40 replies to this topic

[Amakung]

Advertisements

^

^

ใจจริงผมอยากให้บิน BKK-KIX-LAX ในเวลาที่คล้ายกับ TG 692/693 เดิมมากกว่านะครับ ถ้าทำได้อยากให้บิน 692/693 ทุกวันเลยด้วยซ้ำ แต่เข้าใจว่าทางเกาหลีไม่ให้ ผมว่าถ้าปรับเป็นออกเวลาใกล้กันน่าจะช่วยลดความสับสนของผู้โดยสารได้ และเวลายังใกล้เคียงกับ TG 626/627 เดิมด้วย 

 

 

อยากเห็น BKK-???-JFK (transatlantic ก็ได้ ต่อจาก OSL ก็ดี มี pax จนต้องเปลี่ยนเป็นเครื่องใหญ่แล้ว)

อยากเห็น BKK-???-SFO

อยากเห็นการเลิกจอดแช่ที่สนามบินปลายทางเป็นเวลานานๆ บินไปถึงแล้ว turnaround กลับ ภายใน 2-3 ชม. นำเครื่องมาวนใช้ใหม่ แบบ BA ที่จะบินมาบ้านเรา

 

ที่ต้องจอดนานก็เพราะรอเวลาที่เหมาะสมครับ ไม่งั้นไฟลท์ยุโรปก็กลับมาถึงตอนตีสองตีสาม แล้วแบบนั้นใครจะบิน

ที่จริงไฟลท์กลางวันไปยุโรป TG 916/917, 922/923, 924/925  ก็เทิร์นภายในไม่เกิน 3 ชั่วโมงครับ

 

อีกอย่าง pax เที่ยวบิน OSL-BKK และ OSL-JFK เป็นคนละกลุ่มนะครับ มากรุงเทพคนเยอะ ใช้เครื่องใหญ่ได้ไม่ได้หมายความว่าไฟลท์บินต่อไป JFK จะคนเยอะตามไปด้วย

 

BKK-PVG-JFKเมื่อไหร่จะกลับมา

เคยมีด้วยเหรอครับ???

[Bob]

จุดบินต่อไปในEuropeของการบินไทยน่าจะเป็น Manchester , Amsterdam , Barcelona (แวะRome) นะครับ
ทำไมTGถึงไม่มีไปSFOบ้างอ่ะครับ ?

[SiameseGuyz]

ถ้า HKT-KUL ขายไม่ออก ลองเสียบ HKT-UBP ดูมั้ยครับ อิอิ

[newuno]

แล้ว HKT-KUL ขายไม่ออกจริงหรือ หรือว่ากลับมาขายดีมากขึ้น ถ้าขายไม่ดีจริงจะยอมเพิ่มเที่ยวบินหรอ?

[GudekCNX]

ผมว่าน่าจะเพิ่มJFKกลับมาเหมือนเดิมนะครับ เปลี่ยนชนิดเครื่องใหม่ให้กินน้ำมันน้อยกว่าa340 แล้วหาเมืองแวะดีๆ น่าจะโกย ผู้โดยสาร ได้อยู่

[TripleSeven]

ผมก็เห็นด้วยครับ ไม่เห็นจำเป็นต้องจอดนอนแช่กินค่าจอดไปเปล่าๆ เลย 15.50 น. ออกอีกที 1.00 น. ตั้ง 9 ชั่วโมงกว่าๆ

 

แต่ผมคิดว่า อาจจะเป็นเพราะ timing มันไม่ได้ก็เป็นได้ เพราะถ้าตีกลับภายใน 17.50 น.
บินมาถึงคันไซก็ประมาณ 23.30 น. (+1) ซึ่งมันก็ดึกไป ผู้โดยสารเข้าเมืองไม่สะดวก แล้วก็ออก 0.50 น.(+2) ถึง 5.20 น.(+2) ซึ่งเวลาอาจจะทับกับไฟล์ท TG673

 

ดังนั้น ป้าม่วงแกก็เลยยอมที่จะ กะเอาผู้โดยสารเก็บตกข้ามแปซิฟิครอบดึก ออก 1.00 น. ถึงคันไซเช้าพอดี 6.40 น. (+2) แล้วก็รับผู้โดยสารญี่ปุ่นต่อเข้ากรุงเทพถึงเที่ยงๆ พอดี

