33 replies to this topic

[some_economist]

Advertisements

"Winter Break ทำไมไม่กลับบ้าน?" "Spring Break ทำไมไม่ไปเที่ยวที่อุ่นๆ?"

"ผมอยู่สโนว์บอร์ดครับ"

"มาจากเมืองไทย เป็นคนเมืองร้อนเนี่ยนะ จะไปเล่นสโนว์บอร์ด​ (....บลาๆๆ....)"

"ครับ ก็เพิ่งเล่นเป็น Season แรก"

 

ปีนี้อเมริกาฤดูหนาวค่อนข้างยาวเป็นพิเศษ​ (เมษายนก็ยังมีพายุหิมะในบางรัฐ) แต่ก็ได้เวลาปิด Season แล้ว ขอประมวลภาพจากทริปสโนว์บอร์ดใน Season แรกของผมครับ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพทิวทัศน์จากบนเขา ไม่ได้ตั้งใจจะทำรีวิวตั้งแต่แรกเลยไม่ได้ถ่ายรูปรายละเอียดมามากครับ

 

ปีนี้ชมรมของ University of Wisconsin-Madison จัดทริปไปสกีและสโนว์บอร์ด 2 ครั้งที่เมือง Whitefish รัฐ Montana และ Jackson รัฐ Wyoming ตามชมภาพได้เลยครับ

 

 

 

 

 

 

[some_economist]

ทริปแรกของปี (ดองเค็มตั้งแต่มกราคม) ที่ Whitefish Mountain Resort เมือง Whitefish มลรัฐ Montana เดินทางโดยสายการบิน Delta จากเมือง Madison, Wisconsin แล้วเปลี่ยนเครื่องที่ Minneapolis, Minnesota ไปยังเมือง Kalispell, Montana แล้วนั่งรถต่อไปเมือง Whitefish ซึ่งห่างออกไปประมาณ 10 ไมล์ครับ

 

ถ่ายเสื้อ Snowboard Jacket กับ Back Protector เล่นตอนนั่งรอไฟลท์เช้าที่สนามบิน Madison ครับ

 

หิมะโปรยปรายขณะรอเครื่องไปเมือง Kalispell ที่สนามบิน Minneapolis

 

ถึงเมือง Kalispell กับพายุหิมะที่เพิ่งถล่มไปเมื่อวันก่อน

 

 

 

[some_economist]

เดินทางด้วยรถประมาณ 20 นาทีจากสนามบินก็มาถึงที่พักที่ชมรมของมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้ ทริปนี้อยู่ในหมู่บ้านติดภูเขาที่จะสกีและสโนว์บอร์ดพอดี แค่เดินเท้าประมาณ 2 นาทีก็ขึ้น Lift ได้แล้วครับ

 

ภายในหมู่บ้าน หิมะก็ยังตกอยู่ตลอดทั้งวันครับ

 

ซุ้มที่ผมจะพักผ่อน (เตียงสองชั้นเป็นไม้ท่อน ดูสวยงามดีครับ แต่ของส่วนตัวผมรกไปหน่อย)

 

ที่พักเป็นเหมือนบ้านจัดสรรที่เจ้าของให้เช่าผ่านนายหน้าครับ เครื่องใช้ ครัว ห้องน้ำ เตาผิงครบครันครับ

[some_economist]

Lift ที่นี่พาขึ้นไปยัง Summit ความสูง 6817 ฟุต จาก Base Lodge ความสูง 4467 ฟุต ทัศนวิสัยวันแรกปานกลาง เมฆมากและหมอกลงตอนบ่ายครับ

 

ขึ้น Lift ขบวนแรกๆตอน 9 โมงเช้าทันพระอาทิตย์ขึ้นครับ

 

 

แต่เมื่อจะเก็บกล้องก็พบกับสิ่งนี้ สกีสำหรับคนพิการ ภาพนี้ทำให้ผมตื้นตันเป็นวูบนึงว่า ถึงคนจะพิการ แต่ก็ยังสามารถทำสิ่งต่างๆที่ท้าทายได้ แล้วคนธรรมดาแบบเราทำไมจะทำไม่ได้ครับ

[some_economist]

แล้วก็ได้เวลาลงมาแล้ว รูปนี้จบวันที่หนึ่งครับ

[some_economist]

วันที่สองและสาม ทัศนวิสัยแย่เนื่องจากหิมะตกวันละหนึ่งฟุต (วันละ 12 นิ้วมันเทลงมาแบบไม่หยุดไม่หย่อนเลยครับ)

 

วางบอร์ดไว้แป๊ปเดียว กลับมามันจมไปแล้วครับ

 

ระหว่างขึ้น Lift ไป ก็เห็นกระเช้าด้านหน้าแค่คนเดียวเนี่ยแหละครับ (เริ่มคิดในใจ จะลงมายังไงดี)

 

ขึ้นไปถึง Summit House ก็เห็นทางแค่นี้แหละครับ พออ่านแผนที่ว่าจะลง Line หรือ Face ไหนก็พยายามคลำทางลงมาครับ

 

เห็นทางข้างหน้าก็ระยะเมตรเดียวแบบนี้แหละครับ

[some_economist]

ว่าแล้วก็อยากลองเข้าไปในพงต้นไม้เพื่อเล่น Mogul ดู แต่ตอนออกมาดูทางสั้นไปหน่อยก็เลยตกคูจมไปทั้งตัวอย่างที่เห็นนี่แหละครับ

[some_economist]

