34 replies to this topic

[jk..lsky]

Advertisements

สวัสดีครับ

หลังจากทำรีวิวขาไป จากกรุงเทพฯสู่เกาะสมุย ในเส้นทางประหลาดที่ใช้เวลาในเดินทางด้วยเครื่องบินถึง 11 ชั่วโมงมาแล้ว (บินล้วน ๆ นะ ไม่ต่อรถ ไม่ต่อเรือ) ในรีวิวนี้

Review : บิน 11 ชั่วโมง จากกรุงเทพฯ ไป สมุย บินไปสู่ปลายทางด้วยเส้นทางที่ไม่ธรรมดา http://www.hflight.n...ic/13104-review

 

ตอนนี้มาชมรีวิวขากลับกันดีกว่า

 

ขาไปบิน 11 ชั่วโมง ขากลับขอบินตรง ๆ จากสมุยสู่กรุงเทพฯ แบบปรกติ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงก็พอ

 

แต่ว่ารีวิวนี้ก่อนจะบินกลับกรุงเทพฯ เราจะขอพาไปชมสนามบินสมุยกันแบบเล็กน้อย ซึ่งนับว่าเป็นสนามบินที่สวยงาม บรรยากาศดี และก็ได้รับรางวัลมากมาย แล้วก็จะเพิ่มระดับความหรูหรา จากเลาจน์ธรรมดา ก็พาไปชม Blue Ribbon Lounge หรือห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจของ Bangkok Airways ที่สนามบินสมุยกันครับ

 

เริ่มต้นมาที่สนามบินสมุยกันเลย เครื่องออกทุ่มกว่า มาเช็คอินตั้งแต่ยังไม่สี่โมง

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

ตอนนี้โถงเช็คอินของอาคารผู้โดยสารขาออกของสนามบินสมุยเขาปิดปรับปรุงไปครึ่งหนึ่ง (ไม่รู้ตอนนี้เปิดหรือยังนะ บินมาเดือนกว่าแล้ว)

 

คนมารอเช็คอินเลยเยอะพอสมควร บรรยากาศอาคารของสนามบินสมุยก็ต้อนรับเราตั้งแต่ตอนเช็คอินเลย

 

เช็คอินแล้วก็ตามป้ายไปที่เกทนะครับซึ่งจะอยู่ไกลพอสมควรเพราะว่าต้องผ่านโซนร้านค้า หรือที่เรียกว่า Samui Airport Park Avenue ไปก่อน

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

แต่ถ้าใครไม่อยากเดินเขาก็จะมีรถกอล์ฟไว้คอยรับส่ง วิ่งปรู๊ด ๆ ผ่านโซนร้านค้าไปยังทางเข้าไปยังบรรดาเกทต่าง ๆ

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

หลังจากนั่งรถผ่าน Samui Park Avenue ก็มาถึงทางเข้าไปยังส่วนผู้โดยสารขาออก ก็จะมีการตรวจสัมภาระตรงนี้ ผู้โดยสารในประเทศไปทางนี้เลยนะครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

เข้ามาก็จะมีบรรยากาศร่มรื่นเหมือนเป็นสนามบินในสวน แต่ก็มีหลังคาตามทางเดินนะครับเพราะว่าเวลาฝนตกแดดออกผู้โดยสารจะได้เดินได้อย่างสะดวก ซึ่งสำหรับผู้โดยสารแล้วในบริเวณของสนามบินสมุยนี่ก็จะเปรียบเหมือนเลาจน์ หรือห้องรับรอง Boutique Lounge ที่ปรกติแล้วสายการบินบางกอกแอร์เวย์สจะมีให้บริการตามสนามบินต่าง ๆ เพราะจะมีทั้งมุมอาหารเครื่องดื่ม จุดให้บริการอินเตอร์เน็ต แต่ว่าจะต่างจากสนามบินทั่วไปตรงที่ไม่ติดแอร์ครับ ทำให้บางครั้งเวลาที่อากาศร้อนอาจจะรู้สึกอบอ้าวไปหน่อย

 

แต่ว่า.... เราจะไปใช้ห้องรับรองที่ยกระดับขึ้นมาอีกหน่อย ซึ่งก็คือ Blue Ribbon Lounge หรือห้องรับรองของชั้นธุรกิจ และผู้ถือบัตร Flyer Bonus ระดับ Premiere

 

แม้ว่าวันนี้เราจะไม่ได้บินชั้นธุรกิจและก็ไม่ได้เป็นสมาชิกระดับพรีเมียร์ แต่ก็สามารถเข้าเลาจน์ได้ด้วยสิทธิของ AIS Serenade นะครับ พาผู้ติดตามเข้าได้อีก 1 คนด้วย ใช้ได้เดือนละ 1 ครั้ง

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

เงื่อนไขวิธีการก็ตามนี้่นะครับ

 

เข้ามาถึงในเลาจน์ก็เจอพี่หมีรอทักทายเลย

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

ข้อดีของเลาจน์ Blue Ribbon ที่สมุยก็คือ

 

