26 replies to this topic

[peter]

Advertisements

ทริปนี้ไปกับเพื่อนๆ กลุ่มอาสามาให้ ในห้องกล้อง ของพันทิปดอดคอม โดยมีสมาชิกทั้งหมด 10 คน โดยมีรายละเอียดดังนี้

14 ธ.ค. 2555 1:00น. ออกเดินทางไป อ.แม่สอด จ.ตาก หาซื้อเสบียง ทานอาหารเช้าที่ตลาดแม่สอด ไปซื้อกุ้งแม่น้ำยักษ์ที่ตลาดริมแม่น้ำเมยติดชายแดนพม่า แล้วเดินทางไปอุทยานแห่งชาติแม่เมย กางเต๊นท์บ้านที่ม่อนครูบาใส ชมพระอาทิตย์ตก เก็บแสงเย็น และทำอาหาร ค่ำๆ ชมดาวตก และ เก็บภาพทางช้างเผือก เนื่องจากตรงกับขึ้น 1ค่ำท้องฟ้ามืดสนิดจึงเห็นดาวเต็มท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน

ภาษาคำเมือง ม่อน หมายถึง ดอย

สามารถขับรถขึ้นเขา (ถนนลาดยาง) จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เมย ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวระหว่างทางดังนี้

- น้ำตกชาวดอย 5กม.
- ม่อนครูบาใส 7กม. เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ตกดิน และกางเต๊นท์ ไม่มีลม
- ม่อนพูนสุดา 7.5กม.
- น้ำตกแม่ระเมิง 9กม.
- ม่อนกิวลม 12กม. เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ไม่เหมาะสำหรับกางเต๊นท์เพราะลมแรง

15 ธ.ค. 2555 5:30น. ขับรถขึ้นไปม่อนกิวลม เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอก ขากลับ แวะที่น้ำตกแม่ระเมิง, ชมทะเลหมอกที่ม่อนพูนสุด และ ชมทะเลหมอกที่ม่อนครูบาใส ทำอาหารเช้า เก็บสัมภาระ
12:00am ออกเดินทางไป อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช แวะซื้อ เสบียง ผัก, ผลไม้ระหว่างทาง

16 ธ.ค. 2555 7:00น. ไปชม ต้นกระบากใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเดินลงไปในหุบเขา 400เมตร หลังจากนั้นทานอาหารเช้า
11:00am เก็บสัมภาระ ไปทานอาหารเที่ยงที่ร้านปีกไม้ ตำบลป่ามะม่วง ถนนเจดีย์ยุทธหัตถี อำเภอเมือง จังหวัดตาก แล้วเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ 10:00น.

ค่าใช้จ่ายหารเฉลี่ยคนละ 2100 บาท โปรดติดตามชมได้เลยครับ

ขอเอาคำพูดของเพือนร่วมทริปมาครับ
"- เห็นทะเลหมอก จนรู้สึกว่าเบื่อ ..
- กินดีอยู่ดีกว่า อยู่บ้าน ..
- นอนเต้นไฮโซ ใหญ่เวอร์
- พร้อมมีวง Orchestra บรรเลงให้ฟังทุกคืน โด เร มี ฟา ซอล"

ที่บอกว่ามีวง Orchestra บรรเลงให้ฟังทุกคืน คือ อยู่ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาผม ตลอดทั้งคืน

 

ติดตามได้ที่แฟนเพจ Backpacker by Peter / น้าเตอร์ท่องโลก เพราะโลกยังมีสิ่งแปลกใหม่น่าค้นหาอยู่ตลอดเวลา ผมจึงต้องออกเดินทางเพื่อแสวงหาประสบการณ์แปลกใหม่ในหลายรูปแบบ เดินป่า ปีนเขา ท่องเที่ยวธรรมชาติ วัฒนธรรม และนำสิ่งเหล่านั้นกลับมาแบ่งปันผ่านผลงานภาพถ่ายให้กับเพื่อนๆที่มีหัวใจรักการเดินทางเช่นเดียวกัน เพจนี้ต้องการที่จะนำเสนอข้อมูลจากประสบการณ์การเดินทางด้วยตนของผม ที่ดำเนินการเองในทุกขั้นตอน เพราะต้องการเข้าถึงและสัมผัส อย่างลึกซึ้งและผมเชื่อว่าสีสันของการเดินทางไม่ได้เกิดขึ้น ณ ตรงจุดหมายปลายทางเท่านั้นแต่ยังรวมถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดในระหว่างการเดินทาง

