54 replies to this topic

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

Advertisements

สวัสดีครับ .....

สำหรับใครหลายๆ คนที่มีความรัก .... วันวาเลนไทน์ ที่ผ่านมา หลายๆ คู่น่าจะมีความสุขกับความรักกันนะครับ ส่วนใครที่คบกันมานานแล้ว เริ่มพร้อมที่จะออกเรือน เป็นฝั่งเป็นฝา ก็เริ่มที่จะบอกรัก(บ่อยๆ) และ ขอแต่งงานกัน

นั่นแน่ ... หลายคนเริ่มที่อยากจะคิดมุขขอแต่งงานกันแล้วใช่ไหมครับ อย่างส่วนตัวผมเอง อายุ 26 ย่างจะ 27 ปี ผ่านเบญจเพสมาเรียบร้อยดีไม่มีอุปสรรคใดๆ สำหรับตัวผมและคุณเธอเอง เราเองมีที่มาที่สุดแสนจะเหลือเชื่อ ใครจะไปคิดว่าทำงานเป็นหมอรักษาน้องหมาน้องแมวอยู่ดีๆ วันหนึ่งก็มีคนที่เราถูกใจปิ๊ง พาน้องหมามารักษา จนสุดท้าย หมอก็ติดตามการรักษาแบบต่อเนื่อง (follow case เป็นอย่างดี) แรกๆ ก็ใช้เบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาล ต่อมาเริ่มใช้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว (อ้างว่ามีโปรโมชั่น) จนสุดท้ายเราก็ได้คบกัน พอคบกันยิ่งตะลึงไปกว่าเดิม ตรงที่ว่า เราทั้ง 2 คนชอบเที่ยวกันแบบบ้าระห่ำเหมือนกันทั้งคู่ ต่างกันตรงเพียงแค่ว่า ผมชอบบินไปเที่ยว และเธอชอบขับรถเที่ยวเอง เราก็เลยจูนกันได้ครับ ก็เลยกลายเป็นบินไปเช่ารถขับสนุกสนาน แบบหลายๆ ทริปที่ทุกๆ ท่านเคยเห็น

การที่เราคบกัน เป็นช่วงเวลาที่เราจะเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ว่าเขาและเธอชอบอะไร และไม่ชอบอะไร และเราจะปรับตัวเข้าหากันได้อย่างไร ... จนกระทั่งการที่เราจะขอแต่งงานใครซักคน ผมคิดว่า เราจะต้องมีความพร้อม และมีช่วงเวลาดีๆ ให้กัน เรียนรู้ซึ่งกันและกันมากพอสมควรครับ ยิ่งฝ่ายชาย ตั้งใจจะเซอร์ไพรส์ฝ่ายหญิงแล้วด้วย อย่าลืมนะครับ ต้องเรียนรู้ และเฝ้าสังเกตคุณแฟนดีๆ มิฉะนั้นอาจจะผิดแผน และ ให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามกันได้

กระทู้นี้ เป็นเรื่องราวความรักของคนสองคน ที่ได้มีโอกาสขอแต่งงานบนเที่ยวบินไทยแอร์เอเชีย
ทั้งคู่ คบกันมา 6 ปี เท่ากับอายุของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เราจะเห็นได้ว่า เดี๋ยวนี้ กระแสการขอแต่งงานแบบประกาศให้โลกรู้ นั้นกำลังฮิตมากๆ ครับ การขอแต่งงานแบบนี้ ฝ่ายชายจะต้องรู้จักและเข้าใจตัวคุณแฟนดีๆ นะครับ บางคนอาจจะอายม้วน เขินจนทำอะไรไม่ถูก บางคนอาจจะโกรธมาก เพราะเธออาจจะมองว่า เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องส่วนตัว (อย่างเรื่องของผม ผมกะคุณเธอตกลงกันแล้วว่า เรื่องแบบนี้ ขอรู้กันแค่ 2 คนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องประกาศให้โลกรู้ แต่เผอิญว่าของผมมี เจ้าลูกชายชิวาว่าหูกาง นั่งฟังเป็นสักขีพยานอยู่ตัวเดียว)

หลายๆ คู่ก็มีวิธีการขอแต่งงานที่แปลกๆ กันไป บางคนพาแฟนไปดินเนอร์สุดหรูแล้วบอกรัก บางคนใช้กระดาษเขียนข้อความ เป็นสื่อรัก ที่นิยมกันมากก็แน่หล่ะครับ ใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลาง พร้อมกับแหวน หลายๆ คนอาจจะจดจำภาพมุขที่คนอื่นเค้าเคยใช้กันไปแล้ว ..... (โปรดอย่าได้เดาว่า ผมขอแต่งงานคุณเธอที่ไหน เพราะคุณจะทายผิดครับ อิอิ)

เอาการขอแต่งงานที่อลังการกันก่อนนะครับ ...