ติดแอร์ ครับ

 

ทำให้ในวันที่อากาศร้อนแบบนี้ และต้องรอเครื่องหลายชั่วโมงนั้น การได้มาอยู่ใน Blue Ribbon Lounge นั้นดีนักแล

Attached Thumbnails

• 

[jk..lsky]

พอนั่งปุ๊บ พนักงานก็จะเอาเมนูมาให้และก็ถามว่าจะรับน้ำอะไรครับ

 

ถ้ารับน้ำมะพร้าว(ตามแบบฉบับเกาะสมุย) ก็จะมาเป็นลูกแบบนี้เลย

 

บรรยากาศมุมต่าง ๆ ในเลาจน์ อันนี้มุมโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

เลาจน์นี้คนโล่งมาก เหมาะสำหรับการนอนสบาย ๆ ระหว่างรอเครื่อง 3 ชั่วโมง นี่คือเมนูสำหรับเลาจน์บลูริบบอน

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

อาหารนอกจากจะมีอาหารร้อนในเมนูแล้วก็จะมีที่บาร์ด้วยนะครับ

 

เป็นพวกคานาเป้ แซนด์วิช ผลไม้ ฟรุตสลัด เบเกอรี่ ขนมจีบ ซาลาเปา ฮะเก๋า ป๊อปคอร์น

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

เค้กต่าง ๆ ข้าวต้มมัด ลูกชุบ กาละแม

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

ส่วนอาหารร้อนนั้นก็ ..... ขอรับมาให้เหมาะสมกับเวลา 3 ชั่่วโมงที่รอ

 

(ไปสองคนนะ ถ้ากินคนเดียวหมดนี่คงแย่)

 

ส่วนนี่ก็เป็นอีกมุมของเลาจน์

 

จำได้ว่าเคยมาเมื่อหลายปีก่อนเลาจน์บลูที่สมุยไม่กว้างเท่าไร ตอนนี้เห็นร่องรอยการต่อเติมทำให้เลาจน์ดูกว้างสะดวกสบายทีเดียว

Attached Thumbnails

• 
• 

[Natajid]

ไปทีไรรีบตลอดเข้าไปยังไม่ทันได้สั่งอะไรเลยครับ เรียกบอร์ดดิ้งแล้ว

[jk..lsky]

แต่ในเลาจน์ไม่มีห้องน้ำ ต้องเดินออกไปเข้าห้องน้ำข้างนอกนะครับ

 

นอกจากเลาจน์บลูริบบอนแล้ว หากผู้โดยสารทั่วไปต้องการความเย็นก็ขอเชิญมาที่ห้องน้ำครับ เพราะห้องน้ำที่นี่ติดแอร์ (แต่ที่เกทไม่ติดแอร์) และก็ยังตกแต่งสวยงามมีตู้ปลาแบบนี้

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

หลังจากนั่งกลิ้งในเลาจน์บลูริบบอนอยู่นานก็ขอพามาชมด้านนอกที่บริเวณทางออกขึ้นเครื่องในส่วนของผู้โดยสารขาออกทั่วไป อาคารเขาก็หน้าตาเป็นเอกลักษณ์แบบนี้แหละครับ เขาบอกว่าออกแบบมาจากรูปทรงของต้นไม้ชนิดหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของสมุยคือมะพร้าวนั่นเอง

 

ในบริเวณส่วนของผู้โดยสารขาออก ก็มีร้านค้า ร้านของที่ระลึก ร้านอาหาร เครื่องดื่มด้วยนะครับ ผู้โดยสารสามารถเลือกใช้บริการได้

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

มองไปทางรันเวย์ครับ เวลาจะไปขึ้นเครื่องเขาก็จะพานั่งรถรางไปแบบนี้

Attached Thumbnails

• 

[jk..lsky]

และนี่ก็คือมุม Courtesy Corner หรือมุมบริการอาหาร เครื่องดื่มและอาหารสำหรับผู้โดยสารนะครับ อาหารก็จะมีพวกขนมต่าง ๆ(แต่ถ้าใครอยากจะกินดื่มอย่างอื่นก็ไปใช้บริการที่บาร์หรือร้านอาหารซึ่งอยู่ในส่วนของผู้โดยสารขาออกได้นะครับ) 

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

และแล้วก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง วันนี้บิน PG178 กลับกรุงเทพฯ ครับ รถรางก็พามาส่งที่ลานจอดเครื่องบิน เห็น ATR72 ที่จะพาเรากลับไปกรุงเทพฯในวันนี้

Attached Thumbnails

• 
• 

[jk..lsky]

วันนี้เป็นคุณ Apsara นี่เองที่จะพาเรากลับกรุงเทพฯ ขึ้นมานั่งประจำที่ 16A ลูกเรือก็เดินแจกกระดาษเย็น

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[jk..lsky]

และแล้วก็พร้อมออกเดินทาง มีการหรี่ไฟในห้องโดยสารและก็เทคออฟออกไปพร้อมแสงไฟของเกาะสมุย

Attached Thumbnails

• 
•