43 replies to this topic

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

Advertisements

สวัสดีครับ เมื่อเดือนที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสบินกับ บางกอกแอร์เวย์ส

สายการบินบูติก บริการคุ้มค่า ในเส้นทางสบายๆ สุวรรณภูมิ - เชียงใหม่ - สุวรรณภูมิ ครับ

จริงๆ ผมก็ไม่ได้บินบางกอกบ่อยเท่าไหร่ เรียกได้ว่าบินครั้งสุดท้าย ก็ตั้งแต่ประมาณปี 54 ก่อนที่เค้าจะเปลีย่นเครื่องแบบ

และเปลี่ยน Safety Demonstration ใหม่ซะอีก ....

 

http://www.youtube.com/watch?v=nc_-y56UiHM

 

 

แถมยุคที่เค้าเสิร์ฟข้าวเหนียวบนเครื่อง (ช่วงปี 55) ก็ไม่ทันได้ชิมซักนิด 

ข้ามมาบินอีกทีนึงก็ตอนปี 56 เลย 

 

จริงๆ ต้องขอบอกว่า ความจริงผมบิน เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ ครับ แต่.... เนื่องด้วยความต่อเนื่อง

จะได้ดูเหมือนบินไปเชียงใหม่ ก็เลยโพสต์สลับกันเป็น สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่-สุวรรณภุมิ นั่นเองครับ

(วันที่บิน สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ ใช้หมายเลขเที่ยวบินเป็น PG906 แต่ปัจจุบัน เวลาเหมือนเดิม เลขเที่ยวบินเป็น PG219 ครับ)

 

 

เอาหล่ะ เริ่มต้นที่ Row F ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกันดีกว่า

ข้อดีของบางกอกก็คือ โหลดกระเป๋าได้ล่วงหน้าหลายชั่วโมงสบายๆ 

สมาชิก Flyer Bonus ได้รับสิทธิ์โหลดกระเป๋าฟรี อีก 10 กิโลกรัม แถมถ้าทำเว็บเช็คอินมาได้แถมอีก 5 กิโลกรัม

รวมโหลดได้สูงสุดถึง 35 กิโลกรัมเลยทีเดียว ทุกอย่างฟรี .....

 

 

ได้บอร์ดดิ้งพาสกันแล้ว ตรงไปเข้าเล้าจน์กันเลยดีกว่า .....

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

สารภาพตามตรงว่า ตั้งแต่แอร์เอเชียย้ายไปดอนเมือง

ผมไม่ได้กลับมาใช้บริการ ส่วนภายในประเทศ ของสุวรรณภูมิอีกเลย

 

 

ก็เลยคิดถึงดอยสุเทพมากกกกกกกก 

 

 

รู้สึกได้ว่า พอแอร์เอเชียย้ายไปดอนเมือง ที่นี่โล่งมากกก เพราะเหลือหลักๆ แค่ การบินไทย, ไทยสมายล์ และ บางกอกแอร์ฯ เท่านั้นเอง

ตรงดิ่งไปที่เล้าจน์ ตรง Concourse A เลยดีกว่า

 

พอเข้าเล้าจน์ปุ๊บ ยื่นบอร์ดดิ้งพาส จนท. จะเขียนรหัสผ่าน wi-fi ให้ครับ แล้วก็ตรงไปหาอะไรกินได้เลย ทุกอย่างฟรี !!

 

บรรยากาศสบายๆ คนไม่เยอะมาก หาที่นั่งมุมเงียบๆ ได้อยู่ครับ มีข้าวต้มมัด และของกินสบายๆ อยู่

 

สำรวจไลน์อาหารซักหน่อยนึง ... ข้าวต้มมัดอันเลื่องชื่อ ที่เพิ่มปริมาณแล้ว แต่ดึกๆ อาจจะไม่เหลือ !!

 

เบเกอรี่อื่นๆ ...