ที่ผมประทับใจมากที่สุด ก็คือ การขอแต่งงานของคุณพ่อ-คุณแม่น้องจูล่ง (French Bulldog) จากกระทู้แนะนำในตำนาน ที่เดินทางข้ามประเทศแล้วก็เลิกกัน (เลิกเป็นแฟนเปลี่ยนมาเป็นภรรยาแทน) ผมได้มีโอกาสเจอตัวเป็นๆ ของทั้งคู่ พาเจ้าจูล่งมาให้ผมฉีดวัคซีน (ที่ทำงานเก่าผม) ทั้งคู่น่ารักมากๆ ครับ โดยเฉพาะคุณพี่ผู้ชาย ที่ตั้งใจที่จะขอแฟนสุดที่รักแต่งงาน แบบสุดประทับใจจริงๆ พร้อมวิธีการด้วยนะครับ เผื่อคุณผู้ชายจะเอาไปใช้บ้าง กระทู้นี้แบบว่าได้กีบกันเป็นกระบุงๆ เลยทีเดียว (ยินดีเทกีบให้หมดหน้าตัก)

พี่แกบอกว่า จะขอแต่งงานวันลอยกระทง แล้วเอาแหวนใส่ไว้ในกระทง ก็กลัวจะธรรมดาเกินไป ....

เล่าประสบการณ์การเดินทางที่ชวนร้องไห้ อุตส่าห์พาแฟนไปเที่ยวไกลครึ่งค่อนประเทศ แต่สุดท้ายเราต้องเลิกกันกลางทางT_T โดยคุณ Silent_Jealouser
http://www.pantip.co...9/E7892599.html
(กระทู้ยาวมากๆ หลายร้อยความเห็น อืดหน่อยนะครับ แต่สนุกมากๆ ตามไปอ่านนะครับ แล้วคุณจะซึ้งและอินเลิฟสุดๆ ไปเลย)

http://www.youtube.com/watch?v=ECt7GwesZD4

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

หรือจะทำอย่างในคลิ๊ปนี้

ขอแต่งงานกันหน้า Central World สุดแสนอลังการ
(แต่ดูท่าจะหมดตังค์ไปเยอะ) ต่อหน้าประชาชนมากมายที่อยู่ตรงหน้านั้น

http://www.youtube.com/watch?v=FSbjdl818hE

หรือ อย่างคลิ๊ป คุณนายตำรวจ ขอแต่งงานกับคุณแฟนสาวออฟฟิศ

ที่หน้าตึก CP ที่น่ารักดีเหมือนกัน เห็นมีคลิ๊ปเบื้องหลัง เห็นพี่แกเตรียมการเยอะมากๆ เลยครับ
อาศัยความร่วมมือจากเพื่อนฝูงมากมาย ซึ่งก็น่ารักมากๆ เล่นทำคุณผู้หญิงอายม้วนไปเหมือนกัน

http://www.youtube.com/watch?v=Kh9PqFA1-l4

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เอาหล่ะครับ ... กลับมาที่เรื่องของเรากันบ้าง

อย่างที่คุณน้องเจเค..LSKY เค้าได้โพสต์กระทู้แบบเป็นการเป็นงานไปแล้ว ตามลิ๊งค์นี้
http://www.pantip.co...1/E8887611.html
เห็นมีสมาชิกมากมายกรี๊ดกร๊าดกันอยู่
หลายๆ ท่านคงจะได้เห็นภาพเหตุการณ์แบบสวยๆ แจ่มๆ ไปแล้วนะครับ

แต่หลายๆ ท่านอาจจะยังไม่รู้ถึง เรื่องราวความเป็นมาของทั้งคู่ ว่า คบกันมาเป็นเช่นไร กว่าจะถึงวันนี้
และ มาขอแต่งงานบนเครื่องบินแอร์เอเชียได้อย่างไร อย่างที่หลายๆ ท่านทราบครับว่า เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
แต่เป็นการเตรียมงานมาหมดแล้ว ทั้งฝ่ายคุณผู้ชาย และ ทางสายการบิน ซึ่งมีบริษัทออแกไนเซอร์ มาเตรียมงานให้ออกมาดูดีที่สุดครับ
มีเพียง ฝ่ายหญิง และ ผู้โดยสารคนอื่นบนเที่ยวบิน ที่ไม่ได้รับรู้ล่วงหน้าเท่านั้นเอง (เนียนมากครับ)

Attached Thumbnails

• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

จริงๆ แล้ว การขอแต่งงานครั้งนี้ มิใช่เหตุการณ์ครั้งแรกบนเครื่องบินแอร์เอเชียครับ ...

เคยมีอยู่คู่หนึ่ง ที่เคยขอแต่งงานบนเครื่องบินแอร์เอเชียมาแล้ว แต่เป็นการเตรียมกันแบบเล็กๆ
โดยฝ่ายชายได้ขอความช่วยเหลือจากลูกเรือ ให้ช่วยจัดกิจกรรมสร้างเซอร์ไพรส์กับแฟนสาวเล็กๆ น้อยๆ
บนเที่ยวบินไทยแอร์เอเชีย กรุงเทพ-บาหลี เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2552 ตามลิ๊งค์นี้ครับ

FD3677 (4Sep09) Flight นี้มี Surprise!! โดยคุณ Taklyz
http://www.hflight.n...m/m-1252567839/

ครั้งนั้น แม้ไม่ได้มีการเตรียมงานจากภาคพื้นดินเลย แต่ทั้งคู่ก็ได้รับเสียงปรบมือจากผู้โดยสารทั้งเที่ยวบินครับ

[song55]

คลิปอันแรกดูแล้วโดนใจมากๆ เห็นแล้วน้ำตาไหลเลยอ่ะ อยากให้เราเป็นแบบนั้นบ้างจัง แต่ว่าสังคมก็คงยังไม่ค่อยเปิดกว้างเท่าไหร่ เอาแค่เซอร์ไพรส์วันเกิดดีกว่า อิอิ แต่คงไม่ใช่หางแดงอ่ะ อาจจะเป็นบูติกแทน

