Jump to content



 
จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถเช่า
แผนกบริการลูกค้า โทร 02-3737-555 จันทร์ - เสาร์ 09.00-18.00น.

 

ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวและการบินในเอชไฟล์ท เชิญด้านล่างนี้

หน้าแรก | เว็บบอร์ดรีวิว | จองตั๋วเครื่องบิน | จองโรงแรม | เที่ยวต่างประเทศ | เที่ยวในประเทศ | ลงโฆษณา

น่านซินะ ว่าแล้วว่าต้องกลับมาเยือนอีก...ครั้ง

น่านซินะ

  • Please log in to reply
116 replies to this topic

#41 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

 


Posted 03 March 2013 - 01:34 PM

Advertisements

มาวัดภูมินทร์ครับ


วัดภูมินทร์เดิมชื่อ “วัดพรหมมินทร์” เป็นวัดหลวง ตั้งอยู่ในเขตพระนครดังปรากฏชื่อ ตำบลในเวียงในปัจจุบัน เจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2139 ต่อมาอีกประมาณ 300 ปี มีการบูรณะครั้งใหญ่ ในสมัยเจ้าอนันตวรฤทธิ์เดช เมื่อ พ.ศ.2410 (ปลายสมัยรัชกาลที่ 4) ใช้เวลาซ่อมแซมนานถึง 7 ปี

ความสวยแปลกของวัดภูมินทร์ ที่เป็นหนึ่งเดียว คือ เป็นวัดที่สร้างทรงจัตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาคขนาดใหญ่ 2 ตัว แหนพระอุโบสถเทินไว้กลางลำตัว ตรงใจกลางพระอุโบสถจัตุรมุข ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพรพักตร์ออกด้านประตูทั้งสี่ทิศหันเบื้องปฤษฏาค์ชนกัน ประดับนั่งบนฐานซุกชี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย



Advertisements

#42 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 01:34 PM

มาวัดภูมินทร์ครับ


วัดภูมินทร์เดิมชื่อ “วัดพรหมมินทร์” เป็นวัดหลวง ตั้งอยู่ในเขตพระนครดังปรากฏชื่อ ตำบลในเวียงในปัจจุบัน เจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2139 ต่อมาอีกประมาณ 300 ปี มีการบูรณะครั้งใหญ่ ในสมัยเจ้าอนันตวรฤทธิ์เดช เมื่อ พ.ศ.2410 (ปลายสมัยรัชกาลที่ 4) ใช้เวลาซ่อมแซมนานถึง 7 ปี

ความสวยแปลกของวัดภูมินทร์ ที่เป็นหนึ่งเดียว คือ เป็นวัดที่สร้างทรงจัตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาคขนาดใหญ่ 2 ตัว แหนพระอุโบสถเทินไว้กลางลำตัว ตรงใจกลางพระอุโบสถจัตุรมุข ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพรพักตร์ออกด้านประตูทั้งสี่ทิศหันเบื้องปฤษฏาค์ชนกัน ประดับนั่งบนฐานซุกชี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย

Attached Thumbnails

  • Picture 765.jpg
  • Picture 767.jpg
  • Picture 768.jpg


#43 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 01:36 PM

วัดภูมินทร์ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่สมัยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เมื่อ พ.ศ.2410 (ปลายสมัยรัชกาลที่ 4) ใช้เวลาซ่อม นานถึง 7 ปี จิตรกรรมฝาผนังในวิหารหลวงก็เขียนขึ้นในช่วงนี้ ภาพจิตรกรรมหรือ “ฮูบแต้ม” ในวัดภูมินทร์เป็น ชาดกในพุทธศาสนาแต่ถ้าพิจารณารายละเอียดของวิถีชีวิตของคนเมืองในสมัยนั้น มีภาพที่น่าสนใจอยู่หลายภาพ เช่น ภาพเด่น ของ ภาพปู่ม่าน ย่าม่าน ซึ่งเป็นคำเรียกผู้ชายผู้หญิงชาวไทลื้อในสมัยโบราณกระซิบสนทนากัน ผู้ชายสักหมึก ผู้หญิง แต่งกายไตลื้ออย่างเต็มยศ ภาพวาดของหนุ่มสาวคู่นี้มีความประณีตมาก ภาพนี้ได้รับการ ยกย่องว่าเป็นภาพที่งามเป็นเยี่ยมของวัดภูมินทร์ มีการใช้สีแดง ฟ้าดำ น้ำตาลเข้มเป็นปื้นใหญ่ๆคล้ายภาพสมัยใหม่ ของหนุ่มสาวไตลื้อ