 

 

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

สำรวจเล้าจน์กันต่อ บริเวณทิศใต้ของเล้าจน์ กันให้เป็นพื้นที่สำหรับลูกเรือมาบรีฟ กัน นั่งหลั่นล้าก่อนจะบิน

และมีโซนสำหรับกดเครื่องดื่ม และมีของว่างให้ผู้โดยสาร (และลูกเรือ) ได้ทานด้วย โดยไม่ต้องเดินไปถึง ไลน์หลักของเล้าจน์

 

 

ไปดูที่หน้าจอดีกว่า ว่าวันนี้เที่ยวบินจะตรงเวลาไหม แล้วจะใช้เครื่องอะไรทำการบิน

วันนี้ หวยออกที่น้อง HS-PPB ครับ ผมไม่เคยเจออยู่แล้วหล่ะ เพราะบินครั้งก่อนแก๊งค์ PPB PPC PPD PPE ยังไม่มากันเลย

(เจอแต่สุโขทัย HS-PGT, กุ้ยหลิน PGU, กระบี่ PGV, สมุย (ปลาวาฬ) PGW, PGX PGY PGZ PPA เจอครบแล้วววว)

 

ก่อนขึ้นเครื่องก็ต้องเติมพลังซะก่อน แน่นอนว่า บินบางกอกแล้วไม่อิ่ม คงไม่ใช่บินบางกอกครับ 

(ตัวเลขบนบอร์ดดิ้งพาสที่เขียนมา คือรหัสผ่าน wi-fi นะครับ)

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เป็นผู้โดยสารบางกอกก็สบายหน่อย

ตรงที่ไม่ต้องไปรอที่ Gate ตั้งแต่เนิ่นๆ 

 

สามารถนั่งละเลียดๆ กินในเล้าจน์ เล็มๆ ไปได้เรื่อยๆ จนกว่าจะอิ่ม (จริงๆ เผื่อท้องไว้บนเครื่องด้วยก็ดีครับ)

พอได้เวลา Boarding จะมีการประกาศเรียกผู้โดยสารในเล้าจน์ด้วยครับ

 

"บางกอกแอร์เวย์ส เอเชียบูติกแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ PG906 ที่จะเดินทางสู่เชียงใหม่ ณ ประตูทางออกหมายเลข A4 อีกประมาณ 5 นาที จะประกาศเรียกขึ้นเครื่อง ขอบคุณครับ" 

 

รู้สึกว่าคุณภาพชีวิต จะดีกว่าแก๊งค์ดอนเมืองเยอะเลยนะครับ

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ได้เวลาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว .... สายการบินจะประกาศเรียกผู้โดยสารที่อยู่ Zone 2 หรือโซนท้ายเครื่องขึ้นเครื่องก่อนเพื่อความสะดวก

แล้วจึงจะประกาศเรียกผู้โดยสาร Zone 1 หน้าเครื่อง ขึ้นเครื่องต่อไปครับ

 

 

วันนี้บินกับ น้องกรุงเทพ HS-PPB เป็นแก๊งค์ที่ไม่ใช่บางกอกป้ายแดง (พวกแก๊งค์ป้ายแดงคือตั้งแต่ PGT, PGX, PGY, PGZ, PGN, PPA อันนี้ใหม่จริง)

เป็นแก๊งค์ A319 และ A320 ที่เก่ามาจากที่อื่น เริ่มบินตั้งแต่ปี 2005 ดังนั้น ปีนี้ก็อายุย่างเข้าปีที่ 8 แล้วครับ ตามกระทู้นี้ที่เครื่องมาใหม่ๆ เมื่อปลายปี 54

http://www.hflight.n...us-a319-hs-ppb/

สภาพภายใน interior ก็จะเป็นแอร์บัสรุ่นเก่า แต่ก็สะอาดสะอ้านดีมากกกก ลายข้างนอกถ้าไม่สังเกตก็ไม่รู้หรอกครับ จะรู้ก็ในเครื่องแล้วหล่ะ

 

 

เข้าใจว่า ตั้งแต่ปี 52 ที่บางกอกมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง (ที่ลดเส้นทางลงเยอะมากๆ เพื่อลดต้นทุนทุกอย่างลง)