ยิงนกนัดเดียว ได้ทั้ง นกยุ่นและนกไทย เลย เพราะเวลาน่าจะดี เลยต้องยอมจอดรอถึง 9 ชั่วโมง

สหรัฐอเมริกา
■กรุงเทพ - คังไซ - ลอสแองเจลิส กลับมาบินอีกครั้งด้วย 777-300ER ในวันจันทร์ พุธ ศุกร์ แต่ออกจากกรุงเทพช่วงบ่ายและออกจาก LA ช่วงดึกแทน 
■TG694 BKK1420 - 2130KIX2245 - 1550LAX 77W 135
■TG695 LAX0100 - 0640KIX0810 - 1240BKK 77W 246 (ถึง KIX และ BKK ในวันถัดไป)

 

ครับ เป็นข้อคิดเห็นที่ดี ทีนี้เราลองมาขยับเวลา TG694 ดูเล่นๆกัน
ถ้าให้          TG694 ออกจาก BKK2220 - 0530KIX0645 - 2350LAX (เลื่อนเวลา +8 ชั่วโมง ไม่ขยับนาที เพื่อไม่ให้งง)
แล้วมาขยับ TG695 ออกจาก LAX0200 - 0740KIX0910 - 1340BKK (เลื่อนเวลา +1 ชั่วโมง ไม่ขยับนาที) (ถึง KIX และ BKK ในวันถัดไป)
เวลาสวยใช้ได้หรือไม่ครับ  เอาเครื่องมาบินไปกลับในประเทศได้สบายๆ (BKK-HKT-BKK ประมาณนั้น)

ไม่ต้องจอดรอ 9 ชั่วโมง

[Amakung]

^

^

ก็ยังเหมือนเดิมนะครับ คราวนี้คนที่จะขึ้น KIX-LAX ไม่สะดวก (รถไฟเที่ยวเช้าสุดถึง KIX 06.17)

 

และผมว่าทำตลาดยากสำหรับคนเดินทาง KIX-LAX เราคงไม่อยากต้องไปสนามบินแต่เช้ามืดด้วยรถ เหมือนอยู่บนเครื่อง 1 วันเต็ม พอไปถึงก็ได้เวลานอนอีกรอบ

ถ้าลองเป็น BKK0800 - 1510KIX1625 - 0930LAX

และ LAX1200 - 1740KIX1910 - 2330BKK ผมว่าแอบโอกว่านะครับ พอเครื่องถึง BKK ก็สามารถเทิร์นไปไฟลท์ยุโรปที่ออกหลังตีหนึ่งได้

[TripleSeven]

ที่ต้องจอดนานก็เพราะรอเวลาที่เหมาะสมครับ ไม่งั้นไฟลท์ยุโรปก็กลับมาถึงตอนตีสองตีสาม แล้วแบบนั้นใครจะบิน

ที่จริงไฟลท์กลางวันไปยุโรป TG 916/917, 922/923, 924/925  ก็เทิร์นภายในไม่เกิน 3 ชั่วโมงครับ

 

 

อีกอย่าง pax เที่ยวบิน OSL-BKK และ OSL-JFK เป็นคนละกลุ่มนะครับ มากรุงเทพคนเยอะ ใช้เครื่องใหญ่ได้ไม่ได้หมายความว่าไฟลท์บินต่อไป JFK จะคนเยอะตามไปด้วย

ที่ต้องจอดนานก็เพราะรอเวลาที่เหมาะสมครับ ไม่งั้นไฟลท์ยุโรปก็กลับมาถึงตอนตีสองตีสาม แล้วแบบนั้นใครจะบิน

 

ในความคิดเห็นของผม ถ้าไฟลท์ยุโรปกลับมาถึงตอนตีสองตีสาม กว่าจะผ่านด่าน รับกระเป๋าเสร็จก็ตีสี่ตีห้า น่าจะดีกว่ามาถึงตอนเช้าหกเจ็ดโมง กว่าจะออกมาได้แปดเก้าโมง รถก็ติดมหาโหดไปแล้ว

แต่ที่จริงไฟลท์ยุโรปไปถึงโน่นตอนเช้าตรู่ และมักจะกลับตอนเย็น ทีนี้ถ้าไม่ให้จอดแช่ กลับมาตอนสายๆ มันก็น่าจะกลับมาถึงช่วงเที่ยงคืนตีหนึ่ง รถไม่ติด อากาศไม่ทันร้อน

 