Attached Thumbnails

  • Picture 772.jpg
  • Picture 770.jpg


#44 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 01:38 PM

จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถจตุรมุขสวยงามมากครับ..

และภาพภาพปู่ม่าน ย่าม่าน ที่ใครๆก็ต้องมาชมถ้ามาเมืองน่าน

Attached Thumbnails

  • Picture 769.jpg
  • Picture 771.jpg
  • Picture 773.jpg


#45 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 01:40 PM

หน้าวัดภูมินทร์จะเป็นข่วงเมืองน่าน และเลยไปจะเป็นวัดพระธาตุช้างค่ำวรวิหารครับ

Attached Thumbnails

  • Picture 775.jpg
  • Picture 776.jpg
  • Picture 778.jpg


#46 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 01:44 PM

วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร เดิมเรียกว่า “วัดหลวงกลางเวียง” หรือ “วัดช้างค้ำ” อยู่ในเขตเทศบาลเมืองน่าน เลขที่ ๑๓ ถนนสุริยพงษ์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2492 โดยพญาภูเข่ง เจ้าผู้ครองนครน่าน เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญทางพระพุทธศาสนา และพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาในอดีต


พระธาตุเจดีย์ช้างค้ำเป็ที่ประดิษฐานพระบรมสารีลิกธาตุไว้ภายใน นับเป็น ปูชนียสถานสำคัญ เป็นเจดีย์ที่ได้รับอิทธิพลทางด้านศิลปะสุโขทัย จากเจดีย์ทรงลังกา คือเจดีย์วัดช้างล้อมนั่นเอง พระธาตุเจดีย์สร้างด้วยอิฐถือปูนมีสัณฐานเป็นรูปสี่เหลื่ยมจัตุรัสซ้อนกัน 3 ชั้น กว้างด้านละ 9 วา ฐานจากชั้นแรกสูงถึงชั้นสองมีรูปช้างค้ำอยู่ในลักษณะเหมือนฐานรองรับไว้ด้านละ 6 เชือก รวมทั้งหมด 24 เชือก ช้างแต่ละตัวโผล่ส่วนหัวลอยออกมาครึ่งตัวขาหน้าทั้งคู่ยื่นพ้นออกมาจากเหลี่ยมฐาน เหนือขึ้นไปเป็นฐานปัทม์ (ฐานบัว) ซ้อนกัน 3 ชัน และเป็นองค์ระฆังแบบลังกา ต่อจากองค์ระฆังทำเป็นฐานเขียงรองรับมาลัยลูกแก้วลดหลั่นกันไป เป็นส่วนยอด ปัจจุบันพระธาตุเจดีย์ช้างค้ำได้รับการบูรณะซ่อมแซม และหุ้นด้วยแผ่นทองเหลืองทั้งองค์ มีความสวยงามมาก