ก็เลยเลือกที่จะใช้เครื่องบินที่ไม่ใช่ป้ายแดง ซึ่งจริงๆ ถ้าเครื่องประวัติดี และ maintenance ดีก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ

 

 

ส่วน config เข้าใจว่าเป็น 138 Y ครับ Seat Pitch ก็นั่งสบายอยู่นะ มาขึ้นเครื่องกันเลยครับ หวยผมออกแถวที่ 10 ซึ่งเป็นแถวก่อน Emergency Exit พอดี จะมีจุดอ่อน ก็คือ เอนเบาะเฉพาะแถวนี้จะปรับไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรครับ

 

 

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ที่นั่งฝั่งขวาว่างงงงง ครับ ผู้โดยสารก็กำลังสบายๆ ไม่แน่นจัดจนเกินไป

บางกอกได้ลูกค้า Code Share เยอะ และลูกค้าประจำเหนี่ยวแน่นก็เยอะเช่นกันครับ

 

 

แป๊บเดียวก็ได้เวลาปิดประตูเครื่องแล้ว

 

 

ลูกเรือเดินแจกกระดาษเย็นให้กับผู้โดยสารทุกคน

(แต่เดิมช่วงปี 51 ก็แจกแบบนี้ มีช่วงที่ลดคอสต์ เนี่ยะหล่ะที่หายไป แล้วกลับมาแจกใหม่ ส่วนตัวผมชอบครับ อย่างน้อยก็ได้รู้สึกได้เช็ดไม้เช็ดมือ สบายตัวก่อนจะออกเดินทาง)

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ได้เวลา push back .....

 

 

และ แสดงการสาธิต ผมก็นึกถึงคลิ๊ปบนจอเหนือศีรษะ แต่ปรากฎว่า เป็นการแสดงสดแฮะ !!!

 

 

ไม่มีการดึงจอลงมาแต่อย่างใด และตลอดเที่ยวบินก็ไม่ได้เปิดจอเลย ไม่มีการฉายหนังตลกใดๆ ทั้งสิ้น

ผมก็เลยอนุมานว่า ถ้าโชคดีเจอแก๊งค์ A319/A320 ยุคป้ายแดง (PGT, PGU, PGV, PGW, PGX, PGY, PGZ, PGN, PPA) ก็อาจจะเปิดจอ

แต่ถ้าเจอแก๊งค์ A319/A320 ยุคเครื่องมือสอง (PPB, PPC, PPD, PPE) ก็อาจจะแสดงสดซะอย่างงั้นไป 

ถึงแม้จะได้รับฉายาว่าเป็นแก๊งค์บางกอกมือสอง แต่ Seat Pitch ก็นั่งสบาย แน่นอนครับ

 

ไฟล์ทนี้แอบโล่งนะเนี่ยะ ....

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ได้เวลาเหินฟ้า จากสุวรรณภูมิ แล้ว .....

 

(เป็นครั้งแรกที่ได้กลับมาใช้บริการฝั่งภายในประเทศ ในขณะที่ ผมยังไม่เคยได้ใช้บริการฝั่งระหว่างประเทศ ของดอนเมืองเลย !!)

 

 

พอเครื่องไต่ระดับได้ ลูกเรือก็เริ่มแจกอาหารแล้วครับ .... อาหารบางกอกนี่ขึ้นชื่อเรื่องจัดหนัก จัดเต็ม สายการบินแห่งชาติชิดซ้ายเลยทีเดียว !!

อย่างที่บอกครับ บินบางกอก แล้วไม่อิ่ม เหมือนไม่ได้บินบางกอก

 

 

การเสิร์ฟก็จะมาเป็นถาด มาแบบที่เห็นในภาพ ขนมปังเสิร์ฟเหมือนไฟล์ทอินเตอร์ แต่ไม่ได้อุ่น ก็ไม่เป็นไร ชอบมาก

 

 

เพราะมีเนยมาด้วย ให้อารมณ์เหมือนบินไฟล์ทอินเตอร์ดี ส่วนอาหารหลักจะเป็นตระกูล Cold Cut (คล้ายกับช่วงกลางปี 51 ก่อนเปลี่ยนเป็นอาหารถุง !!)