อีกอย่าง pax เที่ยวบิน OSL-BKK และ OSL-JFK เป็นคนละกลุ่มนะครับ มากรุงเทพคนเยอะ ใช้เครื่องใหญ่ได้ไม่ได้หมายความว่าไฟลท์บินต่อไป JFK จะคนเยอะตามไปด้วย

 

ถ้าชาว Scan ติดใจการให้บริการของป้า มากกว่าแอร์กี่ของเขา คงต้องยอมรับนะครับ อาหารก็ผิดกันด้วย ทีนี้ถ้าเขาแห่กันมาใช้บริการป้า เพราะเป็นนักท่องเที่ยวหลบหนาวมา ช่วงอื่นเขาก็ย่อมใช้บริการไปเยี่ยมญาติพี่น้องทางฝั่ง US ได้เหมือนกัน ประเด็นอยู่ที่ว่า ป้าจะถึงวัย 60แล้ว แต่ไม่เคยบิน Transatlantic เลย ถ้าจะฝันให้บิน LHR, FRA หรือ CDG ไป JFK ก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะมันแทรกเข้าไปไม่ได้แล้ว ดังนั้นถ้าไปต่อยอดทาง Scan เช่น OSL หรือ ARN ที่มีผู้โดยสารเกือบเต็มมาครึ่งขา ก็น่าจะมีทางรับทรัพย์ได้ดี

ที่สำคัญคือผู้บริหารป้ามาเพ้อว่าจะทำให้เป็นสายการบินที่ดีที่สุดติดอันดับหนึ่งในห้าของโลก บอกได้เลย ยากมาก ถ้าไม่บินไป JFK

[VICTORY]

แล้ว HKT-KUL ขายไม่ออกจริงหรือ หรือว่ากลับมาขายดีมากขึ้น ถ้าขายไม่ดีจริงจะยอมเพิ่มเที่ยวบินหรอ?

Load ไม่ดีมากมายครับ ราคาตั๋ว One way ก็ประมาณ 2000 บาทเท่านั้นเอง บางวันก้แคนเซิลด้วยเพราะไม่มีผู้โดยสาร

[PeterP.™]

รู้สึกยินดีที่การบินไทยตัดสินใจเอา A380 มาบิน LHR เพราะจำได้ว่าตามสั่งซื้อใหม่ๆกะจะเอามาบินเส้นทางนี้เลยด้วยซ้ำ เปลี่ยนจาก 747 ก็อาจทำให้ลูกค้าที่เคยบินการบินไทยแล้วเจอป้ารุ่นเก่าๆแล้วไม่ประทับใจเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อการบินไทยได้

 

ไหนๆก็ขนลำใหญ่ไป LHR แล้วก็อยากให้โปรโมตเส้นทาง Kangaroo Route ด้วยเพราะแทบไม่เคยเห็นทำโปรโมชั่น ราคาอยู่ที่ £1200+ rtn ตลอด (เท่าที่เคยเช็ค) ในขณะที่ SQ เห็นลดลงมาอยู่ที่ £900 กว่าๆ rtn ก็น่าคิดนะครับว่าคนส่วนใหญ่เค้าจะเลือกอะไรกัน

 

ตอนนี้ที่ LHR ก็จะมี A380 ของสายการบินตั้ง 6 สายมาลงได้แก่ SQ, EK, MH, BA (จะรับมอบเร็วๆนี้), TG และ QF งานนี้สนุกแน่ครับ

 

ขอภาวนาให้เส้นทาง VIE ขายดิบขายดี คงศึกษาดีมานด์มาพอแล้วถึงเปิดได้ แข่งกับเพื่อน Star Alliance - Austrian Air และยังมี EVA อีก

 

ส่วนในเรื่องของเส้นทาง LAX แวะ KIX นั้นก็ดีใจที่เห็นการบินไทยกลับมาบิน LAX ทุกวัน และอยากให้เปิดจุดบินในสหรัฐอเมริกาเพิ่มเติมด้วยซ้ำ แต่เข้าใจว่าถ้าเจรจากับประเทศที่จะขอแวะเพื่อบินไปต่อได้ง่ายก็คงเปิดบินไปนานแล้ว คงติดเรื่อง 5th freedom rights อะไรพวกนี้ การแวะทางยุโรปเพื่อบินต่อไป Transatlantic ฟังดูเป็นความคิดที่ดี ก็ต้องเจรจากับทางรัฐบาลประเทศนั้นๆ ไปอ่านเรื่อง 5th freedom rights ในวิกิพีเดียมาแล้วเจอประโยคนี้ เลยเอามาแชร์กันครับ

