต่ไม่แน่ใจว่าเค้าจัดไว้วันแรกแบบผมเลยรึเปล่านะครับ

เพราะบางทัวร์จะเอาไว้วันหลังๆ เนื่องจากหวงหลงอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลค่อนข้างเยอะ ทำให้มีปัญหาเรื่องออกซิเจนน้อย
บางคนแพ้ความสูง แล้วเดินไม่ไหวพลอยต้องนั่งรอเพื่อนๆอยู่ตรงปากทางขึ้น ...



จริงๆ เท่าที่ไปมาเอง มันจะรู้สึกโหดตอนขาขึ้นตอนเช้าๆนี่แหละครับ
เพราะอากาศจะเย็นมากกตอนพระอาทิตย์ยังไม่ฝ่าเมฆออกมา

ผมไปถึงปากทางขึ้นอุทยานหวงหลงตอนราวๆ 8-9 โมง

โอ้โห... คุณเอ้ยยยย หิมะตกครับ แล้วคอสตูมอเสื้อผ้าที่เตรียมไปเนี่ย...ไม่ได้พร้อมจะเจอกับหิมะเลยแม้แต่นิด ใส่แล้วได้หล่อแต่ไม่ได้งาน

เดินไปสิบเก้าหยุดสักสองวิ เดินไปอกอดอกไป เดินช้าๆ ไม่ถ่ายรูปอะไรเลย ต้องบอกว่าทรมานมากๆ

ยังจำตัวเองตอนไปติดหิมะบน Kadung la Pass ที่เลห์เมื่อปีที่แล้วได้ ทรมานจนเกือบตาย รอบนี้เลยเดินแบบเซฟตัวเองมาก
ค่าเข้าขึ้น 200 หยวน บวกกับค่ากระเช้าขาขึ้น 80 หยวน ..


กระเช้าไปปล่อยเราที่จุดแรก นึกว่าถึงเลย แต่ไม่ใช่อย่างนั้น ต้องเดินต่อไปอีกเป็นกิโลครับ

[theSixthFloor89]

จริงๆต้องชมเชยเรื่องการจัดการในอุทยานของจีนมากๆครับ ทางเดินทำอย่างดี ... ออกแบบให้เดินชมนกชมไม้ได้เรื่อยๆ

อย่างว่าพื้นที่ของจีนมันเยอะ ผู้คนเลยสนุกและชินกับการเดินเป็นกิโลๆๆๆๆ ...
ส่วนคนไทยอย่างผมก็เลยต้องทำใจให้สนุกแบบเค้าบ้าง

ถ้าสามารถกัดฟันเดินผ่านชั่วโมงแรกไปได้ก็จะโอเคครับ เพราะสัก 10 โมง
แสงอาทิตย์จะออกมาเพิ่มความอบอุ่นมากขึ้น ใครจะเตรียมออกซิเจนกระป๋องไปก็ได้ครับ 

อ้อ...อีกอย่าง จำได้ว่าคนขับรถเช่าเนี่ย พาผมไปแวะจอดร้านขายยาก่อนทางขึ้นหวงหลงครับ เพื่อจะให้ซื้อยาต้านความสูง
ซึ่งราคาแพงมากกกก เกือบพันบาทแถมเป็นแบบสมุนไพรจีน ไม่ใช่ยาปฏิชีวนะด้วย ส่วนตัวคิดว่าไม่ช่วยครับ 


ถ้าจะกินควรจะกิน diamox ก่อนล่วงหน้าหนึ่งวัน จากเมืองไทยไปก่อนดีกว่าครับ
เรื่องความสูงนี้แล้วแต่ตัวบุคคลจริงๆนะครับ บางคนแข็งแรงก็ไม่เป็นอะไรเลย

[theSixthFloor89]

ผมเขียนไปเหมือนขู่ 555+ แต่เชื่อว่ารูปที่เอามาลง จะทำให้ใครหลายคนอยากไปแน่ๆ
ถ้าถามผม ผมก็จะบอกว่า มีโอกาสก็ไปเถอะครับ มันไม่ยากอะไรขนาดนั้นเตรียมร่างกายดีๆก็ไปได้
แต่อย่างนึงที่ต้องให้เตรียมใจได้เลยคือเที่ยวจิ่วจ้ายโกวพ่วงหวงหลงนี่ คุณจะได้เดินเท้าร่วมๆ 10 กิโล หรือมากกว่านั้นเมื่อจบทริป