เอาเข้าจริงๆ แบบนี้ถือว่าดีแล้วครับ ไม่ต้องย้อนอดีตไปถึงยุคเสิร์ฟอาหารร้อน ไฟล์ทภายในประเทศก็ได้ เพราะทานประมาณนี้หล่ะ ผมว่าโอเคเลย

ถ้าเสิร์ฟอาหารร้อน บางคนก็ไม่กินอีก เสียดายของครับ

 

 

แล้วซักแป๊บนึงก็จะตามมาด้วยเครื่องดื่ม ซึ่งเลือกได้ น้ำส้ม ชา กาแฟ เต็มที่เลยครับ

ในซองชุดช้อนส้อม จะไม่มีครีมเทียม น้ำตาลมาให้ แต่หลังจากที่ผู้โดยสารเลือก ชาหรือกาแฟ ลูกเรือจะยื่นถาดที่ใส่ครีมเทียม, น้ำตาล ให้ผู้โดยสารเลือกหยิบได้ตามอัธยาศัย (เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของ กัปตันพุฒิพงษ์ แกเคยบอกว่า แค่การทำอย่างนี้ก็ลดต้นทุนไปได้เยอะแล้ว เพราะไม่ใช่ผู้โดยสารทุกคนจะใช้ครีมเทียม, น้ำตาล ที่จัดแพคในซอง)

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

มาดูอาหารกันชัดๆ นะครับ เสิร์ฟภายในประเทศได้ขนาดนี้ ผมว่าแจ่มสุดๆ แล้วครับ ....

 

 

เพราะขนาดการบินไทย ก็ยังเป็น Snack Box ธรรมดาๆ + ชากาแฟ น้ำส้ม บริการเต็มที่

ส่วนไทยสมายล์ ก็ถุงยังชีพ มีขนม+น้ำเปล่าขวด + ชากาแฟน้ำส้มน้ำอัดลมฟรี

นกแอร์ก็ห่อกระดาษเล็กๆ มีขนมอานตี้แอนน์ + น้ำกระปุก

โอเรียนท์ก็โก๋แก่เจ้าเก่า + ชากาแฟ น้ำเปล่า ประมาณนี้

ส่วนพี่แดง ไม่เสิร์ฟอะไรเลย ถ้าไม่ซื้อ โลกนี้ก็ไม่มีอะไรฟรี 555

 

 

ความสุขเล็กๆ ที่ได้กินขนมปังทาเนยแบบเต็มๆ คำ บนระดับความสูง 35,000 ฟิต !!!

 

ปิดท้ายด้วยของหวาน รสชาติโอเค ไม่เสียชื่อ Bangkok Air Catering ครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

แต่เวลาแห่งความสุขมีไม่นานครับ เพราะกรุงเทพ-เชียงใหม่ บินแค่ประมาณ 55 นาที

แบ่งเป็น ไต่ระดับ 10 นาที รักษาระดับ 25 นาที และเตรียมร่อนลงจอดก็ราว 20 นาทีแล้ว

ดังนั้น ลูกเรือมีเวลาเสิร์ฟ และให้บริการ ผู้โดยสารมีเวลากินรวมๆ กันไม่เกิน 25 นาทีเท่านั้นหล่ะครับ

 

 

ลูกเรือก็ต้องเร่งเก็บถาดกันแล้ว ผมจึงคิดว่า อาหารปริมาณประมาณนี้หล่ะ กำลังดี คือไม่ดูน้อยเกินไป แต่ก็ไม่มากเกินไปจนกินไม่ทันครับ

นั่งชมท้องฟ้ายามเย็นกันดีกว่าเนาะ ....

 

 

จะลงแว้วววว ....