 

ม่อนครูบาใส่ พระอาทิตย์ตก, เก็บแสงหลังจากพระอาทิตย์ตก, ค้างคืนที่นี้, ทำอาหาร สำหรับการถ่ายรูปทางช้างเผือก(Micky Way)


ทะเลหมอกกับแสงสีทองตอนเช้าที่ ม่อนกิ่วลม,ม่อนพูนสุด และ ม่อนครูบาใส

[peter]

กทม(A) - แม่สอด( 476 กม. ประมาณ 5 ชั่วโมง 56 นาที
แม่สอด( - อช.แม่เมย© 144 กม. ประมาณ 2 ชั่วโมง 3 นาที
อช.แม่เมย© - อช.ตากสิน(D) 181 กม. 181 กม. 181 กม. ประมาณ 2 ชั่วโมง 38 นาที


สมาชิก 10คน สุดประจิมที่ริมเมย

[peter]

14 ธ.ค. 2555 1:00น. ออกเดินทางหลังเที่ยงคืน แถวถนนจันทร์ สาธร ด้วยรถยนต์ 2คัน นั่งคันละ 5คน แต่ละคันอัดสัมภาระเต็มพิกัด


ถึงแม่สอดเจ็ดโมงเช้าเดิน ซืื้อเสบียงที่ตลาดแม่สอด


ขนมของชาวพม่ามีชื่อว่า hta ma nal (ทะมะแน)


สามล้อเครื่อง ที่แม่สอด

[peter]

อาหารเช้าข้าวซอยไก่ที่ร้านตุ๋ยข้าวซอย ขึ้นชื่อมากที่แม่สอดทุกคนมาต้องมาทานครับ

[peter]

แวะตลาดริมแม่น้ำเมย ชายแดนพม่าเพื่อซื้้อเสบียงอาหาร ซื้อกุ้งแม่น้ำยักษ์เมื่อเทียบกับไอโฟน


แม่ค้าขายกุ้งชาวพม่า ไม่ยอมลดราคากุ้ง แต่แถมกุ้งขนาดเล็กลงมาหน่อย 3 ตัว

[peter]

พวกเราเดินทางมาเที่ยวน้ำพุร้านแม่กาษา ตั้งใจจะมาแช่น้ำแร่สัก 1 ชม. ตอนแรกคิดว่ามีผนังกั้น และ มีสระน้ำสำหรับปรับอุณภูมิเรียบร้อยแล้วไม่ให้สูงเกินไป แต่ดูสภาพแล้วคืนลงไปไขสุกแน่นอนครับ

[peter]

เดินทางถึงอุทยานแห่งชาติแม่เมยช่วงเที่ยง สั่งอาหารที่อช. ทานครับ


บริเวณกางเต๊นท์ภายในอุทยานแห่งชาติแม่เมย แต่เราไม่ได้กางเต๊นท์ที่นี้ พวกเราจะไปกางเต๊นท์บ้านที่ม่อนครูปาใส (เจ้าหน้าที่แนะนำ) หลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จรีบร้อยแล้วครับ


ส้มตำไทยใส่ปู


ส้มตำไทยปูปลาล้า


คอหมูย่าง


ลาบหมู


ไก่ย่าง


กระเพาหมูไข่เจียวคนละจาน พร้อมอาหารที่กล่าวมาข้างต้น ขอบอกว่าอร่อยมากๆ

[peter]

หลังจากทานอาหารเที่ยง พวกเราก็ขึ้นไปกางเต๊นท์บ้าน 2หลัง ที่ม่อนครูบาใส ขับรถขึ้นเขา 7 กม. จาก อช.แม่เมย