วันที่สี่ ทัศนวิสัยดี ท้องฟ้าสว่างสวยงาม เป็น Bluebird Day

 

วิวจากระเบียงของ Summit House มีอาหารขายครับ

 

วิวจาก Lift ในวันฟ้าใสครับ

 

Slope นี้ชื่อว่า Ptarmigan Bowl ระดับ Black Diamond หรือ Advanced ครับ

[some_economist]

วิวทางลงกับช่วงอาทิตย์ยามเช้าครับ

[some_economist]

ช่วงบ่ายแดดออก พระอาทิตย์กลาง Scene ติดใจเลยครับ

 

[some_economist]

Slope ของภูเขาฝั่งนี้จะมองเห็นทะเลสาบประจำเมือง Whitefish เกือบตลอดเวลาครับ

[some_economist]

ภูเขาที่ Whitefish Mountain Resort สามารถสกีและสโนว์บอร์ดได้ 3 ด้าน ภาพนี้เป็นด้านแอ่งกระทะซึ่งเป็น Slope ระดับ Black Diamond (Advanced) ครับ

[some_economist]

แล้วก็ปิดวันที่สี่ด้วยการนั่งรถเข้าตัวเมือง Whitefish เพื่อสังสรรค์กับชมรมครับ เผอิญผมไม่ค่อยดื่ม ก็เลยกลับก่อน โคมระฆังที่เห็นเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ครับ

 

 

 

[some_economist]

วันที่ห้า วันสุดท้าย ก็เป็น Bluebird Day อีกวันครับเพียงแต่แดดจัดกว่าและอิ่มกว่าวันก่อน

 

[some_economist]

วันสุดท้ายขอปีนออกนอกพื้นที่ Resort หรือเรียกกันว่าการ Backcountry หรือ Sidecountry ครับ เป็นการสกีหรือสโนว์บอร์ดนอกบริเวณที่ Resort จัดไว้ซึ่งหิมะค่อยข้างสวยและดีกว่าเนื่องจากไม่ค่อยมีคนเล่นผ่าน แต่ข้อเสียคือปีนเหนื่อยครับ และมีความเสี่ยงจากหิมะถล่ม หรือ Avalanche และหากบาดเจ็บต้องการความช่วยเหลือก็ต้องเรียกหน่วยกู้ภัยจากท้องที่แทนเนื่องจาก Resort ไม่รับผิดชอบครับ

 

อาวุธคู่ใจประจำทริปนี้

 

ก่อนจะเริ่มลง Backcountry ครับ

[some_economist]

ภาพสุดท้ายก่อนลา Slope ครับ ทริปแรกของปีก็ทำให้ผมติดใจสิ่งที่เรียกว่าภูเขาแล้วครับ เหมือนเสพติดจริงๆ

[some_economist]

ก่อนนั่งเครื่องบินกลับเมือง Madison ก็ออกมาเดินเล่นชมวิวเป็นครั้งสุดท้ายซึ่ง Resort นี้อยู่ใน Glacier National Park จึงเห็นวิวของ Park ตลอดเช่นกันครับ

 

และก็ยังมองเห็น Slope ตอนนั่งรอเครื่องบินที่สนามบิน

[some_economist]

แล้วก็ยังมองเห็น Slope ที่เพิ่งจากลาตอนรอเครื่องบิน

 

วิวจากหน้าต่างเครื่องบินที่ผมคิดว่าสวยที่สุดเท่าที่เคยเห็น เทือกเขา Rocky ครับ

[some_economist]

จบทริปแรกเมื่อ Winter Break เดือนมกราคมไปแล้ว ตัดมา Spring Break ปลายเดือนมีนาคมเลยครับ ทริปนี้เป็นปีที่ 49 ของชมรมที่เดินทางไปยัง Jackson Hole Mountain Resort เมือง Jackson มลรัฐ Wyoming หลายท่านคงจะเคยผ่านเมืองนี้หากเดินทางไปยัง Yellowstone National Park หรือ Teton National Park ซึ่ง Jackson Hole นี้อยู่ในบริเวณ Teton National Park ครับ

 

Jackson Hole ได้ชื่อว่าเป็น Mountain ที่ยากที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกา ด้วยความสูง 10450 ฟุตจาก Summit ความชันของภูเขา และปริมาณออกซิเจนที่บาง

 

ทริปนี้จัดหนักครับ สโนว์บอร์ด ชุด อุปกรณ์ซ่อม เตารีด Wax

 

เดินทางด้วยรถทัวร์ของชมรมจาก Madison ไป Jackson ระยะทางประมาณ 1350 ไมล์ นั่งรถทัวร์ประมาณ 24 ชั่วโมงครับ ก็นั่งชมวิว อ่านงานวิจัยไป

 

เริ่มเข้ารัฐ​ Wyoming ครับ สัญลักษณ์ประจำรัฐนี้คือ Cowboy ครับ มีการเลี้ยงม้าอยู่ทั่วไป

[some_economist]

ได้ตั๋วมาแล้วครับ ถึงเวลาลุย

 

เนื่องจาก Vertical Rise (ระดับความสูงจาก Base ถึง Summit) ของภูเขานี้สูง 4139 ฟุต (1.3 กิโลเมตร) จึงต้องขึ้นรถ Aerial Tram ไป Summit ครับ บน Summit ก็จะมองเห็น Teton National Park อยู่ตลอดเวลา รวมทั้ง Grand Teton ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน Park ด้วยครับ