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

มาถึงคราวนี้ .... เป็นการขอแต่งงาน “อย่างเป็นทางการ” บนเที่ยวบินของไทยแอร์เอเชีย

จุดเริ่มต้นน่ารักมากๆ ครับ คือ คุณพี่ทั้งสองคน ฝ่ายชายชื่อ คุณเร เป็นช่างภาพนิตยสารแห่งหนึ่ง ซึ่งก็คุ้นเคยกับแวดวงสื่อมวลชนอยู่แล้ว (เลยไม่แคร์สื่อ อิอิ) และฝ่ายหญิงคือ คุณหมอปุ๋ม ทันตแพทย์สาวจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทั้ง 2 คนได้พบกัน เนื่องจาก ฝ่ายชายเป็นช่างภาพ และ ฝ่ายหญิงเป็นบัณฑิตสาว เพื่อนของทั้ง 2 คนรู้จักกัน ฝ่ายบัณฑิตสาว ต้องการช่างภาพฝีมือดี มาถ่ายรูปในงานรับปริญญา เพื่อนของบัณฑิตสาวจึงได้ช่วยมองหาช่างภาพ ซึ่งเผอิญว่าเพื่อนบัณฑิตสาว ก็มีเพื่อนที่มีเพื่อนเป็นช่างภาพอยู่ (งงดีไหมครับ ??) ก็เลยได้ช่างภาพหนุ่มคนนี้มาถ่ายรูปให้

ทีนี้ ทั้ง 2 คนก็ได้เป็น ผู้ให้บริการ กับ ผู้รับบริการ (เหมือนใครก็ไม่รู้ อิอิ) แรกเริ่มก็ .... ไม่ได้ปิ๊งอะไรมากมาย แต่ก็เริ่มมีความคุ้นเคยกันมากขึ้น จนกระทั่งเกิดปฏิบัติการ “จีบลูกค้า” ขึ้น (เหมือนใครไม่รู้ หุ หุ) จนสุดท้ายก็ได้เป็น “แฟน” กันในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2547 ครับ หลังจากที่ไทยแอร์เอเชียเริ่มบินได้เพียง 11 วันเท่านั้น (ไทยแอร์เอเชียบินไฟล์ทแรก 3 กุมภาพันธ์ 2547 แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าสายการบินถึงให้วันเกิดตัวเองเป็น 4 กุมภาพันธ์)

แม้บ้านจะอยู่ห่างไกลกัน แต่ทั้ง 2 ก็สานสัมพันธ์ต่อกันเรื่อยมา โดยระยะแรก คุณหมอปุ๋ม เป็นทันตแพทย์ใช้ทุนอยู่ที่พิษณุโลก คุณเรก็โทรศัพท์ติดต่อกันมาเรื่อย

จนต่อมา คุณหมอปุ๋มได้มาทำงานแถวๆ สมุทรปราการ แต่บ้านคุณเรอยู่แถวเยาวราช คุณเรก็เลยนั่งรถเมล์มาหาคุณหมอบุ๋มที่คลินิกช่วงหัวค่ำของทุกวัน รอจนคุณหมอปุ๋มเลิกงานจึงได้ออกไปทานอาหารมื้อค่ำด้วยกัน (เหมือนใครเอ่ย ... ชีวิตผมก็เคยเป็นแบบนี้หล่ะครับ เลิกงาน 2 ทุ่มไปดินเนอร์กับคุณเธอต่อ อิอิ)

ทั้งคู่จึงมีเวลาให้กันได้ไม่มากเท่าไหร่ครับ ไปเที่ยวได้แค่ใกล้ๆ กรุงเทพเท่านั้นเอง เพราะทั้งคู่ต่างก็มีภาระงานไม่ได้มีเวลาไปเที่ยวไหนเลย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ตอนช่วงที่คบกัน มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ คุณเร ประสบอุบัติเหตุหนัก ต้องนอนอยู่โรงพยาบาลนานกว่า 3 เดือนครึ่ง โดยแพทย์ได้วินิจฉัยว่ามีโอกาสที่จะเป็นอัมพาตครึ่งตัวเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่า คุณหมอปุ๋มซึ่งเป็นทันตแพทย์ก็รับทราบดี .... ในช่วงเวลาที่คุณเรอยู่โรงพยาบาล คุณหมอปุ๋มคอยเฝ้าดูแลอาการคุณเรอยู่ตลอดเวลา

จนกระทั่งคุณเรอาการดีขึ้น สามารถกลับไปเดินเหินและใช้ชีวิตได้ตามปกติ (ลองคิดดูสิครับ ถ้าเกิดคนเรารู้ตัวว่า แฟนคนรักของเราอาจจะไม่เหมือนเดิม คุณจะรับเขาได้ไหมครับ ?? ถ้าคุณไม่รักเขาจริง คุณคงจะทิ้งเขาแล้ว จริงไหมครับ .... อารมณ์หนังเรื่อง Happy Birthday เลย ซึ่งว่าไปน้ำตาผมก็ไหลเหมือนกัน ซึ้งครับ – พอดีผมเคยไม่สบายแม้เพียงระยะสั้นๆ คุณเธอก็ดูแลผมดีเหมือนกันครับ)

ทีนี้ ด้วยความที่ ความรักของทั้งคู่ กับอายุของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เกือบจะเท่าๆ กันพอดี คือ 6 ปีเท่ากัน และไทยแอร์เอเชียเอง ก็เพิ่งจัดงานแถลงข่าว Six and Sexy เมื่อต้นเดือนฉลองอายุครบ 6 ปี ประจวบกับคุณเร เคยไปทำข่าวตอนที่ คุณนิ้ง กุลสตรี กับ คุณแฟนนักบินไทยแอร์เอเชีย แต่งงานกัน (เข้าตำรา One Culture One Family พบรักกันที่หางแดง) คุณเรฝ่ายชายจึงได้เกิดการปิ๊งไอเดีย ขอแต่งงานคุณหมอปุ๋มแฟนสาวบนเครื่องของแอร์เอเชียขึ้นมา .....