 

 

แยกบิ๊กซีหางดงที่รัก ....

 

 

แล้วก็ร่อนลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่อย่างนิ่มนวลกำลังพอดี ... เวลาโพล้เพล้ผีตากผ้าอ้อมพอดีๆ 

 

เทียบ Gate 4 เดินใกล้ๆ สบายๆ ลงไปรับกระเป๋าที่โหลดกันดีกว่า .... บนเครื่องก็เตรียมพร้อมรับผู้โดยสารไฟล์ท PG220 กลับกรุงเทพกัน

 

 

จบเรียบร้อย กับเส้นทาง สุวรรณภูมิ - เชียงใหม่ เจ้า ....

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เที่ยวบินขากลับ เชียงใหม่ - สุวรรณภูมิ PG907 รอบบ่าย

 

(ความจริงคือ เป็นเที่ยวบินขามาของผมนั่นแหล่ะครับ แต่ไม่เป็นไร เอาใจชาวกรุงหน่อย)

 

 

เช็คอินแบบสบายๆๆ น้ำหนักกระเป๋ายังเหลืออีกเพียบบบบ ขนาดว่าโหลดรวมๆ กันแล้วนะ แทบไม่เอาอะไรติดตัวขึ้นเครื่องเลย นอกจากกระเป๋าเป้

ไปนอนแค่คืนเดียว ของก็มีแค่นี้หล่ะครับ แห่ะๆ ขากลับใช้น้ำหนักคุ้มหน่อย

 

 

เรียกขึ้นเครื่องที่ Gate 5 แต่เราไม่ต้องรีบบบ ครับ ไปอยู่ที่เล้าจน์กันก่อน ของกินเพียบบบบ

 

 

แน่นอนว่า เล้าจน์มีไว้สำหรับผู้โดยสารทุกคนครับ แต่ถ้าเป็นสมาชิก Flyer Bonus ระดับ Premier สามารถใช้เล้าจน์ Blue Ribbon ได้ 

ซึ่งอาหารการกินก็จะเยอะกว่า เช่นมีติ่มซำ เกี้ยวกุ้ง น้ำผลไม้ให้เลือกหลากชนิดมากกว่า สมาชิก AIS Serenade ก็สามารถใช้สิทธิ์เข้าได้เช่นกัน

แต่เราเป็นคนธรรมดาๆ แค่เล้าจน์ธรรมดาๆ ก็เอาแว้วววว ครับ

 

 

 

 

 

 

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ไลน์อาหาร ในเล้าจน์บางกอกแอร์ฯ ที่เชียงใหม่ (ตอนนี้มีทั้งฝั่งภายในประเทศ และ ฝั่งระหว่างประเทศด้วย) 

เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ธรรมดาๆ นะครับ  นอกจากเบเกอรี่ที่เลือกได้มากมายแล้ว ยังมีป๊อบคอร์นด้วย

 

 

เบเกอรี่ก็เลือกได้นานาชนิด ตามใจชอบเลยครับ

 

 

พระเอกของเล้าจน์ ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ ข้าวต้มมัดครับ .....

ซึ่งเป็นเจ้าเดียวกับเล้าจน์ที่สุวรรณภูมิ มาตรฐานเดียวกัน อร่อยเหมือนกัน ขนมาจากกรุงเทพไฟล์ท PG215 รอบเช้าสุดครับ

พอบินมาถึงปุ๊บ ก็จะนำเข้ามาในเล้าจน์ทันที ทำให้ผู้โดยสารไฟล์ท PG216 ที่จะเข้ากรุงเทพ ก็น่าจะทันได้กินอยู่

(จะมีแค่ไฟล์ทเช้าสุด PG222 รอบ 6.55 น. ที่ไม่มีข้าวต้มมัด)

 

 

วันนี้ก็ขอกินอะไรเบาๆ ก่อนแล้วกัน เผื่อท้องไว้สำหรับบนเครื่องบินบ้าง ....