 

Governments (e.g. Thailand) may sometimes encourage fifth freedom traffic as a way of promoting tourism by increasing the number of seats available, although there may be reactionary pressure to avoid liberalizing traffic rights too much to protect a flag carrier.

http://en.wikipedia....r#Fifth_freedom

[TripleSeven]

^

^

ก็ยังเหมือนเดิมนะครับ คราวนี้คนที่จะขึ้น KIX-LAX ไม่สะดวก (รถไฟเที่ยวเช้าสุดถึง KIX 06.17)

 

และผมว่าทำตลาดยากสำหรับคนเดินทาง KIX-LAX เราคงไม่อยากต้องไปสนามบินแต่เช้ามืดด้วยรถ เหมือนอยู่บนเครื่อง 1 วันเต็ม พอไปถึงก็ได้เวลานอนอีกรอบ

ถ้าลองเป็น BKK0800 - 1510KIX1625 - 0930LAX

และ LAX1200 - 1740KIX1910 - 2330BKK ผมว่าแอบโอกว่านะครับ พอเครื่องถึง BKK ก็สามารถเทิร์นไปไฟลท์ยุโรปที่ออกหลังตีหนึ่งได้

เห็นด้วยครับ ไม่แช่ป้ายดีกว่าแน่นอน ทีนี้คุณหมอจะเห็นเป็นประการใด ป้าก็อดเก็บตก ผดส ช่วงเที่ยงคืนที่ LAX

 

ผมมีข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ OSL-JFK ถ้าอยากลองของ

นอร์เวย์มีประชากรในประเทศประมาณ 5 ล้านคน

มีประชากรในประเทศสหรัฐฯ (Norwegian Americans)  4.6 ล้านคน!!!

ส่วนใหญ่อยู่ที่ Minnesota ประมาณ 9 แสน

New York เกือบ 1 แสน

ญาติพี่น้องเยอะมากๆ  OSL-MSP ก็น่าสนใจ

 

ถ้าหัวแดงจะเปิดเที่ยวบิน JFK-OSL-BKK แล้วทำไมหางม่วงเราไม่สวนกลับไปบ้างละ
 

[likeaboss]

EWR/JFK จาก OSL เลยยังยาก เจ้าถิ่นเองยังบินไม่เกิน5วัน ถ้าบินจาก ARNจะน่าลุ้นกว่า  CPHก็ไม่ไหวไฟลท์ไปEWR/JFK เยอะไป

ใจจริงถ้าบินได้อยากให้บินไป SEA เพราะSASเคยบินเพราะ Scan Community ใน Seattle แต่ก็ต้องปิดไป  (มันน่าบินมั้ย 55) บินจากไหนARN/CPHก็ได้ OSLดีมานไม่น่าพอ

พิมพ์ไปงั้นทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ไหนจะต้องเอาเครื่องอย่างน้อยเครื่องนึงไปประจำที่ประเทศนั้นอีก ไม่งั้นก็ต้องเปลี่ยนเวลาไฟลทใหม่

[Hikouki]

ยินดีกับการบินไทยที่จะเปิดรูทใหม่ๆ

แต่กลุ้มใจแทนน้องสไมล์จังครับ Load น้อยวายวอดมาก

เตรียมตัวเข้าเนื้อตัวแม่....

ส่วน JFK อย่าบินเลยครับ บินก็คงเจ๊งอีก

คุยกะเพื่อนที่อยู่ SQ เขาก็ร่อแร่ครับ ตอนนี้ FRA - JFK เขาก็ผู้โดยสารน้อยมากทุกไฟล์ท จนต้องเปลี่ยนเครื่องจาก 380--->77W

รักษาเนื้อรักษาตัว ไม่ให้โดนด่า ดีกว่าครับ

[Ped.TD]

ขอบคุณครับ

[Dejudom 777-300ER]

ที่ต้องจอดนานก็เพราะรอเวลาที่เหมาะสมครับ ไม่งั้นไฟลท์ยุโรปก็กลับมาถึงตอนตีสองตีสาม แล้วแบบนั้นใครจะบิน

 