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

วิธีการติดต่อกับแอร์เอเชียนั้น เรียบง่ายมากครับ ...

ใครจะไปคิดว่า การติดต่อกับสายการบินแอร์เอเชีย ผ่านหน้าเว็บไซต์ ช่องทาง Contact us ธรรมดาๆ ตามลิ๊งค์ที่หลายๆ คนอาจจะเคยคุ้นกันดี
http://www.airasia.c...DetailsForm.jsp



แอร์เอเชียเขาจะสนใจเร้อ สายการบินก็ออกจะใหญ่โต แถมไม่รู้จักคนข้างในอีก
แต่ความจริงแล้ว ไทยแอร์เอเชียเอง ก็กำลังมองหากิจกรรมดีๆ ในวันวาเลนไทน์พอดี ทุกอย่างก็เลยเข้าล๊อกครับ
เพราะเรื่องราวความเป็นมาของคุณเร กับคุณหมอปุ๋ม มีความน่าสนใจ และเข้ากับอายุของไทยแอร์เอเชียพอดี

ไทยแอร์เอเชีย จึงติดต่อกลับไปยังคุณเร เพื่อนัดเข้ามาสัมภาษณ์
นั่นแน่ หลายๆ คนอาจจะคิดว่า ลองติ๊ต่างกันเป็นแฟน แล้วขอสายการบินจะขึ้นไปแต่งงาน แล้วจะเนียนบินฟรี ได้ที่พักฟรีกับแอร์เอเชียได้ง่ายๆ หล่ะสิ
แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลยครับ ทางสายการบินเขามีทีมงานพิจารณาเรื่องราว แล้วนัดมาสัมภาษณ์เพื่อยืนยันว่า เป็นคู่รัก ที่กำลังจะแต่งงานกันจริงๆ

จากนั้น สายการบินจึงได้มีการเตรียมงานเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานครั้งนี้ ร่วมกันกับคุณเร โดยมีบริษัทออแกไนเซอร์รับช่วงจัดการเตรียมงานทั้งบนเครื่องบิน และ โรงแรมผู้สนับสนุนหลัก คือ โรงแรมเขาหลักซีวิว รีสอร์ทแอนด์สปา เขาหลัก จ.พังงา

ซึ่งทั้งหมด ....
คุณหมอปุ๋มไม่ได้รู้สึกระแคะระคายอะไรเลย .....

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

กำหนดการเดินทางเป็นเที่ยวบิน FD3031 กรุงเทพ-ภูเก็ต ในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ นั่นเองครับ ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของไทยแอร์เอเชีย ได้เชิญสื่อหนังสือพิมพ์ และ นิตยสารต่างๆ มาร่วมบนเที่ยวบินนี้ เพื่อร่วมเป็นสักขีพยาน แน่นอนครับ จุดประสงค์เพื่อทำข่าวให้ดังขึ้นหน้าหนึ่งไปเลยทีเดียว อย่างงานนี้ นอกจากจะได้ลงไทยรัฐหน้า 1 แล้ว คุณสรยุทธ์ยังได้หยิบข่าวมาเล่าผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้อีกด้วย



นิยามรักกลางเวหา หนุ่มช่างภาพเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานบนเครื่องบิน
http://www.thairath....tent/life/65080

เอาหล่ะสิครับ ดูเป็นงานเป็นการขึ้นมาแล้ว...หลายคนคงจะสงสัยว่า .... เอ่อ แล้วคุณหมอปุ๋ม เค้าจะไม่ว่าอะไรเหรอ เค้าจะเซอร์ไพรส์ หรือเค้าจะอึ้ง แล้วเค้าจะรับได้หรือเปล่า แต่ความจริงแล้ว คุณเรได้แอบตะล่อมถามคุณหมอปุ๋มแล้วว่า ถ้ามีเซอร์ไพรส์ประมาณ ขอแต่งงานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ จะไหวไหม คุณหมอปุ๋มบอกว่า อาจจะเขินๆ แต่ก็โอเคนะ (ไฟเขียวผ่านฉลุย !!)