จัดการล้างผัก กุ้ง ไก่ หมู เห็ด ออรินจิ


เตรียมเครื่องปรุงในการประกอบอาหารสำหรับมื้อค่ำคืนนี้ หมักหมู หมักไก่

[peter]

เตรียมเครื่องปรุงเสร็จก็ชมพระอาทิตย์ตกดิน ม่อนครูบาใส่


เก็บแสงหลังจากพระอาทิตย์ตกดินที่ละช่วงเวลาที่ ม่อนครูบาใส




เต็นท์บ้านยามพระอาทิตย์ลับของฟ้า ม่อนครูปาใส

[peter]

แย่งกันรับประทานอาหาร ใครช้าอด (งานนี้ไม่มีคำว่าพี่ น้องครับ)


ค่ำคืนนี้นั่งทานกุ้งแม่น้ำยักษ์ ไก่ปิ่ง หมูปิ่ง เห็ดปิง พร้อม กับแกร้มชั้นเลศคือ ชมดาวตก ชมทางช้างเผือก (เนื่องจากตรงกับขึ้น 1ค่ำท้องฟ้ามืดสนิดจึงเห็นดาวเต็มท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน)ม่อนครูบาใส

[peter]

15 ธ.ค. 2555 5:30am ขับรถขึ้นไปม่อนกิวลม เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอก
"ม่อนกิ่วลม" มีชื่อมาจาก ช่อง หรือ กิ่ว ที่มีลมพัดผ่านอยู่เสมอ เป็นจุดชมดวงอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่สวยที่สุดบนเส้นทางสายสายแม่สลิดน้อย-แม่ระเมิง โดยม่อนกิ่วลมตั้งอยู่บนความสูง 940 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นทะเลหมอกม่อน กิ่วลมปกคลุมหุบเขาเบื้องล่าง




พระอาทิตย์ขึ้นที่ม่อนกิวลม


ทะเลหมอกกับแสงสีทองยามเช้า ม่อนกิ่วลม

[peter]

แสงสีทองยามเช้าม่อนกิวลม พวกเราขับรถลงเขาเพื่อแวะน้ำตกแม่ระเมิงกันครับ




น้ำตกแม่ระเมิง ห่างจากที่ทำการของอุทยานแห่งชาติ ตามเส้นทางสู่ม่อนกิ่วลมอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 20 ทางด้านขวามือจะ พบน้ำตก ลักษณะเป็นน้ำตกขนาดเล็กสูงราว 15 เมตร ตกลงมาเป็นสองชั้นไหลลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง

[peter]

ขับรถลงเขาจากน้ำตกแม่ระเมิง ไปยังชมทะเลหมอก ม่อนพูนสุดา

[peter]

ม่อนพูนสุดา เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่ง อยู่ห่างจากม่อนครูบาใส 200 เมตร ชื่อม่อนตั้งขึ้นตามชื่อของ นักถ่ายภาพชั้นครูของเมืองไทย คือ อาจารย์พูน เกษจำรัส และภรรยาของท่านชื่อ สุดา เพื่อเป็นเกียรติแด่ อาจารย์พูน ในฐานะที่เป็นผู้เดินทางมาถ่ายภาพบนหม่อนนี้เป็นคนแรก


นั่งชิลๆ ชมทะเลหมอกที่ม่อนพูนสุดา

[peter]

หลังจากนั้นกลับมาที่เต็นท์ และ ถ่ายทะเลหมอกที่ม่อนครูบาใส




ทุ่งนาขั้นบันได ม่อนครูบาใส


เต๊นท์บ้าน ข้างหลังเป็นทะเลหมอก ม่อนครูบาใส


หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่ ม่อนกิ่วลม ม่อนพูนสุดา ม่อนครูบาใส และ น้ำตกแม่ระเมิงแล้ว พวกเราก็ทำอาหาร ใส่กรอก ไข่ดาว กาแฟ โอวัลติน มาม่า รับประทานและดูทะเลหมอกม่อนครูบาใส หลังจากนั้นทะยอยเก็บเต๊นท์บ้าน และสัมภาระต่างๆ แล้วเดินทางไปถ้ำแม่อุสุกันครับ