ในความคิดเห็นของผม ถ้าไฟลท์ยุโรปกลับมาถึงตอนตีสองตีสาม กว่าจะผ่านด่าน รับกระเป๋าเสร็จก็ตีสี่ตีห้า น่าจะดีกว่ามาถึงตอนเช้าหกเจ็ดโมง กว่าจะออกมาได้แปดเก้าโมง รถก็ติดมหาโหดไปแล้ว

แต่ที่จริงไฟลท์ยุโรปไปถึงโน่นตอนเช้าตรู่ และมักจะกลับตอนเย็น ทีนี้ถ้าไม่ให้จอดแช่ กลับมาตอนสายๆ มันก็น่าจะกลับมาถึงช่วงเที่ยงคืนตีหนึ่ง รถไม่ติด อากาศไม่ทันร้อน

 

คงไม่ได้ใช้เวลาขนาดนั้นมั้งครับ ผมบินมาจาก Madrid  ถึงตีห้าครึ่งได้ ใช้เวลา 6 โมงนิดๆก็ได้ขึ้นรถแล้วครับ

[Dejudom 777-300ER]

จุดบินต่อไปในEuropeของการบินไทยน่าจะเป็น Manchester , Amsterdam , Barcelona (แวะRome) นะครับ
ทำไมTGถึงไม่มีไปSFOบ้างอ่ะครับ ?

อยากให้บินไปเช่นกันครับ แวะแถวๆ ญี่ปุ่นเหมือนเดิม ทั้งนาริตะ คันไซ หรือ อินชอน ในเกาหลีก็ยังดีครับ

[Amakung]

ยินดีกับการบินไทยที่จะเปิดรูทใหม่ๆ

แต่กลุ้มใจแทนน้องสไมล์จังครับ Load น้อยวายวอดมาก

เตรียมตัวเข้าเนื้อตัวแม่....

ส่วน JFK อย่าบินเลยครับ บินก็คงเจ๊งอีก

คุยกะเพื่อนที่อยู่ SQ เขาก็ร่อแร่ครับ ตอนนี้ FRA - JFK เขาก็ผู้โดยสารน้อยมากทุกไฟล์ท จนต้องเปลี่ยนเครื่องจาก 380--->77W

รักษาเนื้อรักษาตัว ไม่ให้โดนด่า ดีกว่าครับ

เห็นด้วยกับพี่ Hikouki อย่างมากครับ 

 

ผมว่าเราพูดถึง VFR (visiting friends and relatives) อย่างเดียวไม่ได้หรอกครับเพราะ VFR ไม่ได้เดินทางกันทุกวันแถมยัง low yield มากๆ อีก ถ้าจะเปิดบินจากกรุงเทพไปจุด B แล้วต่อไป C ต้องมีผู้โดยสารระหว่าง B และ C มากพอที่จะไม่ต้องพึ่งผู้โดยสารที่เดินทางจากกรุงเทพไป C แล้วกว่า B <--> C จะ maturize ก็ต้องอาศัยการลงทุนโปรโมทและใช้เวลาอีกสักพัก เปิดช่วงแรกรับรองได้ว่าขาดทุน อนาคตจะได้กำไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ 

 

กรณีเส้นทาง FRA-JFK ขนาด SQ ยังทำกำไรได้ยากเลย แต่ในขณะที่ DME-IAH และ BCN-GRU ทำได้ดีพอสมควรเพราะ SQ เป็นสายการบินแรกที่บิน และยังเป็น city pair ที่มีความสัมพันธ์อยู่ในตัว (DME-IAH เป็นเมืองค้าน้ำมัน BCN-GRU เทียบเสมือน MAD-GRU แต่ดันไม่มีใครบิน) 

 

ในขณะนี้ เนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจในยุโรป ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถ stimulate demand ได้มากพอรองรับ capacity ที่แทบจะเพิ่มเป็นสองเท่าหากเราเปิดบินจาก ARN/OSL - JFK/EWR ผลคือต้องมาดัมพ์ราคาเพื่อชิงส่วนแบ่งจากคู่แข่ง (ซึ่งก็เป็นสมาชิกพันธมิตรดาวด้วยกันอีก) แล้วก็ lose-lose กันหมดครับ

 

และผมสงสัยอย่างหนึ่ง ทำไมการเป็น World's Top 5 Airlines ถึงต้องขึ้นกับการบินไป JFK ด้วยเหรอครับ

 