คุณเรก็เลยได้ออกปากชวนคุณหมอปุ๋มแฟนสาว ไปเที่ยวทะเลภูเก็ตกัน ซึ่งทั้งคู่บอกว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวด้วยกันไกลที่สุด (เอ่อ สำหรับผมกะคุณเธอ เราบินด้วยกันร่วมๆ > 20-30 ตุ๊บแล้วมั้งครับ) เนื่องจากเป็นวันวาเลนไทน์ ครบรอบ 6 ปีอยากไปเที่ยวทะเลสวยๆ แน่นอนครับ คุณเรบอกว่า ถึงแม้ว่างานนี้ไทยแอร์เอเชียจะไม่เล่นด้วย ยังไงเขาก็จะขอแต่งงานกับคุณหมอปุ๋ม ในวันวาเลนไทน์นี้อยู่ดี

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

วันเดินทางจริง .... 14 กุมภาพันธ์ 2553

ณ เคาน์เตอร์เช็คอิน Row E ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หนุ่มสาวหลายคู่ต่างก็บินกันวันนี้ แน่นอนครับ คุณเร และ คุณหมอปุ๋มก็มาด้วยกัน แต่ทั้งคู่โดนจับแยก ไม่ได้นั่งด้วยกันครับ (เป็นการแกล้งเล็กๆ จากไทยแอร์เอเชีย) คุณเรนั่งที่นั่ง 1A (ริมหน้าต่างด้านซ้าย) ส่วนคุณหมอปุ๋ม นั่งที่ 1D (ริมทางเดินคนละฟาก) มีกระทาชายแปลกหน้านั่งคั่นอยู่ตรงกลางถึง 2 คน ช่างเป็นทริปที่น่าสงสาร ดุจประหนึ่งโฆษณา Pick A Seat ที่คู่รักโดนจับแยกที่นั่งออกจากกัน

พอเช็คอินเสร็จ ทั้งคู่ได้ถูกเรียกไปสัมภาษณ์บริเวณข้างๆ เคาน์เตอร์เช็คอินครับ ที่สำคัญ มีการลากคู่อื่นไปสัมภาษณ์เนียนๆ ด้วยเพื่อความสมจริง ประมาณว่า สัมภาษณ์ความรู้สึก ทำไมถึงบินกับแอร์เอเชียในวันวาเลนไทน์??

สีแดงคือสีแห่งความรัก ..... เป็นสีของหัวใจ

จากนั้น ก็ปล่อยให้ขึ้นเครื่อง เป็นไปตามกระบวนการปกติครับ เที่ยวบินนี้ใช้เครื่องบินลำใหม่ HS-ABJ หนึ่งในแก๊งค์พรมดำครับ (ตอนนี้ผมเหลือแต่เจ้า HS-ABK ลำเดียวที่ยังไม่เคยนั่ง นอกนั้นสอยมาหมดแล้วครับ ส่วน HS-ABM ลำต่อไป สีท่าจะเป็นตัว ETOPS รอรับมอบแล้วเปิดบินอินเดียแน่เลยอ่ะครับ)

วันเดินทาง : 14 กุมภาพันธ์ 2553
เที่ยวบิน : FD3031 กรุงเทพ – ภูเก็ต
เครื่องบิน : แอร์บัส A320 ทะเบียน HS-ABJ
เวลาออกเดินทา ง : 16.55 – 18.20 น.
เวลาออกเดินทางจริง : ช้ากว่ากำหนดนิดหน่อย
จำนวนผู้โดยสาร : 167 คนจาก 180 ที่นั่ง (ไฟล์ทภูเก็ตขายดิบขายดี)

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เที่ยวบินของไทยแอร์เอเชีย FD3031 ในวันวาเลนไทน์ ...

เผินๆ อาจจะดูเหมือนเที่ยวบินหางแดงอื่นๆ ไฟล์ทภูเก็ต ที่มีฝรั่งมากกว่าผู้โดยสารคนไทย แต่ความจริงแล้ว ไฟล์ทนี้มีอะไรที่ผิดปกติไปเยอะเหมือนกัน ถ้าเป็นคนบินหางแดงบ่อยๆ ดูแล้วจะจับได้เลยครับ แต่ถ้าคนที่ขึ้นเครื่องไม่บ่อยอย่างคุณหมอปุ๋ม รับรองเนียนสนิท แทบจะไม่มีพิรุธให้จับได้เลยทีเดียว

1. เที่ยวบินนี้ มีลูกเรือถึง 7 คนครับ เป็นสจ๊วต 2 คนและแอร์โฮสเตส 5 คน

ใครที่เคยขึ้นเครื่องหางแดง จะทราบดีว่าบนเครื่องปกติจะมีลูกเรือแค่ 4 คน การที่เพิ่มลูกเรือได้มากถึง 7 คนตามปกติไม่สามารถทำได้ครับ ดังนั้น ลูกเรือที่เกินขึ้นมา 3 คน คือ บินมาแบบผู้โดยสารแต่แต่งชุดลูกเรือครับ งงดีไหม เพราะจะต้องมีการออกบอร์ดดิ้งพาสให้กับลูกเรือที่ไม่ได้ on duty ด้วย (ก็จะมีลูกเรือ 2 กลุ่มคือที่ on duty 4 คนรับหน้าที่ทำงานเต็มที่ และส่วนอีก 3 คนคือขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ)

ปัญหาที่ความเกือบจะแตกก็เกิดตรงที่ว่า ตอนที่ผู้โดยสารขึ้นเครื่องครบแล้ว ทางจนท. ภาคพื้นถามถึงลูกเรือที่ไม่ได้ on duty แต่ขึ้นรถมาพร้อมกับลูกเรือที่ on duty ด้วย เลยทำให้จำนวนผู้โดยสารไม่ครบตามรายชื่อ เครื่องบินก็เลยออกเดินทางยังไม่ได้

เห็นทางทีมของแอร์เอเชียก็ลุ้นกันอยู่ กลัวความจะแตก เพราะคุณหมอปุ๋มก็นั่งอยู่ตรงแถวหน้าสุด 1D พอดีนั่นเอง แต่คุณหมอปุ๋มแทบไม่ได้สนใจอะไรเลยครับ เธอนั่งอ่านนิตยสาร Travel3Sixty อย่างเมามันมากๆ แทบไม่เงยหน้ามองอะไรรอบข้างเลย