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วครับ วันนี้หวยออกที่ เจ้า A320 ขาวโพลน ของเก่าจาก Kingfisher ทะเบียน HS-PPE หรือคุณสวัสดิอัมพร นั่นเอง

ไปดูภายในซิว่า จะออกแนวพี่แขกขนาดไหนกัน ....

 

 

มุมบังคับ อีกไม่นานก็คงทำสี เป็นลายกระเป๋าแล้วหล่ะครับ คงจะโล้นขาวๆ แบบนี้อีกไม่นาน ....

 

 

เบาะครีม-แดงงงงง ครับ แต่ก็นั่งสบายอยู่นะ Seat Pitch กว้างขวางดี

 

(หัวหน้าลูกเรือไฟล์ทนี้ เคยเห็นในกระทู้ของเจ๊ Chaneenoy อยู่ครับ ทำงานมานานมากแล้วจริงๆ ใจดีมากๆ)

 

โต๊ะหน้าที่นั่ง .... มีหลุมสำหรับให้ใส่แก้วน้ำ เวลาเครื่องสั่นจะไม่กระฉอก หรือหกออกมาได้

 

กระเป๋าหน้าที่นั่ง ...

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ได้เวลาออกเดินทางแล้วจ้า .... push back ออกมาเจอน้องนก และ เจ้าแดง

 

 

การสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์นิรภัยต่างๆ บนไฟล์ทนี้เป็นการ 'แสดงสด' ครับ ไม่ได้มีการเปิดจอลงมาเพื่อเปิดวีดีโอแต่อย่างใด

รวมถึงวีดีโอตลกๆ ทั้งหลายก็ไม่ได้เปิดนะครับ ....

 

พอแสดงเสร็จ ลูกเรือรีบแจกกระดาษเย็น เพราะไฟล์ทนี้คนแน่น เหมือนจะเต็มลำเลยครับ ขายดีจริงๆ

 

นิตยสารฟ้าไทย และ นิตยสาร In-Flight Variety ฯลฯ

 

ลำนี้เพิ่งรับเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วนี่เองครับ 

 

แล้วก็รอการทำสีใหม่เป็นลายกระเป๋าตามแคมเปญนี้โลด ...

 

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

หลังจากเครื่องไต่ระดับได้เรียบร้อย ลูกเรือก็จะเสิร์ฟอาหารครับ .... มาเป็นถาดๆ

 

 

มาแว้ววว อาหารตระกูล Cold Cut มีขนมปัง เนย ของหวาน และผลไม้ให้เรียบร้อย ....

 

 

แกะห่อออก สวยงามมมมมมม

 

 

ซูม ซูม ดูทีละอย่าง

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

แป๊บเดียว เครื่องดื่มก็ตามมา เลือกได้ตามอัธยาศัย ชา กาแฟ น้ำส้ม !!

 

 

ขอกินขนมปังทาเนยก่อนนะครับ ....

 

 

แป๊บเดียวก็ได้เวลาเคลียร์ถาด และเก็บขยะทุกสิ่งอย่างแล้ว

เตรียมตัวร่อนลงจอด ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ....

 

 

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

แป๊บเดียว ถึงสุวรรณภูมิแว้วววว

 

 

ถึงแล้วเรียบร้อย จอด Bus Gate นะครับ !!

 

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

บ้ายบาย เห็นว่าด้านข้างเครื่องบิน มีช่องสำหรับให้กรีดเปิดในกรณีฉุกเฉินด้วยนะครับ !!

 

 

ไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่แฮะ เพราะไม่ได้บินเข้าสุวรรณภูมิ ภายในประเทศมานานมากแล้ว รู้สึกโล่งเชียว !!

 

 

แต่กระเป๋าก็ต้องใช้เวลารอนานพอสมควรเหมือนกันครับ ....

 

 

แล้วเราก็ออกมาข้างนอก .... เป็นอันจบทริป บางกอกแอร์ฯ อิ่มหนำสำราญทุกเที่ยวบิน จริงๆ !!

 

 

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ

[sasukeooo]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

[VICTORY]

ขอบคุณครับ