[peter]

ถ้ำแม่อุสุ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอท่าสองยางไปทางเหนือ 12 กิโลเมตร บนทางหลวงหมายเลข 105 สายแม่สอด – แม่สะเรียง เลยกิโลเมตรที่ 94 ไปเล็กน้อย จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ตรงข้ามทางเข้าถ้ำแม่อุสุ เป็นทุ้งหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตย์


การเดินทางเข้าไปชมถ้ำจะต้องเดินลุยไปตามลำห้วยแม่อุสุในช่วงฤดูฝนจะไม่สามารถเข้าไปเที่ยวชมภายในถ้ำได้เนื่องจากระดับน้ำจะมีความสูงมากอาจเกิดอันตรายได้ส่วนบรรยากาศภายในถ้ำนั้นค่อนข้างจะกว้างและใหญ่เลยทีเดียวครับ เข้าไปจะสัมผัสได้ถึงอากาศ ที่เย็นสบาย


เดินไปทางไหนก็จะเจอแต่หินงอกหินย้อยในรูปร่างต่างๆแปลกตาสวยงามมาก


หินย้อย ถ้ำแม่อุสุ


ทางด่านทิศตะวันตกของตัวถ้ำแม่อุสุจะพบโพรงหินขนาดใหญ่ ช่วงบ่ายสามโมงจะมีลำแสงสาดส่งเข้ามาในถ้ำแต่พวกเราต้องรีบเดินทางไปอุทยานตากสินมหาราช จึงไม่ได้เฝ้ารอเก็บภาพครับ

[peter]

เดินทางไปอุทยานตากสินมหาราช ใช้เส้นทางสายตาก-แม่สอด ทางหลวงหมายเลข 105 ถึงบริเวณกิโลเมตรที่ 26 มีทางแยกขวาเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานฯ

ระหว่างทางแวะทานข้าวขาหมู อันแสนอร่อย แต่จำชื่อร้านไม่ได้แล้วครับ อยู่ติดถนนใหญฝั่งขวามือ พวกเราไปถึงอุทยานกันค่ำครับ กว่าจะรอเพื่อนอีกกลุ่มมาสมทบก็ปาไปสามทุ่ม และเริ่มทำอาหาร ทานเสร็จก็เที่ยงคืนพอดี

[peter]

16 ธ.ค. 2555 6:30am เก็บแสงยามเช้าที่อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช



7:15 โดยเดินลงไปในหุบเขา 400เมตร ต้นกระบากใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ต้นกระบากใหญ่ เป็นต้นไม้ที่ขึ้นในบริเวณหุบเขาของป่าดงดิบ เป็นพันธุ์ไม้เนื้ออ่อนมีลักษณะลำต้นตรงเปลา (คือ ลำต้นสูงชะลูดไม่มีกิ่งที่ลำต้น) เรือนยอดเป็นพุ่มกลมเปลือกสีน้ำตาลปนเทา มีอายุประมาณ 700 ปี มีขนาดวัดโดยรอบได้ 16.40 เมตร สูง 50 เมตร ผมก็ให้นักท่องเที่ยวราว 14 คนโอบครับ เป็นต้นกระบากใหญ่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผู้ค้นพบคือ นายสวาท ณ น่าน ช่างระดับ 2 สถานีโทรคมนาคม จังหวัดตาก


พวกเราก็เดินขึ้นเขามาอีก 400 เมตร ขึ้นมาพักตรงจุดนี้ครับ แล้วนั่งรถกลับที่พัก

[peter]

กลับมาถึงที่พัก ทานกาแฟ โอวับติน มาม่า โจ๊ก รองท้องกันก่อนแล้ว เตรียมอาหารกัน


ไส้กรอก


ไข่อะไรหว่า


ไส้กรอกไส้เนย


ผัดผัก

[peter]

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเก็บเต๊นท์บ้านและสัมภาระต่างๆ


แวะที่ทำการอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช เอาเตาถ่านมาคืน ค่าเช่าเตา 30บาท ค่ามัดจำเตา 100 บาท