Attached Thumbnails

  • Picture 779.jpg
  • Picture 781.jpg
  • Picture 782.jpg


#47 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 01:46 PM

เราเข้าไปสักการะพระประธานในพรอุโบสถกันครับ บรรยากาศเงียบสงบมากๆครับ

Attached Thumbnails

  • Picture 787.jpg
  • Picture 785.jpg


#48 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 01:49 PM

ขับรถในเมืองน่านสบายๆครับ :) เราไปไวห้พระบรมธาตุวัดสถารศกันครับ

Attached Thumbnails

  • Picture 788.jpg
  • Picture 789.jpg


#49 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 01:52 PM

วัดสถารศ สร้างเมื่อพ.ศ. 2380 มีพระบรมธาตุสถารศให้เรากราบสักการะ

Attached Thumbnails

  • Picture 794.jpg
  • Picture 791.jpg
  • Picture 797.jpg


#50 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 01:55 PM

คุณเพื่อนรักตื่นบรรทมก็โทรมาเรียกครับ แล้วเราก็ไปหาของกินก่อนเดินทางไปอช.ดอยภูคาและอ.บ่อเกลือกันในวันนี้

เราทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื่อสุราษฎรืธานีที่กาดเมืองน่านครับ

Attached Thumbnails

  • Picture 804.jpg
  • Picture 805.jpg
  • Picture 803.jpg


#51 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 01:58 PM

จากเมืองน่านเรามุ่งตรงไปอุทยานแห่งชาติดอยภูคาครับ
ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคาครับ

#52 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 01:58 PM

จากเมืองน่านเรามุ่งตรงไปอุทยานแห่งชาติดอยภูคาครับ
ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคาครับ

Attached Thumbnails

  • Picture 808.jpg
  • Picture 814.jpg
  • Picture 815.jpg


#53 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 02:01 PM

อุทยานแห่งชาติดอยภูคามีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่ 8 อำเภอของจังหวัดน่าน ได้แก่ อำเภอปัว อำเภอท่าวังผา อำเภอทุ่งช้าง อำเภอเชียงกลาง อำเภอบ่อเกลือ อำเภอสันติสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และ อำเภอแม่จริม ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 1,704 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,065,000 ไร่ จึงทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ของสภาพป่าอันจะเห็นได้จากการพบพืชพรรณ และสัตว์ป่าหายากหลากหลายชนิด และนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดน่าน โดยมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่น่าสนใจคือ ดอกชมพูภูคาซึ่งเป็นพันธ์ไม้หายากและมีที่แห่งนี้ที่เดียวในประเทศไทย ต้นเต่าร้างยักษ์ ป่าดึกดำบรรพ์ น้ำตกภูฟ้า พิชิตยอดดอยภูแว ชมถ้ำยอดวิมาน และถ้ำผาฆ้อง

Attached Thumbnails

  • Picture 818.jpg
  • Picture 816.jpg


#54 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 02:04 PM

เราจะขึ้นไปชมต้นและดอกชมพูภูคากันครับ
ทางขึ้นไปชมก็ลำบากพอดู แต่มาถึงแล้วไม่ขะยั่นครับ สู้โว๊ย
ต้องเดินขึ้นเขา ทางชันพอดู ควรเอาไม้พกติดตัวกันไถลด้วยนะครับ สนุกดีครับ :) :)

ต้นชมพูภูคาเป็นพรรณไม้ที่มีชนิดเดียวในโลก ในประเทศไทยพบเพียงที่เดียวที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ต้นชมพูภูคา เป็นไม้ยืน ต้นขนาดใหญ่ สูงถึง 25 เมตร เปลือ :mellow: :) ^_^ กเรียบ สีเทาอ่อน ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม

Attached Thumbnails

  • Picture 821.jpg
  • Picture 823.jpg


#55 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 02:06 PM

ทางเดินไปชมต้นชมพูภูคา

Attached Thumbnails

  • Picture 828.jpg
  • Picture 827.jpg


#56 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 02:08 PM

เดินไต่มาเหนื่อยพอสมควรก็ถึงที่พัก ก่อนเดินต่อไปชมพูภูคส อากาศบนนี้ดีมากครับ

Attached Thumbnails

  • Picture 830.jpg
  • Picture 838.jpg


#57 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 02:09 PM

ถึงแล้วครับ บริเวณที่มีต้นชมพูภูคา..มันอยู่สูงจัง

Attached Thumbnails

  • Picture 840.jpg
  • Picture 841.jpg


#58 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 02:11 PM

"ชมพูภูคา" (ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bretschneidera sinensis Hemsl. ชื่อวงศ์ : BRETSCHNEIDERACEAE)