เพราะคนรอบข้างตรงแถวๆ Hot Seat ทุกคนต่างทราบกันดีครับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบนเที่ยวบิน ทุกอย่างได้มีการเตรียมไว้หมดแล้วครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

2. ช่างภาพเพียบ กล้องวีดีโอตรึม แถมมีเจ้าหน้าที่ของแอร์เอเชียขึ้นเครื่องมาด้วยตั้งหลายคน

ทุกคนต่างมีอุปกรณ์ประจำตัวครับ ทั้งกล้องใหญ่ และกล้องวีดีโอ ลูกเรือทุกคนต่างทราบดี และเตรียมการเล่นด้วย ยิ่งผมรู้สึกว่าลูกเรือที่ผมพบเจอในเที่ยวบินนี้ ต่างมีบุคลิกประจำตัวคือ เป็นคนที่เอนเตอร์เทนเก่งมากๆ โดยเฉพาะคุณหัวหน้าลูกเรือเที่ยวบินนี้ สุดยอดเลยครับ แต่คุณหมอปุ๋มก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน นั่งอ่านนิตยสารอย่างจริงจังดังภาพประกอบ....

3. ทั้งลูกเรือ และ นักบินต่างก็เล่นด้วยครับ
งานนี้มีการเตรียมการเป็นอย่างดี จริงๆ แล้วเห็นว่า คุณนักบินอยากจะออกมาประกาศนอกห้องนักบินด้วยซ้ำไป (อยากเล่นด้วย) ลูกเรือแอร์เอเชีย ต่างเตรียมพร้อมกันมาอยู่แล้วครับ ทำให้กิจกรรมบนเที่ยวบินนี้มีความสนุกมากขึ้น (ลูกเรือมีการประกาศทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษบนเที่ยวบิน ว่ามีอะไรเกิดขึ้นอยู่บ้าง)

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

4. เที่ยวบินนี้ ขายอาหารไวขั้นเทพครับ ทำเวลาสุดๆ

ตามกระบวนการ การขายอาหาร แน่นอนครับ หางแดงก็ต้องขายอาหาร แต่ไฟล์ทนี้ ลูกเรือทุกคนรู้ว่าจะมีกิจกรรมใหญ่เกิดขึ้น แต่เวลาบินแป๊บเดียวแค่ กรุงเทพ-ภูเก็ต

ดังนั้น พี่แกก็เลยเซิ้งแจกอาหารกับผู้ที่สั่งจองอาหารไว้แล้วอย่างเร็วครับ แล้วก็ขายอาหารไวขั้นเทพเลย เข็นคาร์ทไปอย่างรวดเร็ว ประหนึ่งว่าขายพอเป็นพิธี ว่าฉันขายอาหารแล้วนะ ซึ่งโชคดีว่าไฟล์ทนี้เป็นไฟล์ทบ่าย ผู้โดยสารซื้ออาหารกันน้อยอยู่แล้วครับ (อาหารร้อนเลยเหลือบาน แต่ไฟล์ทขากลับ ภูเก็ต-กรุงเทพ ตรงกับมื้อค่ำพอดี น่าจะขายได้เยอะอยู่แล้วครับ)

Attached Thumbnails

• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

5. มีของแจกผู้โดยสารท่านอื่นๆ ทุกคนบนเที่ยวบินด้วยเช่นกัน

อย่างที่ผู้โดยสารทุกคนได้รับ นั่นก็คือ ไอศกรีมฮาเก้นดาส แต่น่าเสียดายว่าเป็นรสมะม่วงและแพชั่นฟรุ๊ต ถ้าเป็นรสสตอเบอรี่จะแหล่มมากๆ และ มีดอกกุหลาบสวยๆ จากไทยแอร์เอเชีย แจกตอนลงจากเครื่องบินครับ

ช่องเก็บดอกกุหลาบก็คือ ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะบริเวณที่นั่ง Hot Seat ฝั่งซ้ายนั่นเอง เมื่อเครื่องบินถึงภูเก็ต ทุกคนต่างตื่นตะลึง เมื่อแอร์โฮสเตส เปิดฝาออกมามีดอกกุหลาบมากมายอยู่ (เห็นว่าหมดไปเป็นหมื่นนะครับ ดอกกุหลาบวันวาเลนไทน์อย่างแพง)

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เอาหล่ะครับ .... เริ่มกระบวนการเซอร์ไพรส์กัน

หลังจากที่ลูกเรือขายอาหารเสร็จเรียบร้อย นักบินก็ประกาศรายงานสภาพอากาศเสร็จ ลูกเรือก็จะให้สัญญาณคุณเร เริ่มต้นจาก คุณพี่ช่างภาพ (เสื้อเขียว) หิ้วกล้องไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำด้านหน้า (ผมก็นึกในใจว่า คุณหมอปุ๋มไม่สงสัยเหรอว่า ทำไมคุณพี่ช่างภาพถึงหิ้วกล้องโทรทัศน์ใหญ่บึ้มเข้าไปในห้องน้ำด้วย แต่เห็นคุณหมอบุ๋มตอบในภายหลังว่า ไม่แปลกใจเพราะว่า คุณเรสอนมาว่า กล้องจะต้องอยู่กับตัวเราตลอดเวลา ก็เลยคิดว่าพี่ช่างภาพห่วงกล้อง เลยหิ้วกล้องเข้าไปทำธุระในห้องน้ำด้วย)

