
|
|
Posted 19 March 2013 - 08:59 AM
Posted 19 March 2013 - 09:01 AM
ร่วมกันแจกอาหาร อุปกรณ์การเรียนการกีฬา และเงิน แก่เยาวชนชาวกระเหรี่ยง บ้านแก่นมะกรูด/สภาตำบลแก่นมะกรูด
Posted 19 March 2013 - 09:03 AM
๐๖.๓๐ น. ออกเดินทางไป อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ระหว่างทางบริการอาหารเช้า ณ ร้านแม่เสียนสุพรรณ
Posted 19 March 2013 - 09:04 AM
Posted 19 March 2013 - 09:04 AM
๑๒.๐๐ น. รับประทานอาหาร ณ ร้านรุ่งโภชนา
Posted 19 March 2013 - 09:11 AM
Posted 19 March 2013 - 09:13 AM
ชมวิถีชีวิตชาวกระเหรี่ยงบ้านแก่นมะกรูด การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน สาธิตการทอผ้าชาวกระเหรี่ยงบ้านแก่นมะกรูด และแจกอุปกรณ์การเรียนการกีฬาแก่เยาวชนชาวกระเหรี่ยง
ลุงซูรวบรวมเงินจากกลุ่มของผมบริจาคเงิน ให้กับชาวกระเหรี่ยงบ้านแก่นมะกรูด
ทะเล้นน่าดูเมื่อเห็นกล้อง หมู่บ้านชาวกระเหรี่ยงบ้านแก่นมะกรูด
Posted 19 March 2013 - 09:14 AM
๑๗.๓๐ น. เข้าที่พัก ณ ห้วยป่าปก รีสอร์ท พักที่ห้องธนาพร 1 หลังมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ
๑๘.๓๐ น. รับประทานอาหารเย็น และทำกิจกรรมร่วมกัน
Posted 19 March 2013 - 09:15 AM
Posted 19 March 2013 - 09:17 AM
พระอาทิตย์กำลังขึ้นรับอรุณเบิกฟ้า วัดถ้ำเขาวง
การจัดภูมิทัศน์ในวัดถือว่าสวยงาม ฉากหลังเป็นเขาหินปูนสูงหระหง่าน ด้านหน้ามีบ่อน้ำซึ่งมีปลาอาศัยมากมายและสวนที่ตกแต่งด้วยหิน ไม้ดัด ไม้ประดับ ระหว่างทางเดินที่จะขึ้นไปชมถ้ำ จะผ่านน้ำตกเทียม ที่ด้านหลังจะมีถ้ำอยู่ 7-8 ถ้ำ
Posted 19 March 2013 - 09:17 AM
๐๗.๐๐ น. กลับมารับประทานอาหารเช้า — ที่ ห้วยป่าปกรีสอร์ท
Posted 19 March 2013 - 09:18 AM
๐๙.๓๐ น. เยี่ยมชมบ้าน สืบ นาคะเสถียร และชมนิทรรศการเกี่ยวกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง มรดกโลกทางธรรมชาติ
Posted 19 March 2013 - 09:19 AM
๑๔.๐๐ น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารแตน
Posted 19 March 2013 - 09:20 AM
๑๕.๐๐ น. ออกเดินทางไปหุบป่าตาด ชมป่าดึกดำบรรพ์ ภายในหุบนี้ จะมีต้นตาด เต็มไปหมด ซึ่งลูกชิดของหวานที่เราทานกับน้ำแข็งใส ก็ทำมาจากต้นตาด
Posted 19 March 2013 - 09:21 AM
กิ้งกือมังกรสีชมพู ถูกค้นพบโดยสมาชิกในชมรมคนรักกิ้งกือ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 บริเวณป่าเขาหินปูนพื้นที่หุบป่าตาด เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ถ้ำประทุน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี และพบในประเทศไทยเพียงแห่งเดียวในโลก ศ.ดร.สมศักดิปัญหา แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนำมาศึกษาวิจัยภายใต้โครงการวิจัยกิ้งกือและไส้เดือนดิน และร่วมกับ ศ.เฉนริค อิงฮอฟ (Henrik Enghoff) ผู้เชี่ยวชาญด้านกิ้งกือมือหนึ่งของโลกแห่งมหาวิทยาลัย โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก พบว่าเป็น กิ้งกือชนิดใหม่ของโลกและให้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า (Desmoxyles purpurosea) และได้ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารนานาชาติซูแทกซา (Zootaxa) ปี 2550
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2551 สถาบันไอโอเอสอี (International Institute for Species Exploration : IISE) มหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนา (Arizona State University) สหรัฐอเมริกา ประกาศให้กิ้งกือมังกรสีชมพูเป็นสุดยอดการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่อันดับทที่ 3 ของโลกรองจากการค้นพบปลากระเบนไฟฟ้าในแอฟริกาและการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ปากเป็ดอายุ 75 ล้านปี ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้อันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ การค้นพบกิ้งกือมังกรสีชมพูติดอันดับโลกสร้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือให้กับประเทศเทศไทย แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์อีกมากเหตุที่ได้ชื่อว่า กิ้งกือมังกรสีชมพู เพราะอยู่ในวงศ์กิ้งกือมังกรหรือพาราดอกโซโซมาติดี(Paradoxosomatidae) และมีสีชมพูสดใสแบบซ็อคกิงพงค์ (shocking pink) และมีลักษระโดดเด่นด้วยลวดลายและปุ่มหนามคล้ายมังกร พบได้ในป่าที่มีความชุ่มชื้นสูงและอุดมสมบูรณ์แถบภาคเหนือตอนล่างตั้งแต่จังหวัดตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทัยธานี เมื่อโตเต็มวัยจะมีลำตัวยาวประมาณ 7 ซม. มีจำนวนปล้องราว 20-40 ปล้อง และสามารถขับสารพิษประเภทไซยาไนด์ออกมาจากต่อมขับสารพิษข้างลำตัวเพื่อป้องกันตนเองจากศัตรูธรรมชาติจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ เช่น หนู เป็นต้น
Posted 19 March 2013 - 09:22 AM
0 members, 1 guests, 0 anonymous users
ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list) | ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง) | |
ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น. |