ป.ล. แต่ที่จริงผมยังมองว่าการบินไทยยังเปิดจุดบินในอเมริกาเหนือได้ แต่ต้องเป็นบินตรง ที่น่าจะพอไหวคือ BKK-YVR บินด้วย 788/789 หรือ A359 ระยะทางมากกว่า LAX-HKG ที่ CX บินประจำไม่มากครับ

[Rabbitongrass]

เห็นด้วยกับพี่ Hikouki อย่างมากครับ 

 

ผมว่าเราพูดถึง VFR (visiting friends and relatives) อย่างเดียวไม่ได้หรอกครับเพราะ VFR ไม่ได้เดินทางกันทุกวันแถมยัง low yield มากๆ อีก ถ้าจะเปิดบินจากกรุงเทพไปจุด B แล้วต่อไป C ต้องมีผู้โดยสารระหว่าง B และ C มากพอที่จะไม่ต้องพึ่งผู้โดยสารที่เดินทางจากกรุงเทพไป C แล้วกว่า B <--> C จะ maturize ก็ต้องอาศัยการลงทุนโปรโมทและใช้เวลาอีกสักพัก เปิดช่วงแรกรับรองได้ว่าขาดทุน อนาคตจะได้กำไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ 

 

กรณีเส้นทาง FRA-JFK ขนาด SQ ยังทำกำไรได้ยากเลย แต่ในขณะที่ DME-IAH และ BCN-GRU ทำได้ดีพอสมควรเพราะ SQ เป็นสายการบินแรกที่บิน และยังเป็น city pair ที่มีความสัมพันธ์อยู่ในตัว (DME-IAH เป็นเมืองค้าน้ำมัน BCN-GRU เทียบเสมือน MAD-GRU แต่ดันไม่มีใครบิน) 

 

ในขณะนี้ เนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจในยุโรป ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถ stimulate demand ได้มากพอรองรับ capacity ที่แทบจะเพิ่มเป็นสองเท่าหากเราเปิดบินจาก ARN/OSL - JFK/EWR ผลคือต้องมาดัมพ์ราคาเพื่อชิงส่วนแบ่งจากคู่แข่ง (ซึ่งก็เป็นสมาชิกพันธมิตรดาวด้วยกันอีก) แล้วก็ lose-lose กันหมดครับ

 

และผมสงสัยอย่างหนึ่ง ทำไมการเป็น World's Top 5 Airlines ถึงต้องขึ้นกับการบินไป JFK ด้วยเหรอครับ

 

ป.ล. แต่ที่จริงผมยังมองว่าการบินไทยยังเปิดจุดบินในอเมริกาเหนือได้ แต่ต้องเป็นบินตรง ที่น่าจะพอไหวคือ BKK-YVR บินด้วย 788/789 หรือ A359 ระยะทางมากกว่า LAX-HKG ที่ CX บินประจำไม่มากครับ

เรื่องเอา Star Alliance dominated European Destination เป็นScissor Hub(เเบบ Jet Airways) น่าจะสำเร็จถ้าป้าม่วงทำ Codeshare + Joint-venture ช่วยกันทำมาหากินกับสายการบินร่วมพันธมิตร์อย่างเข้มข้น (ซึ่งอาจจะเป็นไปไม่ได้ ณ ตอนนี้เพราะป้าม่วงเองมีบ่วงผูกติดกับฝ่ายการเมืองที่เดี่ยวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่) 

น่าเสียดายไม่งั้นเราก็จะมี Star Alliance Eurasia Joint-venture เเบบที่มี Altlantic ++ Joint-venture (ทำให้มีพลังต่อกรกับเเขกตะวันออกกลาง ปกป้องสายการบินในพันธมิตร์ต่อการโดนเเย่งผดส.ไป เเละโปรโหมตเเขกขาวของกลุ่มเเทน) 

 

ส่วนกรุงเทพฯ-เเวนคูเวอร์หนะลำพังบินถึง เเต่จะรอดหรอครับภาษีเเคนนาดาโหดกว่าของอเมริกาอีก (ชาวเเคนนาดาที่อยู่ติดชายเเดนยังยอมข้ามพรเเดนมาขึ้นที่สนามบินอเมริกาเลย)เเล้วยิ่วจะเอาเป็นฮับกรรไกร(Scissor Hub)อีกก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่

 

เพราะฉะนั้น ตัวเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือใช้เครื่องพิสัยไกล (B787, A350) เเละใช้ 5th freedom flight เเวะพักตามเมืองต่างๆของญี่ปุ่นเเละเกาหลี (ICN, PUS, NRT, KIX, NGO, etc.)