จากนั้น คุณเรจะเดินไปยังท้ายเครื่อง แล้วก็เดินนำดอกกุหลาบใหญ่มาให้คุณหมอปุ๋ม แล้วก็ขอคุณหมอปุ๋มแต่งงานด้านหน้าเครื่องบินครับ .... ดูภาพจากคลิ๊ปนี้จะเห็นภาพมากขึ้นนะครับ ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้าง แน่นอนครับ ทำเอาหลายคนบิดตัวม้วนต้วนอายเขินกันเลยทีเดียวเชียว ....

http://www.youtube.com/watch?v=kJgzneWvgRI

ดูภาพนิ่งประกอบด้วยก็ได้ครับ อิอิ

ปล. คุณเรเล่าให้ฟังในภายหลังว่า ตอนที่เดินออกไปเอาดอกไม้ท้ายเครื่องนั้นตื่นเต้นสุดๆ ตัวเองก็ตื่นเต้นแล้ว คุณแอร์ก็ถามคุณเรว่า ตื่นเต้นไหม
หนูตื่นเต้นมากๆ เลย (สรุปว่าตื่นเต้นกันไปหมดทั้งคุณเรและลูกเรือ)

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

พอทุกอย่างเรียบร้อย สวมแหวนแล้ว สุดท้ายแล้ว คุณเร และคุณหมอปุ๋ม ก็ได้นั่งด้วยกันตรงที่นั่ง 1A และ 1B ครับ ดูท่าทางคุณเรจะมีความสุขมากๆ ที่ได้ขอแต่งงานเสร็จสิ้น ตอนก่อนที่จะเดินไปท้ายเครื่องเพื่อไปเอาช่อดอกไม้ คุณเรนั่งแทบจะไม่อยู่สุข หันเลิกลั่กตลอดเวลา (เข้าใจว่ากำลังตื่นเต้นอยู่) หันไปสบตาใครก็มีแต่คนยิ้มให้ (รู้กันอยู่ทุกคน) แต่สิ่งหนึ่งผมมั่นใจว่า ทริปนี้คุณหมอปุ๋มจะต้องมีความสุขมากที่สุดเลยครับ คงจะเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คนที่รู้สึกมั่นใจ ที่ชายคนที่ตนรัก ได้กล้าทำในสิ่งดีๆ ให้กับตนครับ

คุณหมอปุ๋มได้บอกในภายหลังว่า ตอนแรกที่ได้ยินเสียงนักบินปราชญ์ประกาศว่า มีชายหนุ่มจะขอหญิงสาวแต่งงาน ยังคิดว่าเป็นคนอื่นอยู่เลย ก็เลยไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งเห็นช่อดอกไม้นี่หล่ะ ..... เซอร์ไพรส์สุดๆ ไปเลย

กิจกรรมนี้ ก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ คิดว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่ต่างแฮปปี้กันดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนแจกไอศกรีมฮาเก้นดาส เหมือนทุกคนจะเป็นปลื้มกันใหญ่ครับ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ และสุดท้าย พอเครื่องบินถึงภูเก็ต ทุกคนก็ได้รับดอกกุหลาบ คนละ 1 ดอก

ปล. มีแต่คนแซวผมว่า ผมไม่ขอแต่งงานคุณเธอบนเครื่องหางแดงมั่งเหรอ ไหนๆ ก็บินหางแดงบ่อยอยู่แล้ว ผมตอบเลยครับว่า ไม่แน่ๆ ครับ ไม่งั้นคุณเธอมีตบตาย กร๊าก เขินจัด

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เมื่อถึงภูเก็ต ทั้งคู่ก็ได้นั่งรถลิมูซีนตรงไปยัง โรงแรมเขาหลักซีวิว รีสอร์ทแอนด์สปา ครับ

รถลิมูซีนคันนี้ รถโตโยต้า อัลตีสใหม่ 2.0V สีขาวมุกอย่างสวยครับ จัดมาเป็นพิเศษ ติดสติกเกอร์รอบคัน เห็นบอกว่าเป็นรถส่วนตัวของเจ้าของบริษัททัวร์ในภูเก็ต ซึ่งคุณเจ้าของรถก็ลงทุนขับรถพาว่าที่คู่บ่าว-สาวไปส่งถึงเขาหลักเลยทีเดียวครับ ..... โดย โรงแรมเขาหลักซีวิว รีสอร์ทแอนด์สปา ได้มอบที่พัก 1 คืนพร้อมแพคเกจสปาด้วยสำหรับทั้งคู่ครับ

เห็นว่า หลังจากนี้ ทั้งคู่ก็จะไปดูฤกษ์แต่งงานกันครับ (เห็นคุณหมอปุ๋มบอกว่า ถ้าจะแต่งยังไงก็ต้องขอก่อน แล้วถึงจะไปดูฤกษ์กันได้ครับ)
ซึ่งส่วนตัวผม ผมก็ขอให้พี่ๆ ทั้งสองมีความสุขมากๆ และรักกันตลอดไปครับ

ความรักของพี่ คล้ายของผมมากเลยครับ รักกับลูกค้า เนี่ยะใช่เลย !!!
หวังว่า กระทู้นี้คงจะทำให้หัวใจของหลายๆ ท่านรู้สึกอิ่มเอมพองโตไปตามๆ กันครับ
ใครที่มีความรัก ขอให้รักกันนานๆ และอยู่ด้วยความเข้าใจนะครับ
ใครที่ยังไม่มีความรัก ขอให้มีความรักเร็วๆ นะครับ แล้วจะรู้ว่าความรักนั้นเป็นแรงที่ทำให้เราทำอะไรหลายๆ อย่างได้ โดยที่เราอาจจะคาดไม่ถึง
(ส่วนใครที่เจอรักขม ก็ขอให้กลับมาเป็นปกติเร็วๆ นะครับ)

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[Littleboy@Nan]

โรแมนติก อ่ะ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

แถมเรื่องรถเช่าที่ภูเก็ตนิดหน่อยครับ ....