อุทยานหวงหลง หรือที่เขาเรียกกันว่า หุบเขามังกรเหลือง มีอะไรถึงต้องมา ? 
ที่นี่เป็นอุทยานที่อยู่ใกล้ๆกับจิ่วจ้ายโกว เวลาใครมาเที่ยวจิ่วจ้ายโกวก็มักจะไม่พลาดมาเที่ยวหวงหลงด้วย

หวงหลงเป็นมรดกโลกที่สวยงามด้วยภูมิประเทศภูเขาสูงยอดปกคลุมด้วยหิมะ เกิดจากการที่แผ่นดินเลื่อนตัวเองเข้ามาติดกัน
ส่งผลให้หวงหลงกลายเป็นช่วงแนวเขาสุดท้ายเขตที่ราบลุ่มของจีน ทำให้เกิดทัศนียภาพที่น่าตื่นใจของหุบเหวลึกนับพันเมตร 
ยอดเขาสูงชันที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี มีโตรกธารน้ำแข็งนับร้อยพันสายที่เลาะเลี้ยวไปตามหุบเขาทุกหนแห่ง 
อันเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญ 3 สายของจีน ได้แก่ ลำน้ำฝูเจียง หมินเจียง และเจียหลิง (ก่อนบรรจบกันเป็นแม่น้ำแยงซีเกียง) 

แนวหินสีเหลืองที่เกิดจากการจับตัวของแคลเซี่ยมแผ่คลุมอยู่โดยทั่วไปบริเวณสันเขา
ผ่านการสะสมตัว ผ่านการกัดเซาะจากดินฟ้าอากาศมานับพันนับหมื่นปี เป็นสระน้ำหลากสีสันที่ลดหลั่นเรียงตัวกันลงมาเป็นชั้นๆ 
ผู้คนที่มาเห็นจึงเห็นราวกับเป็นมังกรทองเหลื่อมสลับลายที่ลดเลี้ยวอยู่ท่ามกลางแมกไม้สีเขียว 

ความมหัศจรรย์ของสภาพทางภูมิทัศน์ที่โดดเด่นของสระน้ำใสสะอาดน้อยใหญ่ที่แวดล้อมด้วยขุนเขาหิมะและลำธาร
ด้วยผลงานรังสรรค์อันสุดแสนมหัศจรรย์จากธรรมชาติ จนทำให้เกิด"มังกรเหลือง" ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของอุทยานแห่งนี้

[theSixthFloor89]

โดยปกติถ้าเดินแบบ... ต่อนยอน ต๊ะต่อนย้อน ไปเรื่อยๆ จะใช้เวลาอยู่ที่หวงหลวงราวๆ 4 - 6 ชั่วโมงแล้วแต่คนครับ

เพราะขาลงเนี่ยจะต้องเดินลงวนเป็นวงกลม ... เดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที ในใจผมคิดเช่นนั้น 555+
ก็ต้องเดินแบบ ต๊ะต่อนยอน นี่แหละครับ แวะชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ จะไม่เหนือยมาก 
บ่ายแก่ๆ ก็ลงมาถึงปากทาง แล้วมองหารถที่รอเราแล้วออกเดินทางเข้าสู่งเมืองจิ่วจ้ายโกวต่อ

[theSixthFloor89]

จริงๆแทบจะไม่ต้องบรรยายสรรพคุณของสุดยอดอุทยานระดับโลกอย่างจิ่วจ้ายโกวแล้วมั้งครับว่าควรค่ากับการไปเที่ยวหรือไม่ 
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้กลัลบมาคือ จริงๆแล้วจิ่วจ้ายโกว สวยทุกฤดูครับ ทัวร์ไทยมักจะไปยึดว่าช่วงใบไม้เปลี่ยนสี 
แต่ผมได้เห็นภาพที่อุทยานแสดงเอาไว้ต้องบอกว่าฤดูอื่นก็งามมากๆครับ ยิ่งฤดูหนาว มีหิมะเยอะๆ ทะเลสาบเป็นน้ำแข็งที่สุดยอดงามครับ
แต่ไม่ค่อยจะได้เห็นรูปเท่าไหร่เพราะคนแห่กันมาช่วงเดือน พ.ย. นี้แหละครับ .. จะว่าไปผมก็เป็นหนึ่งในนั้นนะ 555+

ดังนั้นถ้าให้ฟันธง ...มาครั้งแรกก็มาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีละกัน ฟินๆ แบบรสชาติตลาดถูกปากขายดีไปก่อน ..
หลังจากนั้นมาซ้ำอีกครั้งค่อยอินดี้มาฤดูอื่น ...