อาจจะเป็นการเเวะพักที่ ICN ซัก 3 วัน เเละ เเวะพัก KIX ในวันที่เหลือเเบบ BKK-LAX  flight ก็ได้ (ถ้า Open Skies ได้เมื่อไหร่ญี่ปุ่น/เกาหลี ก็คงเป็น main hub อันที่สองเเบบสายการบินอเมริกา)

[Amakung]

เรื่องเอา Star Alliance dominated European Destination เป็นScissor Hub(เเบบ Jet Airways) น่าจะสำเร็จถ้าป้าม่วงทำ Codeshare + Joint-venture ช่วยกันทำมาหากินกับสายการบินร่วมพันธมิตร์อย่างเข้มข้น (ซึ่งอาจจะเป็นไปไม่ได้ ณ ตอนนี้เพราะป้าม่วงเองมีบ่วงผูกติดกับฝ่ายการเมืองที่เดี่ยวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่) 

น่าเสียดายไม่งั้นเราก็จะมี Star Alliance Eurasia Joint-venture เเบบที่มี Altlantic ++ Joint-venture (ทำให้มีพลังต่อกรกับเเขกตะวันออกกลาง ปกป้องสายการบินในพันธมิตร์ต่อการโดนเเย่งผดส.ไป เเละโปรโหมตเเขกขาวของกลุ่มเเทน) 

 

ส่วนกรุงเทพฯ-เเวนคูเวอร์หนะลำพังบินถึง เเต่จะรอดหรอครับภาษีเเคนนาดาโหดกว่าของอเมริกาอีก (ชาวเเคนนาดาที่อยู่ติดชายเเดนยังยอมข้ามพรเเดนมาขึ้นที่สนามบินอเมริกาเลย)เเล้วยิ่วจะเอาเป็นฮับกรรไกร(Scissor Hub)อีกก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่

 

เพราะฉะนั้น ตัวเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือใช้เครื่องพิสัยไกล (B787, A350) เเละใช้ 5th freedom flight เเวะพักตามเมืองต่างๆของญี่ปุ่นเเละเกาหลี (ICN, PUS, NRT, KIX, NGO, etc.)

อาจจะเป็นการเเวะพักที่ ICN ซัก 3 วัน เเละ เเวะพัก KIX ในวันที่เหลือเเบบ BKK-LAX  flight ก็ได้ (ถ้า Open Skies ได้เมื่อไหร่ญี่ปุ่น/เกาหลี ก็คงเป็น main hub อันที่สองเเบบสายการบินอเมริกา)

 

เรื่อง JV ยุโรป-เอเชียน่ะพอเข้าใจได้ครับ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรวม trans-Atlantic ไปด้วย ในเมื่อผู้โดยสารส่วนใหญ่จากเอเชียไม่ได้บินผ่านยุโรปอยู่แล้วเวลาบินไปอเมริกา คือผมก็ไม่ได้เรียนธุรกิจนะ แต่เข้าใจว่าเวลาทำ joint venture ก็ต้องมีผลประโยชน์เท่าเทียมกันทุกฝ่ายแล้วเอาผลประโยชน์นั้นมาแชร์กัน แล้วถ้าเราไม่ได้เอา ผดส ไปอเมริกาผ่านทางนั้นอยู่แล้ว แล้วเราจะมีอะไรให้เขา ไม่เกี่ยวการเมืองหรอกครับ

 

ผมไม่ได้บอกว่าจะให้ YVR เป็น scissor hub นะครับ (จริงๆ ผมไม่คิดว่า scissor hub ที่ไหนก็ตามจะเวิร์กด้วย) แต่จริงว่า aviation taxes ในแคนาดาสูงกว่าอเมริกา ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ผมว่ายกตัวอย่างคนแคนาดาไปขึ้นเครื่องที่อเมริกาก็อาจไม่ตรงนัก กรณีนั้นเป็นการทำ international เป็น domestic แต่สมมติถ้าไป SEA แทน (ระยะทางใกล้ๆ กัน) มันก็ยังเป็น international เหมือนเดิม และก็มีภาษีของทางอเมริกาเหมือนกัน (แต่ไม่เยอะเท่าของแคนาดา)

 

Open skies ระหว่างญี่ปุ่นกับอเมริกามีผลแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2011 แต่เปิดเสรีได้เฉพาะสายการบินของสองประเทศนี้เท่านั้น ถ้าประเทศอื่นจะบินก็ต้องทำตามกฎเดิมครับ