เนื่องจากเทศกาลวาเลนไทน์ + ตรุษจีน
จึงทำให้หารถเช่าขับเองยากมากๆ ครับ
ส่วนตัวผมเองก็ลองโทรสอบถามจากบริษัทรถเช่าท้องถิ่นมากมาย

ไม่มีเจ้าไหนมีรถว่างให้เช่าเลยครับ

สุดท้ายแล้ว ก็มีอะไรดลใจให้ผมโทรหา AVIS
เจ้าที่ผมไม่เคยจะคิดใช้บริการเลย
ปรากฎว่า มีรถว่างพอดีครับ และถ้าชำระแบบ Pre-paid
(คือ ชำระเต็ม เลื่อนไม่ได้ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถ้าไม่ไปใช้ก็คือทิ้งเลย จองล่วงหน้า 1 วัน)
จะเหลือแค่วันละ 1,080 บาท (รวมทุกอย่างแล้ว) สำหรับรถ Vios

ผมก็เลยได้ทีใช้บริการของ AVIS เป็นครั้งแรกครับ
เลยได้ข้อคิดอย่างหนึ่งว่า AVIS เหมาะสำหรับการเช่าแบบฉุกละหุกครับ เพราะค่ารถ ณ หน้าเคาน์เตอร์นับว่าถูกนะครับ
(แต่จองผ่าน Call Center จะถูกสุด แต่ต้องรูดบัตรเลยนะครับ) เมื่อเทียบกับรถเช่า Budget หรือ Master ที่นับว่าแพงมากๆ ทีเดียว

สำหรับการติดต่อ กรณีบินไปถึงภูเก็ตแล้ว เข้าไปที่บูธของ AVIS ฝั่งระหว่างประเทศเลยครับ ทำรายการเรียบร้อย เตรียมบัตรประชาชน ใบขับขี่ และบัตรเครดิตที่จะใช้ประกันวงเงินไว้ให้พร้อม พอ จนท. เตรียมเอกสารให้เซ็นต์ชื่อเรียบร้อย แล้วก็เดินออกไปรับรถตรงลานจอดได้เลยครับ

ข้อเสียของ AVIS เด่นๆ ก็คือ เรื่องไม่ติดฟิล์มกรองแสงครับ รถทุกคันไม่มีฟิล์มกรองแสงเลย
ดังนั้น ขับไปร้อนไปหน่อยนะครับ แดดภูเก็ตยิ่งแรงๆ อยู่ และรถทุกคันเป็นรุ่นต่ำสุด อาทิเช่น่ Vios รุ่น J ในขณะที่ Budget และ Master จะเป็นรุ่นรองท๊อปครับ

แต่โชคดีที่ผมได้อัพเกรดเป็น Yaris ครับ หน้าตาเป็นแบบนี้ (ถ่ายวันกลับนะครับ)

สำหรับใครที่บินกับแอร์เอเชีย ...
ตอนนี้มีโปรโมชั่นของ Hertz อยู่นะครับ
สำหรับรถเล็ก (Vios, Jazz, City) คิดแค่วันละ 690 บาทเท่านั้น

เพียงแต่มีเงื่อนไขคือ ต้องเช่าขั้นต่ำ 2 วันขึ้นไป
และต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน
ในวันรับรถจะต้องแสดงบอร์ดดิ้งพาสของแอร์เอเชียด้วย
สนใจก็โทรจองรถกับ Call Center ของ Hertz ได้เลยครับ

ผมก็เลยคิดว่าเป็นโปรที่ดีครับ ....
ส่วนใครที่ไม่ได้บินกับแอร์เอเชีย แต่เป็นผู้ถือบัตรเครดิต KTC อยู่
ทาง KTC มีโปรโมชั่นร่วมกับ Thai Rent A Car นะครับ
เช่ารถ 1 วัน แถม 1 วัน ราคา 2 วันราคารวมทุกอย่างเป็น 1,960 บาท (ตกวันละ 980 บาทครับ) เงื่อนไขก็คือ ต้องเช่า 2 วันติดเช่นกัน แล้วชำระ 1,960 บาท

แต่ข้อดีของ Thai Rent A Car ก็คือ ค่า Deduct ต่ำมาก (ค่าความเสียหายเบื้องต้น ที่ผู้เช่าต้องรับผิดชอบ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ) เพียงแค่ 3,000 บาทเองครับ ในขณะที่ AVIS คิดถึง 8,000 บาทเลยทีเดียว ถ้าจะซื้อประกันภัยเพิ่มก็วันละ 200 บาท ในขณะที่ AVIS ต้องซื้อประกันภัยถึง 3 วันแม้จะเช่ารถแค่วันเดียวก็ตาม

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
•