รอบนี้สำหรับยังถือว่าไม่ค่อยจะฟินเท่าไหร่น่ะครับ ปีนี้อากาศแปรปรวนมาก จนพลอยให้ใบไม้เปลี่ยนสีช้ากว่าที่ควรจะเป็นครับ
แถมด้วยมีฝนตกหนักเป็นช่วงๆ ทำเอาใบไม้ที่รอเปลี่ยนสีร่วงโรยหมด ... ได้แต่ทำใจรับสภาพไปครับ ยังดีที่พอมีแดดในบางเ้วลาใ้ห้สีสันมันออกมา

[theSixthFloor89]

ทริปนี้เป็นทริปแบ็กแพ็กไปกับรุ่นพี่กันสองคนครับ ... คือต่างคนก็ต่างยุ่งด้วยกันจนแทบไม่มีเวลาหาข้อมูลแบบเน้นๆ
มีโลนลี่แพลเน็ตเล่มเดียวกับกล้อง และเงินตราที่พาเรามาถึงที่นี่ได้ ... แม้จะโล่งใจในส่วนของรถเช่าที่ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น
แต่อย่างอื่นนนั้ต้องบอกว่าเหวอไปหลายช็อตครับ เอาตั้งแต่ทางเข้า ค่าตั๋ว รวมกับค่ารถบัสบริการรอบอุทยานตกแล้วคนละ 320Y 

ไม่ง่ายตั้งแต่การซื้อตั๋วแล้วครับ ... เพราะหนังสือท่องเที่วเอย ไกด์บุคเอย ในโลกไซเบอร์เอย ...
ต่างบอกกันเป็นเสียงเดียว ...ว่าให้ไปต่อแถวกันตั้งแต่เช้าตรู่ ...

ผู้คนก็เลยแห่กันมาแย่งชิงตั๋วแต่เช้า 5555+ จริงๆแล้วควรจะบอกให้มาสายๆ น่าจะดีกว่านะครับ 5555+


ไปเอง ....ไม่ได้ไปกับทัวร์ต้องสวมวิญญาณแม่บ้านที่กระโจนเข้าแย่งชิงชุดชั้นในลดราคานะครับ ผมบอกไว้ก่อน
เพราะที่1 .....ถ้าช้าและไม่กล้าแหวกแถวไปซื้อ คุณจะไม่ได้ตั๋วสักที

เพราะที่2 ..... ยิ่งได้ตั๋วช้า ก็จะทำให้ไปถึงด้านในสุดของอุทยานสายไปยิ่งขึ้น
หลังจากได้ตั๋วต้องไปต่อคิวขึ้นรถบัส และใช้เวลาวิ่งเข้าไปในอุทยานอีกครึ่งชั่วโมง ตามจุดหมายที่อยากจะลงครับ

[theSixthFloor89]

เราควรจะเข้าไปเที่วในอุทยานจิ่ว ตั้งแต่สองวันเป็นต้นไปครับ ใครมีเวลาวันหยุดเยอะ เข้ามันไปสัก 3- 4 วันเลย
เสียค่าเข้าวันละพันห้าก็ถือวว่าคุ้มสุดๆ ที่จะไปเสพธรรมชาติแบบเหนือจริงเช่นนี้ ....
จริงๆไม่ใช่อะไรหรอกครับเพราะว่าพื้นที่ของอุทยานมันใหญ่มากกกกกกกกกกกกก ... เหมือนจะเป็นอำเภอหนึ่งเลย
ใหญ่แต่การจัดการในอุทยานทำได้ดีกว่าที่คิด ทำให้เราสามารถเดินไปตามเส้นทางธรรมชาติที่เค้าวางไว้ให้ได้อย่างเป็นระบบ



อุทยานจะแบ่งเส้นทางเที่วเป้นสองฝั่งครับ ถ้าดูแผนที่จะเป้นแยกขวากับแยกซ้าย 

ถ้าคนพึ่งไปครั้งแรกจะงงๆ กับการจอดตามสถานีของรถบัสด้วยครับ ... เค้าจะจอดไม่ทุกจุดสลับกัน
ผมไปสองวันติดมันจอดไม่เหมือนกันด้วย อ่านภาษาจีนก็ไม่ออก รอบแรกที่รถวิ่งเลยต้องสังเกตสีป้ายหน้ารถบัสเอาด้วยครับ
รถรอบแรกๆจะวิ่งไปจอดด้านในสุดของอุทยาน จากนั้นก็จะค้อยๆไล่ตามจุดสวยๆลงมา พวกน้ำตก panda lake, 5 color lake ลงมา