ต้นไม้พันธุ์หายากที่ใกล้สูญพันธุ์ของโลก ซึ่งปัจจุบันมีรายงานการค้นพบในโลกเพียงที่เดียวคือที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

โดยเมื่อเกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาเคยมีรายงานการสำรวจพบต้นชมพูภูคาทางตอนใต้ของประเทศจีนและทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม จากนั้นก็ไม่มีรายงานการค้นพบต้นไม้ชนิดนี้อีกเลย ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอาจจะสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ไปแล้ว จนในปี พ.ศ. 2532 ดร.ธวัชชัย สันติสุข นักพฤกษศาสตร์ ได้ค้นพบต้นชมพูภูคาอีกครั้งที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

ชมพูภูคา เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 15-25 เมตร จะเจริญเติบโตได้ดีในบริเวณป่าดงดิบ ตามไหล่เขาสูงชันที่มีความสูงตั้งแต่ 1,200 เมตรขึ้นไปจากระดับน้ำทะเล และมีความชื้นของอากาศสูง มีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีค่อนต่ำ

สำหรับลักษณะทั่วไปของ "ต้นชมพูภูคา" จะมีเปลือกเรียบสีเทา ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวมีใบย่อยรูปไข่แกมรูปใบหอก ปลายใบแหลมยาว แผ่นใบด้านล่างมีนวลสีขาว

ส่วนดอกเมื่อบานจะมีลักษณะคล้ายรูประฆัง กลีบดอกด้านนอกมีสีชมพูจางขาว และกลีบดอกด้านในมีสีชมพูลายเส้นสีม่วง ชูช่อเป็นพวงใหญ่ โดยปัจจุบันได้มีการทดลองเพาะกล้าไม้ชมพูภูคาเป็นผลสำเร็จ ซึ่งก็จะช่วยให้ต้นไม้ชนิดนี้ไม่สูญพันธุ์ไปจากโลกของเรา

สำหรับ "ดอกชมพูภูคา" จะออกดอกเบ่งบานระหว่างเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งผู้ที่สนใจก็สามารถไปชมดอกชมพูภูคา ได้ที่ "อุทยานแห่งชาติดอยภูคา" ซึ่งอุทยานแห่งนี้นอกจากจะมีดอกชมพูภูคาเป็นไฮไลท์

Attached Thumbnails

  • 125293.jpg
  • Picture 847.jpg
  • Picture 845.jpg


#59 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 02:14 PM

แล้วเราก็ไปชมธรรมชาติและพักเหนื่อยที่ลานดูดาวบนดอยภูคากันครับ
ที่มีเต้นท์ให้นักเที่ยวมานอนชมดาวกันด้วยนะครับ

Attached Thumbnails

  • Picture 856.jpg
  • Picture 857.jpg


#60 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 03 March 2013 - 02:15 PM

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีสภาพพื้นที่เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามตามธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ โดยเฉพาะ ยอดดอยภูคา มีเมฆปกคลุมตลอดฤดูฝนและฤดูหนาว จึงมีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ดอยภูคา เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่มีทั้งพืชพรรณและสัตว์ป่าที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์

รวมทั้งเป็น แหล่งกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว ลำน้ำว้า ที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวจังหวัดน่าน และยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ กล่าวคือ เป็นที่เชื่อกันว่าเทือกเขาดอยภูคาเป็นเมืองเก่าของบรรพบุรุษ ของคนเมืองน่านและในปัจจุบันนี้ก็ยังมีศาลเจ้าพ่อภูคา ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 31 ถนนสายปัง-บ่อเกลือ อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดน่านอีกด้วยครับ

Attached Thumbnails

  • Picture 858.jpg
  • Picture 859.jpg
  • Picture 861.jpg





0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users

ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list)     ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง)
   
    ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น.