[Rabbitongrass]

เรื่อง JV ยุโรป-เอเชียน่ะพอเข้าใจได้ครับ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรวม trans-Atlantic ไปด้วย ในเมื่อผู้โดยสารส่วนใหญ่จากเอเชียไม่ได้บินผ่านยุโรปอยู่แล้วเวลาบินไปอเมริกา คือผมก็ไม่ได้เรียนธุรกิจนะ แต่เข้าใจว่าเวลาทำ joint venture ก็ต้องมีผลประโยชน์เท่าเทียมกันทุกฝ่ายแล้วเอาผลประโยชน์นั้นมาแชร์กัน แล้วถ้าเราไม่ได้เอา ผดส ไปอเมริกาผ่านทางนั้นอยู่แล้ว แล้วเราจะมีอะไรให้เขา ไม่เกี่ยวการเมืองหรอกครับ

 

ผมไม่ได้บอกว่าจะให้ YVR เป็น scissor hub นะครับ (จริงๆ ผมไม่คิดว่า scissor hub ที่ไหนก็ตามจะเวิร์กด้วย) แต่จริงว่า aviation taxes ในแคนาดาสูงกว่าอเมริกา ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ผมว่ายกตัวอย่างคนแคนาดาไปขึ้นเครื่องที่อเมริกาก็อาจไม่ตรงนัก กรณีนั้นเป็นการทำ international เป็น domestic แต่สมมติถ้าไป SEA แทน (ระยะทางใกล้ๆ กัน) มันก็ยังเป็น international เหมือนเดิม และก็มีภาษีของทางอเมริกาเหมือนกัน (แต่ไม่เยอะเท่าของแคนาดา)

 

Open skies ระหว่างญี่ปุ่นกับอเมริกามีผลแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2011 แต่เปิดเสรีได้เฉพาะสายการบินของสองประเทศนี้เท่านั้น ถ้าประเทศอื่นจะบินก็ต้องทำตามกฎเดิมครับ

ยก trans-Atlanticขึ้นมาเฉยๆครับว่าเรามีตัวอย่าง(มันทำได้เเน่ถ้าจะทำ)

 

ผมบอกว่าให้ทำ JV ยุโรป-เอเชียซะก่อนที่พรรคดาวจะเสีย ผดส. ไปให้บบรดาเเขกตะวันออกกลางมากกว่านี้

 

เรื่อง  joint venture มันต้องคุยกันยาวครับ (มีตั้งเเต่เเบ่งเส้นทางบิน เปลี่ยนเวลาบินให้ตรงกัน เเบ่งตังค์กัน เเละอื่นๆอีกมากมาย) ยิ่งถ้าการเมืองมีเอี่ยวด้วยก็ยิ่งไปกันใหญ่ (ทั่นผู้นำคนเก่าสั่งทำอย่างหนึ่ง...พอคนทั่นผู้นำใหม่มาดันสั่งอีกอย่างซะงั้น) ป้าม่วงยังติดร่างเเหนี้อยู่เพราะยังไม่ใช่บริษัทเอกชนเต็มตัว

 

เรื่องเเวนคูเวอร์ผมพูดไม่เคลียร์เอง(จะสื่อว่ามันจะมีกำไรหรอ...มันยากนะ) ส่วนเรื่องยกงคนแคนาดาไปขึ้นเครื่องที่อเมริกาก็อาจไม่ตรงนักก็จริงอยู่เเต่ตัวเลขคนพวกนี้มันมีมากพอที่ยอมขับรถข้ามเเดนมาขึ้นที่อเมริกาทำให้เห็นได้ว่า ผดส. ชาวเเคนาดารับไม่ได้กับภาษีอันมหาโหดของเเคนนาดา 

 

เรื่อง Open skies จริงอยู่ที่มาเปิดกันตอนหลัง (เเต่พี่มะกันก็เริ่มค่อยๆยึดโตเกียวเป็นฮับต่างประเทศมานาานเเล้วหนิครับ) ผมว่าป้าม่วงน่าจะเลียนเเบบบ้างนะ...ยิ่งถ้าเราเปิดเสรีกับญี่ปุ่นเเละเกาหลีบ้างอะไรๆมันก็จะง่ายขึ้น(มั้ง) 

 

หวังว่าจะเคลียร์ขึ้นนะครับ