[theSixthFloor89]

จิ่วจ้ายโกวมีมุมแบบสวยเป๊ะๆ ร่ำรวยสีสันอยู่หลายมุม

หนึ่งในนั้นที่จะทำให้เมมโมรี่การ์ดของคุณถูกใช้อย่างบ้าคลั่ง
เห็นจะเป็นที่ทะเลสาบห้าสี ในรูปด้านล่างนี่แหละครับ ... หันไปทางไหนก็สวย
หันไปทางไหนก็ได้ยินแต่เสียงชัตเตอร์กล้อง แชะๆๆ

ถ้ามีระเบิดลงกลางทะเลสาบห้าสี ผมว่ากล้องระดับท็อบๆของโลกทั้งแคนอนและนิคอนต้องมลายหายไปหลายร้อยตัวแน่ๆ



รูปเซ็ทนี้ถ่ายด้วย 1DX,5D3 เลนส์ 8-15, 24, 85, 135, 24-70,70-200 ครับ

ก็ส่งท้ายกันเด้วยรูปมุมมหาชนของ Five Colour Lake นี้ละกันครับ
เดี่ยวจะมีรีวิวแบบละเอียดๆ และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอีกครั้งแบบเต็มๆ 


ขอบคุณที่แวะมารับชมแวะมาทักทายครับ 
พบกันใหม่เร็วๆนี้ครับ

[The traveler]

สวยงามมากๆ เลยค่ะ

ทุกภาพตื่นตาตื่นใจมากๆ เลย

รอชมจิวจ้ายโกว ฉบับต่อๆไปนะคะ

ขอบคุณที่นำสิ่งดีๆ มาแบ่งปันค่ะ 

[TripleSeven]

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆงามๆครับ
ทั้งกล้อง เลนส์ ขาตั้ง และอุปกรณ์ต่างๆ น่าจะประมาณเกือบ 2 ข้าวถุง

[theSixthFloor89]

 

 

สวยงามมากๆ เลยค่ะ

ทุกภาพตื่นตาตื่นใจมากๆ เลย

รอชมจิวจ้ายโกว ฉบับต่อๆไปนะคะ

ขอบคุณที่นำสิ่งดีๆ มาแบ่งปันค่ะ 

ขอบคุณที่แวะมาชมเช่นกันครับ ...

 

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆงามๆครับ
ทั้งกล้อง เลนส์ ขาตั้ง และอุปกรณ์ต่างๆ น่าจะประมาณเกือบ 2 ข้าวถุง

ฮ่าๆ ไม่ถึงขนาดนั้นครับ ไปกับเพื่อนอีกคน ก็ถือกล้องคนละตัวครับ .. แบ่งๆกัน น้ำหนักพอไหวครับ

[Ped.TD]

ขอบคุณสำหรับ review ครับ

รูปสวยมากๆครับ

[theSixthFloor89]

ขอบคุณสำหรับ review ครับ

รูปสวยมากๆครับ

ขอบคุณที่แวะมาชมเช่นกันครับ

[sasukeooo]

ภาพสวยๆๆทั้งนั่นขอบคุณครับ

[theSixthFloor89]

ภาพสวยๆๆทั้งนั่นขอบคุณครับ

ขอบคุณที่แวะมาชมเช่นกันครับ

[torashi83]

ภาพสวยมาก ขอบคุณครับ
เห็นแล้วก็อยากไป แต่พอนึกภาพว่าต้องไปยื้อแย่งกับจีนแผ่นดินใหญ่นี่ เอ่อ

[kenvlove]

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ นะครับ..

[theSixthFloor89]

ภาพสวยมาก ขอบคุณครับ
เห็นแล้วก็อยากไป แต่พอนึกภาพว่าต้องไปยื้อแย่งกับจีนแผ่นดินใหญ่นี่ เอ่อ

ฮ่าๆ ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ จริงๆก็สนุกดีน่ะครับ เป็นรสชาติชีวิตดี

 

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ นะครับ..

ขอบคุณที่แวะมาชมเช่นกันครับ